Skip to main content

รสแท้ รสแม่ทำ







































































































เรื่องกิน เป็นเรื่องใหญ่มาก ๆ เลยในครอบครัวของโกวกา อาเหล่ากง ซึ่งก็คือ คุณตาของโกวกาเคยสอนนักสอนหนาว่า ครอบครัวเราประหยัดอะไร ประหยัดได้ แต่ห้ามประหยัดเรื่องกิน ต้องให้ลูกได้กินดี กินของมีประโยชน์ ร่างกายจะได้เติบโตแข็งแรง แต่ยังยึดมั่นนโยบายไม่ฟุ่มเฟือย

 

คำสอนนี้แหล่ะ ที่โกวกามักเอามาแซวอาม่า (ซึ่งเป็นลูกสาวสุดที่รักของอาเหล่ากง) เวลาอาม่า ทำอาหารไม่ครบสูตร อาม่าก็จะสวนกลับเป็นเสียงในฟิล์มทันทีว่า " เจียะเฮียะเก๊าบี่ บ่ฉ่างบ่ตี่" หมายความว่า กินไปทำไมให้ครบสูตรสำหรับคนไม่ร่ำรวยไม่ได้ถือครองที่ดินมากมาย โกวกาก็กลัวเสียชื่อลูกครึ่งไทย-จีนเลยต้อง ย้อนกลับเสียงใสว่า " เตียะเจียะเก๊าบี่ จะได้ อู่ฉ่างอู่ตี่ " ควบไทย-จีนไปเลย ความว่า ต้องกินให้ครบสูตรจะได้ร่ำรวยมีที่ดินกะเขาบ้าง

 

เรื่องอาหารการกินเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ สำหรับครอบครัวเรา ยิ่งช่วงนี้ บ้านเล็ก ๆ ของเรามีแขกคนสำคัญ คือ คุณยายของพี่ไอย์และน้องบุ๊คเกอร์ ที (แม่ของแม่อ้วน) จากอุบลฯ มาพักอยู่ด้วย จึงสนุกสนานกันใหญ่ คุณยายเปิดครัวอีสานกลางเยาวราช ผลิต หมูส้ม ไส้กรอกอีสาน ซุปหน่อไม้ ปลาร้าสับ และที่ขาดไม่ได้คือ ส้มตำปลาร้า (น่าจะไม่ใช่จีเอ็มโอนะ เพราะมะละกอลูกเล็ก ๆ)

 

โกวนิต เป็นลูกมือใหญ่ ชิมเสียจนปลาร้าเกือบหมดไห ... (ฮิฮิ ... สงสัยบ้านโกวกาจะเป็นบ้านเดียวในเยาวราชนะ ที่มีไหปลาแดกอยู่ในครัว)

 

นอกจากคุณยายจะเปิดครัวอีสานแล้วก็อยากจะลองครัวจีนด้วย อาม่าก็เลยเปิดสอนคอร์สอาหารจีนระยะสั้น อิอิ ต้มจับฉ่าย บะจ่าง เป็ดพะโล้ ฯลฯ

 

สองคุณแม่แลกเปลี่ยนสูตรอาหารกันอย่างสนุกสนาน ส่วนสมาชิกในบ้านก็อิ่มหมีพีมันไปตาม ๆ กัน

 

พี่ไอย์กับน้องบุ๊คเกอร์ ที มีส่วนร่วมด้วยเช่นเคย ทั้งกองเชียร์ให้กำลังใจ และอิ่มหนำด้วยข้าวเหนียวนึ่งกับไข่ต้ม

 

เด็ก ๆ บ้านนี้เป็นเด็กติดข้าว เมื่อตอนที่ไอย์ อายุ 5 ขวบ โกวกาเคยพาไปดูคอนเสิร์ตสองวัย ที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ เลิกค่ำหน่อยเลยต้องแวะกินข้าวนอกบ้าน ถามพี่ไอย์ว่า จะกินอะไรกันดี พี่ไอย์ตอบทันที " อะไรก็ได้ที่เป็นข้าวค่ะ" ทำเอาโกวกาขำก๊ากเลย

 

ที่ขำไม่ได้เพราะไม่อยากกินข้าว แต่นึกถึงเสวนา " ข้าว...เชื้อพันธุ์แผ่นดิน" ที่เพิ่งไปฟังก่อนหน้า คุณลุงเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เล่าว่า คนสมัยนี้ไม่ค่อยรู้จักรสแท้...รสแม่ทำ แม่สมัยนี้ทำกับข้าวไม่เป็น ใช้บริการแต่อาหารถุง คุณลุงเนาวรัตน์เคยนั่งรถไปกับลูก ๆ เพื่อน ขับผ่านหน้าห้างสรรพสินค้า เด็ก ๆ ในรถก็ร้องไห้กันกระจองอแงว่า หิว...หิว...หิว...หิวแฮมเบอร์เกอร์

 

อันที่จริงบ้านโกวกาอยู่ใกล้เยาวราช ม๊าก...มาก...แต่เราออกไปกินข้าวนอกบ้านไม่บ่อยครั้งนัก จำได้ว่าเมื่อตอนเด็ก ๆ เราไปกันบ่อย มีร้านอร่อย ๆให้เลือกชิมมากมาย แต่ในระยะหลังที่ ททท.และนักการเมืองผลักดันโปรโมทถนนสายทองคำเยาวราช รสชาติอาหารก็ผกผันตามแรงโฆษณา

 

อากง นักสำรวจของเรารายงานให้ฟังว่า ร้านอาหารเจ้าอร่อยหลายร้าน " ขายยกแผง" ให้กับคนใหม่ มาขายอาหารแบบเดิม ด้วยป้ายเดิม อุปกรณ์เดิมทุกอย่าง แต่ไม่ขายสูตรเด็ดให้ด้วย ทำให้รสชาติลึกล้ำที่เราเคยได้กินสมัยเด็ก ๆ หายไปเกือบหมดแล้ว

 

คุณพ่ออ้วน ผู้ต้องกินอาหารนอกบ้านเป็นประจำบ่นอุบอิบ " เดี๋ยวนี้ กินข้าวนอกบ้านจนไม่รู้รสอร่อยแล้ว เพราะใส่ผงชูรสมากเสียจนไม่รู้รสแท้ ๆ ของอาหารเป็นยังไง"

 

อาม่า เป็นคนหนึ่งเลยที่กินผงชูรส ผงชูร้ายไม่ได้ กินปุ๊บปากชาปั๊บ ห้องแล็บไหนสนใจ เอาไปเป็นคนทดสอบอาหาร น่าจะรายได้ดีไม่น้อย บรื๋อ...

 

ตอนนี้ ครอบครัวโกวกากำลังรณรงค์กินผัก-ผลไม้ไทย " สงสารชาวสวนไทย ช่วยกินกันหน่อยนะ" อากงบอกว่า ผัก-ผลไม้ไทยถูกเมิน เพราะผัก-ผลไม้จีนทะลักเข้ามา วันก่อนรุ่นพี่ของโกวกาทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ ได้รับโทรศัพท์จากบ้านที่สงขลาให้ลงไปขนลองกองมากิน ขายก็ไม่คุ้ม สู้ให้ลูก ๆมาเอาไปแจกกันกินดีกว่า

 

การรณรงค์ช่วงต่อไป เราวางแผนว่าจะคว่ำบาตรร้านค้าที่ใช้กระเทียม-หอมจากจีนด้วยนะ เพราะ นอกจากจะทำร้ายเกษตรกรไทยแล้ว กระเทียมหัวใหญ่ ๆ และหอมแดงที่เรียกว่า " หอมแขก" ของจีนนั้นมันไร้รสชาติเอามาก ๆ อาจจะใช้ได้กับอาหารจีน แต่อาหารไทยยังไงก็ต้องของไทยถึงจะรสเด็ด

 

แม่ค้าที่ตลาด อตก. เล่าให้ฟังว่า คนส่วนใหญ่ที่ทำครัวเองจะชอบซื้อกระเทียมและหอมไทย แต่ร้านค้าจะซื้อของจีน เพราะราคาถูกและแกะง่าย โดยไม่สนใจว่า มันจะไปมีผลกับรสชาติอาหารแค่ไหน พวกโรงงานอุตสาหกรรม แหล่งรับซื้อกระเทียมรายใหญ่ก็หันไปใช้กระเทียม-หอมจีนทั้งนั้น

 

