การโอนสถานศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
คอลัมน์/ชุมชน
สัปดาห์ที่แล้ววุฒิสภาได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรอง ฯพณฯ หวาง จงอวี๋ (H.E. Mr. Wang Zhong yu) รองประธานสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของวุฒิสภา
ท่านรองประธานถามผมว่า การพิจารณากฎหมายที่เข้าสู่การประชุมวุฒิสภาแต่ละครั้งมีผู้ชุมนุมหน้ารัฐสภาเป็นจำนวนมาก ดังเช่นสัปดาห์นี้มีผู้ชุมนุมซึ่งเป็นครูจาก ภาคอีสาน มาแสดงพลังคัดค้านการโอนโรงเรียน และครูให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
ท่านถามว่าการชุมนุมมีผลมากน้อยเพียงใด และการลงมติในที่ประชุมทำไมออกมาไม่เหมือนกับที่ผู้ชุมนุมเรียกร้อง
ผมได้เรียนท่านรองประธานว่า การลงมติของวุฒิสภาต้องใช้เสียงจาก ส.ว.ทั่วประเทศ ๒๐๐ คน ซึ่งแต่ละท่านก็มีประสบการณ์ที่ต่างกัน การลงมติจึงมีความหลากหลายไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะออกมติมาเป็นรูปใด
ดังเช่น ร่าง พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่น ในการแก้ไขให้การถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้วยความสมัครใจ
ที่ประชุมวุฒิสภามีมติรับหลักการ และให้เวลาแปรญัตติ ๗ วัน ซึ่งก็ต้องให้เวลากับการพิจารณาของกรรมาธิการในการพิจารณาในรายละเอียด
ขอเรียนว่า ความพร้อมในการโอนสถานศึกษา และครูให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นั้นมีความหลากหลายจริงๆ
อปท.บางแห่งมีความพร้อมที่จะรับสถานศึกษาและครูเข้าไปบริหารจัดการ เช่นที่ภูเก็ต เชียงใหม่ ฯ แต่ส่วนใหญ่หลายจังหวัดยังไม่พร้อม ไม่พร้อมทั้งในส่วนของ อปท. ส่วนของโรงเรียน หรือแม้แต่ครู ครูไม่มีความมั่นใจในสวัสดิการที่อาจจะต้องลดลงหากต้องโอนไปอยู่กับ อปท.
รัฐบาลจึงแก้ปัญหาในความไม่พร้อมด้วยการใส่คำว่าสมัครใจ เข้าไว้ในกฎหมาย เพื่อไม่ต้องการบังคับให้โรงเรียนทุกแห่งต้องโอนสู่ อปท. โดยไม่มีความพร้อม
แต่ที่ครูจำนวนมากไม่เห็นด้วย เพราะไม่อยากให้มีการโอนไปสู่ อปท.เลย และต้องการให้ตัดคำว่า "สมัครใจ" ออกไปจาก ร่าง พ.ร.บ.ฯ มีการล๊อบบี้จากตัวแทนครู ให้วุฒิสภาตัดคำว่าสมัครใจออก ส่วนทางด้านรัฐบาลก็ล๊อบบี้ให้วุฒิสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ๓ วาระรวด (หรือที่เรียกว่า ใช้กรรมาธิการเต็มสภา)
ในที่สุด มติวุฒิสภาก็ลงมติให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฉบับที่... พ.ศ.... โดยตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ก็หมายความว่าการโอนสถานศึกษาและครูนั้นต้องเป็นไปตามเดิมคือต้องโอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ก็ต้องดูว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรหากการพิจารณายืดเยื้อออกไป เพราะวุฒิสภาชุดนี้จะหมดวาระลงในวันที่ ๒๑ มีนาคม ปีหน้า
การประชุมพิจารณากฎหมายในวุฒิสภาในสมัยประชุมทั่วไปนั้นมีตั้งแต่วันที่ ๔ ถึง ๒๑ มีนาคมเท่านั้น ถ้ามีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.นี้โดยวุฒิสภา การตั้งกรรมาธิการร่วม คงหมายถึงต้องรอ ส.ว.ชุดใหม่พิจารณาอย่างยืดเยื้อแน่นอน
ก็ต้องดูการพิจารณาจาก ส.ว.ชุดนี้ว่าจะรีบแก้ไขปัญหาอย่างกล้าหาญและจริงจัง เพียงใด
เป็นตัวอย่างในการกระจายอำนาจ ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องรับโอนงาน รับโอนคน รับโอนงบประมาณจากส่วนกลางเมื่อถึงกำหนดเวลา
เพียงแต่ว่า ทั้งคนโอน และคนรับโอน มีความพร้อมและความเต็มใจ มีความจริงใจเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ถูกโอนต้องเต็มใจเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง!
งานนี้จะพิสูจน์ว่า ใครจะทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาหลายครั้ง หลายฝ่ายหวงเงิน หวงคน หวงงาน
เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ความจริงใจของคนว่าใครทำเพื่อใคร