เวลาที่ต้องใช้กับเด็กดี
คอลัมน์/ชุมชน
รัฐพยายามรณรงค์ให้วันอาทิตย์เป็นวันครอบครัว นัยว่าสถาบันครอบครัวนั้นย่ำแย่ถึงขนาดรัฐต้องลงมาช่วยบอกว่าวันอาทิตย์กรุณาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว
ครอบครัวเป้าหมายคงเป็นครอบครัวคนชั้นกลาง เพราะพ่อแม่คนชั้นกลางส่วนใหญ่จะทำงานกันหูดับตับไหม้ ส่วนลูกๆก็กวดวิชากันฉิบหายวายป่วง ไม่มีเวลาอยู่พร้อมหน้ากัน สำหรับครอบครัวคนชั้นล่างหน้าตาเป็นอย่างไร คิดว่ารัฐคงไม่ค่อยแน่ใจ คนเขียนก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน ส่วนครอบครัวคนชั้นสูงนั้นช่างเขาเถอะครับ
ครอบครัวคนชั้นกลางคือครอบครัวเป้าหมายของนิตยสารพ่อแม่เลี้ยงลูกด้วย ประเภท Smart Mom, Good Parenting อะไรเทือกนี้ นิตยสารประเภทนี้มักเน้นเรื่องเวลาคุณภาพมากกว่าปริมาณ เพราะทราบดีว่าอย่างไรๆก็ไม่มีใครมีเวลามากพอ ต้องไปทำงานหูดับตับไหม้และกวดวิชาฉิบหายวายป่วงด้วยกันหมดทั้งสิ้น
วันนี้เราจึงจะมาพูดกันเรื่องเวลาคุณภาพ
เวลาคุณภาพคือเวลาที่พ่อแม่มีปฏิสัมพันธ์กับลูกทางบวก เช่น กินข้าวด้วยกัน เล่นด้วยกัน เดินเล่นด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน รวมทั้งดูโทรทัศน์ด้วยกันและคุยกันหน้าโทรทัศน์อย่างมีความสุข เฮ่อๆๆ
ทำได้ก็ดีครับ สมควรทำด้วย มิได้ประชด
แต่ถ้าทำไม่ได้ก็คงต้องหาทางมีปฏิสัมพันธ์กับลูกทางอากาศให้มากที่สุด ใช้อะไรได้ก็ใช้ เช่น จดหมาย โทรศัพท์ แฟ็กซ์ เอสเอ็มเอส อีเมล์ แช็ต แม้กระทั่งทิ้งโน้ตไว้ที่หน้าตู้เย็นหรือในรองเท้าของลูก ใครส่งโทรจิตได้ให้ส่งด้วย
การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกเป็นวิธีที่ทำให้ตัวตนของคุณพ่อคุณแม่ชัดเจนขึ้น ลูกๆสามารถสร้างสายสัมพันธ์กับคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น ทำให้ลูกๆสามารถสร้างตัวตนของตนเองได้ง่ายขึ้นชัดเจนขึ้นมั่นคงขึ้นด้วย
เรียกว่ามี self
อันที่จริงการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกต้องเริ่มตั้งแต่เป็นเด็กเล็ก ตามทฤษฎีแล้วระยะเวลาวิกฤตคือก่อน 3 ขวบ พ้นจากนี้แล้วทำได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตามก็สมควรทำไปเรื่อยๆจนกว่าเด็กจะเป็นวัยรุ่น
วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ตัวตนของพ่อแม่ชัดขึ้น สร้างสายสัมพันธ์กันได้ง่ายขึ้น คือคุณพ่อคุณแม่ทำให้ลูกรู้ตัวตลอดเวลาว่าคุณพ่อคุณแม่นั้นคงอยู่เสมอ แม้ว่าตัวจะไม่อยู่
วิธีคือนัดหมายเวลาที่จะโทรศัพท์กลับบ้าน หรือเดินทางกลับถึงบ้านให้แน่ชัด เสร็จแล้วทำตามนัดหมายโดยไม่บิดพลิ้วอย่างสม่ำเสมอ
โดยวิธีนี้เด็กๆจะรู้ตัวตลอดเวลาว่าเมื่อไรจะได้ยินเสียงหรือเห็นตัวพ่อแม่ หากเป็นเด็กเล็กก็จะตั้งตารอ หากเป็นเด็กโตจะได้ระวังตัวรอ ทำนองนั้น
นั่นคือภาพลักษณ์ของคุณพ่อคุณแม่จะเวียนไปเวียนมาเวียนว่ายตายเกิดอยู่รอบตัวลูกทุกเวลานาที ดีกว่าไปแล้วไปลับไม่ส่งข่าวมา
แต่ถ้านัดแล้วผิดนัดสม่ำเสมอก็อาจจะเละไปอีกแบบ
เรื่องเวลาที่ใช้กันระหว่างพ่อแม่ลูกนั้นมักมีปัญหาไม่สอดคล้องกันตามเงื่อนไขของสังคม ยามที่ลูกเล็กต้องการเวลา พ่อแม่ก็ต้องทำงานหาเงินซึ่งก็เป็นเรื่องสำคัญ ไม่มีใครเถียงว่าเงินไม่สำคัญ แต่ยามที่ลูกโตไม่ต้องการพ่อแม่แล้วเพราะต้องการเพื่อนมากกว่า พ่อแม่คนชั้นกลางมักรวยกันพอสมควรอยากควงลูกชายลูกสาววัยรุ่นกันบ้าง จึงว่าเวลาไม่matchกันตามเงื่อนไขของสังคม
ที่ควรทราบคือเงินก็ต้องทำ ลูกก็ต้องเอา จะเอาอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ภายใต้เวลาและเงินเดือนที่จำกัด หากคิดจะมีลูกอย่างไรก็ต้องทำทั้งสองอย่างให้ได้ครับ