Skip to main content

รถเข็นและเมาเท่นไบด์

คอลัมน์/ชุมชน


เพื่อนโทรศัพท์มาหาฉันตอนห้าทุ่มกว่า เสียงนั้นแม้จะพูดไปหัวเราะไป แต่ก็สั่นๆ


 


 "แก ฉันน่ะ เมื่อตะกี้ฉันขับรถมาแล้วเห็นคนแก่ๆ คนหนึ่งขับรถเข็น ขยะเต็มเลย คงจะหนักมาก และสะพานพระรามเก้าเนี่ย ขาลงมันชันมาก รถเขาคงไม่มีเบรก เขาพยายามเอาเท้าสองข้างถูๆ พื้นไป มันดูหนักและลำบากมากๆ เลยแก ทีแรกฉันเกือบชนเขาแล้วเพราะมันมืด ฉันก็เลยเปิดไฟกระพริบๆ ให้รถข้างหลังรู้ว่ามีรถอยู่ข้างหน้า


 


 "แก เขาน่ะแก่มาก ผมหงอก ขาวไปทั้งหัว ใส่แว่นตา ฉันสงสารเขามากเลย ลูกหลานเขาไปไหน ทำไมแก่ขนาดนี้แล้วยังต้องมาเก็บขยะขาย ฉันขับรถไปก็คิดมาก ฉันพอจะช่วยอะไรเขาได้บ้างไหม จะให้เงินเขาก็คงดูไม่เหมาะ เขาคงไม่อยากรับ เพราะถ้าเขาอยากได้เงินฟรีๆ เขาคงไม่ไปขนขยะ พอเห็นร้านก๋วยเตี๋ยว ฉันก็เลยจอดซื้อถุงหนึ่ง แล้วก็ย้อนกลับไปทางเก่า ฉันจะให้ก๋วยเตี๋ยวเขา แต่ว่าไม่เจอแล้ว เขาคงเลี้ยวไปทางอื่นหรือเข้าซอยไปแล้ว


 


 "ฉันก็เลยเลี้ยวรถกลับบ้าน ตอนนี้ฉันขับกลับมาอีกเลนหนึ่ง ฉันก็เห็นคนรักสุขภาพปั่น  จักรยานกันเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นเมาเท่นไบด์วิ่งสวนทาง ฉันปวดจี๊ดในใจเลย ทำไมจักรยานเหมือนกันแต่มันแตกต่างกัน ทำไมจักรยานคันหนึ่งมันทรุดโทรม ไม่มีเบรก และขนขยะเพียบหลัง ทำไมจักรยานอีกคันหนึ่งมันมีครบทุกอย่างและวิ่งเร็วชิบ หมวกกันน็อคที่พวกเขาใส่คงมีราคาแพงกว่าจักรยานของลุงคนนั้น นี่ มันประเทศไหนวะ แก ทำไมมันต่างกันอย่างนี้"


 


ฉันรับฟังไป อือๆ ออๆ สงสารเพื่อนที่อ่อนไหวและเจ็บปวดกับภาพยามค่ำคืนทั้งที่ก่อนนอนน่าจะได้เห็นภาพที่ควรเก็บไปฝันดี ฉันปลอบเธอไปเท่าที่จะคิดได้


 


 "เออ แกอย่าเศร้าเลยนะ บางที สิ่งที่เราเห็นว่าเขาลำบาก เขาอาจแค่ลำบากกาย คืนนี้พอเขากลับบ้าน เขาอาจมีเพื่อนคนแก่ด้วยกันตั้งวงเหล้า หัวเราะเฮฮา อยู่ในซอยในหลืบที่เราเรียกว่าสลัม บางทีคนที่เราเห็นว่ามีเงินมากกว่า ขับรถดีกว่า เขาอาจเป็นทุกข์มากกว่า เขาอาจสุขภาพไม่ดี กำลังมีโรคภัยเบียดเบียนก็เลยต้องออกกำลังกายนะแก"


 


แล้วฉันก็บอกเพื่อนว่าอย่าเศร้ามากนะ ไม่ว่าจะประเทศไหน คนจนก็มีทุกที่ คนรวยก็มีทุกที่  ขอก็แต่เพียงให้เรารู้จักมีความสุข สงบในใจ เท่านั้นพอ อย่าเก็บไปเศร้าจนนอนไม่หลับ


 


ฉันรู้สึกดีที่มีเพื่อนขี้อ่อนไหวอย่างนี้ เพราะทำให้ฉันรู้ว่าคนหัวใจงามๆ ยังไม่ได้หายไปไหน ยังคงมีอยู่    


 


กลับหน้าแรกประชาไท