โกวกาจำได้นะ เมื่อตอนเรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย ไม่ว่าเราจะทำอาหารไทยครบสูตรแค่ไหน มันก็ไม่อร่อยเหมือนที่เราอยู่เมืองไทย เพราะว่าที่โน่นมีแต่หอม-กระเทียมของจีนที่ไร้รสชาติ ยิ่งทำหมูทอดกระเทียมพริกไทย หมู 1 กิโลทุ่มกระเทียม 1/2 กิโลยังไม่มีรสไม่มีชาติเลย ตอนนั้นยังคิดว่า เอาไปขายเมืองไทยคงไม่มีคนกิน ไม่คิดว่า วันนี้พอรัฐบาลเปิดเอฟทีเอไทย-จีน กระเทียมไทยเม็ดเล็กรสเด็ด จะแพ้กระเจิงแบบนี้ แต่อย่างว่า ราคาถูกมากกว่าหลายเท่า ผู้ผลิตที่ต้องการลดต้นทุนก็ต้องชอบอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคจะต้านทานได้แค่ไหน

 

สำหรับผู้บริโภคไทย ไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติเท่านั้น ที่เราต้องต่อสู้ เรื่องความปลอดภัยเราก็คงต้องช่วยตัวเอง

 

คุณพ่ออ้วนเพิ่งเอารายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์ ฉบับวันจันทร์ที่ 27 กันยายน มาให้อ่าน แทบเป็นลมกันทั้งบ้าน เขาบอกว่า ด่านนำเข้าสินค้าจากจีน ใช้วิธีตรวจแบบคร่าว ๆ ทั้งที่รู้ว่า สินค้าจีนเลื่องชื่อเรื่องการปนเปื้อนสารพิษ สารพิษบางตัวที่เป็นอันตรายร้ายแรง เมืองไทยเลิกใช้แล้วก็ยังตรวจพบในแอปเปิ้ล สาลี่ ที่นำเข้าจากจีน

 

เนี่ย พี่ไอย์ก็เพิ่งถามอาม่า ว่า GMO ต่างกับ NGO ตรงไหน

 

เหล่าอี้ ที่กำลังสนใจดูแลสุขภาพในช่วงวัยทองก็มาถามว่า ยังพอหาถั่วเหลืองปลอดจีเอ็มโอได้จากที่ไหน นี่ก็ได้ข่าวจากเพื่อนที่อยู่สันติอโศกว่า ไม่แน่ใจว่าของตัวเองปลอดภัยไหม

 

เฮ้อ อย่างนี้ล่ะค่ะ คนไทย ยุครัฐบาลฟาสต์ฟู๊ดคาร์บิเนต

 

ว่าแล้วก็คว้าบะจ่างจิ้มแจ่วเข้าปาก อึ้ม...ขอบคุณที่อย่างน้อยบ้านเรายังมี...รสแท้ รสแม่ทำ

 
-----------------------------------------------------------------------------------------------------

แนะนำสมาชิกในครอบครัว

 

เรื่องก็มีอยู่ว่าครอบครัวของโกวกานะใหญ่มาก ๆ ถ้าใช้มาตรฐานของคนสมัยนี้ เพราะอยู่ด้วยกันถึง 4 เจนเนอร์เรชั่น สมาชิก 10 คนกับหมาอีก 1 ตัวในบ้านตึกแถว 4 ชั้นใจกลางเยาวราช ประกอบไปด้วย อาเหล่าม่า (คุณย่าทวด-ยายของโกวกา 80 กว่าแล้วนะจ้ะ) อาเหล่าอี้ (คุณย่าน้อย-น้าของโกวกา) อากง (คุณปู่-พ่อของโกวกาเอง) อาม่า (คุณย่า-แม่ของโกวกานะคะ) โกวนิต (พี่สาวของโกวกา) คุณพ่อช้างน้อย (น้องชายโกวกา) คุณแม่อ้วน (น้องสะใภ้ของโกวกา) พี่ไอย์ (หลานสาวสุดที่รักของโกวกา จะ 7 ขวบแล้ว) บุ๊คเกอร์ ที (หลานชายสุดที่รักของโกวกา เพิ่งครบ 2 ขวบมาหมาดๆ) และเจ้าแทนจัง (หมาแก่มีปัญหาของโกวกาเอง) โห… )