Skip to main content

ลูกทะเล



 


 


ตอนที่เรือหางยาวอ้อมเกาะออกไปสู่ทะเลลึกและทิ้งหมู่บ้านไว้เบื้องหลังนั้น แดดยามสายก็ทวีความร้อนแรงมากขึ้นและเผาผิวหนังจนรู้สึกแสบ แต่ยูนุสคุ้นเคยกับแดดร้อนของทะเลที่นี่ดี  คนที่ดำรงชีพโดยการพึ่งพาอาศัยความอุดมสมบูรณ์จากท้องทะเลย่อมต้องคุ้นเคยกับคลื่นลมและแดดแรงเป็นธรรมดา และดังนั้นชาวประมงอย่างพวกเขาย่อมไม่มีใครมีผิวขาว


 


ยูนุสทิ้งสมอลงใกล้ ๆ บริเวณที่มีปะการังเทียมซึ่งป๊ะของเขาและเพื่อนบ้านช่วยกันทำและนำมาทิ้งไว้เพื่อให้เป็นแหล่งอาศัยวางไข่ของสัตว์น้ำ เขาคุ้นเคยกับท้องทะเลบริเวณนี้ จำได้ว่าตรงไหนมีหินก้อนใหญ่ซ่อนอยู่ใต้น้ำและคนที่ไม่ระวังจะต้องชนเข้าอย่างจังจนเรือแตก ตรงไหนมีปะการังน้ำลึกที่หาได้ยาก


 


ป๊ะของยูนุสตัดปลาหมึกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ และเกี่ยวเข้ากับเบ็ด คลายสายเบ็ดที่พันรอบแกลลอน แล้วขว้างออกไปไกลในทะเล ยูนุสก็ทำเช่นเดียวกัน


 


.........


 


ช่วงเวลาปิดเทอม ยูนุสมีโอกาสได้กลับมาอยู่บ้านนาน ๆ ตอนที่อยู่ปอเนาะเขาเฝ้าแต่คิดถึงท้องทะเล และรอคอยวันเวลาที่จะได้กลับไปหาท้องทะเลอีกครั้ง ท้องทะเลที่เขาผูกพัน ท้องทะเลที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเขา


 


โลกของยูนุสห้อมล้อมด้วยความเวิ้งว้างล้ำลึกของทะเล ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ทะเล ระหว่างบ้านของเขากับทะเลนั้นห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว วัยเด็กของเขาก็แยกไม่ออกจากท้องทะเล การต้องจากทะเลที่คุ้นเคยไปอยู่บนแผ่นดินใหญ่เพื่อไปเรียนหนังสือสำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องที่ทรมาน แต่วันนี้เขาก็ได้กลับมาแล้ว โรงเรียนปิดเทอมแล้ว


 


เพื่อน ๆ ก็กลับมาเช่นเดียวกัน ทุกคนต่างโตขึ้น  แขนขาดูเก้งก้าง ขัด ๆ เขิน ๆ   พวกผู้ใหญ่ก็จะแซวว่า "ไม่เห็นหน้าแป๊บเดียวก็โตเป็นหนุ่มแล้วนะ"


 


ยูนุสได้รวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ เหมือนในวัยเด็กอีกครั้ง พวกเขาพากันดำผุดดำว่าในท้องทะเลหน้าบ้านโดยไม่รู้จักเบื่อ


 


ยูนุสและเพื่อนชอบเล่นซ่อนแอบ โดยใช้ลำเรือเป็นสิ่งกำบัง เขาจะดำว่ายอย่างคล่องแคล่วจากเรือลำนี้ไปลำนั้นเพื่อไม่ให้เพื่อนมองเห็นและจับได้  เมื่อเล่นจนเหนื่อยแล้ว บางครั้งเขาก็จะไปยืนตกปลาอยู่ตรงหัวสะพานที่ยื่นยาวออกไปในทะเล มีเด็กหลายคนไปยืนตกอยู่ก่อนแล้ว  หรือบางทีเขาก็จะไปช่วยมะ เก็บ "หอยชักตีน" ยามน้ำลดในตอนเย็น


 


.........


 


เกาะที่เลือนลางอยู่ข้างหน้าโน้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องเชื่อ นักท่องเที่ยวต่างชาติพากันเข้าไปยึดครองท่องเที่ยวราวกับเป็นเมืองขึ้น ยูนุสเคยไปเกาะแห่งการท่องเที่ยวนี้หลายครั้ง เขามีญาติอยู่ที่นั่น แต่บางทีเขากับป๊ะก็วิ่งเรือรับจ้างพานักท่องเที่ยวไปที่เกาะแห่งนั้น


 


ไม่ช้าไม่นาน ยูนุสก็รู้สึกได้ถึงแรงกระตุกเบา ๆ ที่แล่นมาตามสายเบ็ด เขาดึงสายเบ็ดขึ้นอย่างรู้จังหวะ มีปลาเคราะห์ร้ายติดขึ้นมาด้วย เป็นปลา "นางงาม" นั่นเอง นี่เป็นปลาตัวแรกสำหรับวันนี้  เขาปลดปลาออกจากเบ็ด  เหยื่อยังคงใช้ได้ เหวี่ยงเบ็ดกลับไปใหม่


