Skip to main content

รัฐบาลขาลง?!


 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราคงจะได้รับทราบถึงผลสำรวจความนิยมต่อรัฐบาลที่สำนักสำรวจได้รายงานผลออกมาว่า คะแนนนิยมของรัฐบาลลดลงอย่างเห็นได้ชัด


 


หลายฝ่ายเห็นว่าเป็นขาลงของรัฐบาล !


 


ผมเคยให้คะแนนตอนรัฐบาลมารายงานผลงานประจำปีต่อวุฒิสภาว่า รัฐบาลสอบผ่านคะแนนดีเยี่ยมในประเด็นของการปราบปรามยาเสพติดและการบริหารภาวะวิกฤติ


 


การแก้ไขปัญหาวิกฤติเช่น ตอนวิกฤติในประเทศเขมร การเกิดวิบัติภัยสึนามิ รัฐบาลภายใต้การนำของ พ... ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้แก้ไขปัญหาได้ดีเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นผู้นำที่บริหารวิกฤติอย่างดีเยี่ยม


 


แต่ในเรื่องที่รัฐบาลสอบตก คือเรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องคอรัปชั่น! , เรื่องปัญหาการปฎิรูปการศึกษาและเรื่องการให้ภาคเอกชนมีส่วนในการหาผลประโยชน์ในนโยบายรัฐบาล เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ, โครงการลองสเตย์ , อีลิทการ์ด ฯลฯ


 


หลังจากการอภิปรายที่สมาชิกวุฒิสภาหลายท่านได้ชี้แนะและท้วงติง  แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข เสมือนหนึ่งรัฐบาลเมิน และมองไม่เห็นสิ่งที่ตัวแทนประชาชนเตือน


 


จนกระทั่งหลายฝ่ายทนไม่ได้ สื่อก็เริ่มแลเห็นและเสนอปัญหามากขึ้น  ดังได้เห็นกรณีคุณสนธิ  ลิ้มทองกุลได้จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์อยู่เป็นประจำทุกอาทิตย์


 


มีหลายเรื่องที่รัฐบาลตอบคุณสนธิไม่ได้ ซึ่งผมไม่แปลกใจ เพราะหลายเรื่องเราถามในสภาก็ไม่ได้รับคำตอบ  หลายเรื่องรัฐมนตรีหลบปัญหา และไม่อยากมาตอบวุฒิสภา   ดังจะเห็นได้จากกระทู้ค้างตอบในวุฒิสภาเป็นจำนวนมาก


 


บรรดาส..พยายามกระทุ้งประธานวุฒิสภาให้เป็นกลางทางการเมือง และต้องทำหน้าที่ ส..ให้ดี  แต่ไม่มีการแก้ไข จนกระทั่งการหารือในวุฒิสภาช่วงเช้าก็ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้ ส..พูดมากนัก  เป็นสิ่งที่น่าอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง ก็เลยเป็นที่น่าสงสัยว่า ส..ไม่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล


 


ยิ่งไม่สามารถเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ  ยิ่งเป็นที่ครหาว่า ส..โดนแทรกแซงเรียบร้อยโรงเรียนแม้วไปแล้ว


 


ถ้าถามว่าจะแก้ขาลงได้อย่างไร  ผมฐานะพี่เลี้ยงรัฐบาล (..มีหน้าที่เสมือนหนึ่งสภาพี่เลี้ยง) ขอเสนอแนะว่า อันดับแรก ต้องทำให้การปราบปรามการทุจริตให้เป็นวาระแห่งชาติ ปัญหาที่บอกว่ามีทุจริตในโครงการต่างๆ ต้องเอาคนผิดมาลงโทษอย่างจริงจัง


 


อันดับต่อมาต้องระวังไม่ให้บรรดานายทุนพรรคมาลงทุนเอาชื่อรัฐไปหาผลประโยชน์ เช่น ถ้าแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ต้องมีกำหนดเวลาของการผูกขาด  ต้องให้มีการแข่งขันเพื่อให้ราคาบริการสาธารณูปโภคถูกลง   ต้องให้เอกชนรายอื่นมีสิทธิในการแข่งขัน ในการทำธุรกิจ  มิเช่นนั้นบรรดารัฐวิสาหกิจที่แปรรูปไป จะหาผลประโยชน์ขึ้นค่าใช้บริการอย่างไม่เป็นธรรม  องค์กรกำกับดูแลที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาก็ไม่ชัดเจน   ยกตัวอย่าง  บรรดาปลัดกระทรวงที่กำหนดนโยบาย ยังไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ เป็นกรรมการในบริษัทเอกชนที่มีส่วนได้เสียในนโยบายนั้น ไปรับเงินกรรมการ  รับปันผลตามผลงาน


 


ถ้ารัฐวิสาหกิจกำไรมาก กรรมการก็ได้ปันผลมาก ทั้งๆ ที่ตัวเองต้องกำกับดูแลนโยบาย  ต้องหาทรัพยากรให้รัฐในราคาถูก  ต้องไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบกับการผูกขาด  ที่ต้องระวังให้มากคือระวังไม่ให้ญาติพี่น้องมายุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ในโครงการต่างๆ ของรัฐ   ต้องหลีกเลี่ยง อย่าให้มายุ่งเกี่ยว เพราะผมว่าส่วนใหญ่เขากลัวธุรกิจทั่วประเทศจะตกอยู่ในเครือญาติ


 


นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องรีบทำ รีบแก้ไข  เพราะขณะนี้มีแต่ความระแวง ไม่ใช่สมัยครั้งแรกที่รัฐบาลนี้มารับตำแหน่งที่ได้รับการยอมรับโดยไม่มีเงื่อนไข แม้กระทั่งวาทะบกพร่องโดยสุจริต ก็ยอมรับกันได้  แต่ขณะนี้มีแต่ความระแวง หลายอย่างรัฐบาลทำโดยสุจริตใจแต่คนเขายังไม่เชื่อ  เพราะความไม่ไว้ใจได้เกิดขึ้นมาแล้ว


 


การโทษดวงดาว โทษดาวพุทธ ไม่ใช่ปัจจัยหลัก แต่เป็นการกระทำที่รัฐบาลไม่ได้แก้ไขให้ถูกใจประชาชนตัวอย่างของหลายประเทศ เช่น อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์  โรมาเนีย ฯลฯ ผู้นำมีปัญหาวิกฤติศรัทธาเพราะเรื่องนี้ทั้งสิ้น!


 


ผมก็เลยสะท้อนความจริง อาจจะไม่ถูกใจต่อรัฐบาลมากนัก แต่หวานเป็นลม ขมเป็นยาเสมอ  ถ้ารัฐบาลคิดว่า ส..เป็นพี่เลี้ยง ไม่ได้คิดว่าเป็นขาประจำ ก็ต้องทบทวน  ที่สำคัญต้องระวังพวกสอพลอ ไม่เอาความจริงมาพูด คอยยกยอปอปั้น ทำให้พังมามากนักแล้ว คนที่กล้าเตือนรํฐบาลคือพวกที่กล้าพูดความจริง และอยากให้รัฐบาลแก้ไขเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ


 


ไม่มีใครอยากจะเป็นศัตรูกับอำนาจรัฐ รัฐบาลมีทุกอย่างอยู่ในมือ แต่คนที่กล้าพูดกล้าเขียนคือสิ่งทีรัฐบาลต้องมอง ต้องให้การดูแล ต้องฟัง


 


หวังว่ารัฐบาลจะได้แก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องและมีสติเพื่อประเทศไทยด้วยเถิด


กลับหน้าแรกประชาไท