 


นกหาปลาบินวนเวียน  พอมองเห็นเหยื่อ  มันก็จะโฉบลงอย่างรวดเร็ว ไม่พลาด! ที่ปากของมันมีปลาดิ้นสะบัดอยู่ไปมา ผิวเกล็ดของปลาตัวนั้นสะท้อนกับเปลวแดดเป็นสีเงินยวง บางทีนกหาปลาเหล่านี้ก็มีประโยชน์สำหรับคนตกปลาเหมือนกัน เพราะตำแหน่งที่มันบินวนฉวัดเฉวียนนั้นบอกให้รู้ว่ามีฝูงปลาอยู่


 


ยูนุสสาวสายเบ็ดขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เขาได้ปลาเก๋า น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม เห็นจะได้ เขาจับต้องตัวมันด้วยความภาคภูมิใจ เขารักปลาทุกตัวที่เขาตกได้ เขารักท้องทะเลที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ปลายังมีให้เขาตก หมึกยังจำนวนมากพอที่จะให้ป๊ะของเขาวางไซดัก


 


อีกครั้งหนึ่งที่ยูนุสรู้สึกได้ถึงแรงดึง เป็นแรงดึงอันหนักหน่วงกว่าทุกครั้ง  ถังแกลลอนที่พันสายเบ็ดไว้หมุนกลิ้งไปมาโครมครามบนท้องเรือ


 "สงสัยจะตัวใหญ่" ยูนุสพูด


 "คงจะเป็นปลาใบ" ป๊ะของเขาบอก ปลาชนิดนี้คนกรุงเทพเรียกว่าปลากระโทงแทง ฝรั่งเรียกว่าปลามาร์ลิน


 


ยูนุสปล่อยสายเบ็ดออกไปตามแรงลากของปลา หากออกแรงฝืนไว้มาก ๆ บางทีสายเบ็ดอาจขาดได้ ต้องค่อย ๆ ผ่อน และค่อย ๆ ดึงกลับเข้ามา  นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาสู้กับปลาตัวใหญ่ ปกติป๊ะของเขาจะเข้ามาจัดการเอง แต่ครั้งนี้ป๊ะของเขาปล่อยให้เขาสู้กับปลาโดยลำพัง


 


ไม่ช้าไม่นาน ยูนุสก็ได้เห็นปลาตัวใหญ่ที่กำลังชักลากกับเขาอยู่ มันกระโดดขึ้นเหนือน้ำ รูปร่างของมันประเปรียวสวยงามมากทีเดียว      


"ปลาใบจริง ๆ !" ยูนุสอุทาน


"มันอยู่กันเป็นฝูง" ป๊ะของเขาบอก


 


ปลาใบตัวอื่น ๆ ที่ไม่ติดเบ็ดคงจะรู้ว่าเพื่อนโชคร้ายของมันอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก และกำลังเจ็บปวด พวกมันว่ายคลอเคลียและขนาบซ้ายขวาตัวที่ติดเบ็ดราวกับว่าการกระทำนี้จะช่วยทำให้เพื่อนผู้โชคร้ายของมันหลุดออกมาจากได้


 


เวลาผ่านไปนานกว่าที่ปลาใบจะอ่อนแรงและยอมให้ยูนุสลากเข้ามา แต่ก่อนจะมาถึงมันก็กระโดดอีกครั้ง  เป็นครั้งสุดท้าย


 


ป๊ะของยูนุสใช้ตะขออันใหญ่เกี่ยวเอาตัวปลาใบขึ้นมา ตะขอเกี่ยวลึกเข้าไปในเนื้อของมัน มันสะดุ้งด้วยความเจ็บ


"สิบกว่าโล"


 


ปลาใบสวยงามมากจริง ๆ ลำตัวยาวประเปรียว สีสันบนลำตัวทอประกายเมื่อต้องแสงอาทิตย์ ตรงปากด้านบนของมันยื่นยาวออกมาอย่างน่าแปลก


 


นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตกปลาตัวใหญ่ขนาดนี้ได้ เพื่อนจะต้องแปลกใจอย่างแน่ ๆ ถ้ารู้ว่าปลาตัวนี้เป็นฝีมือของเขา แดดบ่ายพ่ายลาไปแล้ว ดวงอาทิตย์ราแสงลงมาก ยูนุสดึงสมอเรือขึ้น ในขณะที่ป๊ะของเขาเบนหัวเรือเพื่อที่จะกลับบ้าน วันนี้เขาได้ปลามากพอสำหรับที่จะแบ่งให้เพื่อนบ้านหลายครอบครัว และยังมีเหลือไว้ขาย ส่วนปลาใบตัวนั้นจะตัดออกเป็นชิ้น ๆ เอาไปตากแห้ง แล้วนำมาทอดกิน รสชาติอร่อยเหลือหลาย


 


แต่เหนืออื่นใดปลาใบตัวนั้นทำให้ยูนุสรู้สึกพึงพอใจในตนเองอย่างมาก


พึงพอใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกทะเล.