Skip to main content

ชวนมารักกัน 8 : ตายไปกับน้ำใจ

คอลัมน์/ชุมชน

ฤดูฝนปีนี้ยาวนาน 


ครอบครัวชาช่าไม่ออกไปไหนเลยมันอยู่แต่ในบ้าน เพราะข้างนอกเต็มไปด้วยน้ำ  มันช่างเป็นเผ่าพันธุ์ที่รักความสะอาด รักสวยรักงามกันเหลือเกิน


             


คืนนี้มันส่งเสียงเห่าและร้องอย่างตกใจ เมื่อออกไปดูก็พบว่าน้ำเข้ามาในบ้าน นองเต็มห้องครัว  


ทั่วทั้งห้องครัวมีแต่น้ำ และกำลังจะเข้ามาในห้องกลาง ซึ่งมีหนังสือจำนวนมากกองอยู่กับพื้น เป็นกล่องที่ยังไม่ได้จัดวางให้เป็นระเบียบ เพราะคิดลังเลว่าจะย้ายบ้านใหม่อีกครั้ง บ้านหลังนี้เป็นที่อยู่ชั่วคราวเท่านั้น ห้องนอนทั้งสองที่อยู่ระดับเดียวกันก็มีของวางกับพื้นมากมาย  เป็นประสบการณ์น้ำท่วมบ้านครั้งแรกในชีวิตและมาท่วมในขณะที่อยู่บนดอยสูง


 


ก่อนหน้านี้ เพื่อนเคยเตือนว่าระวังน้ำจะท่วมบ้าน เพราะบ้านอยู่ในที่ลุ่ม ต่ำจากถนนและบ้านในละแวกนี้มาก เพราะบริเวณนี้เป็นที่จัดสรร ที่ดินถูกแบ่งขายเป็นแปลงเล็ก ๆ  ใครมาอยู่ก่อนก็สร้างก่อน ใครมาอยู่ทีหลังก็จะถมที่ให้สูงขึ้นไป อย่างน้อยก็สูงมากกว่าถนน


 


เป็นเช่นที่เพื่อนเตือนจริงๆ ฝนตกสองสามวัน น้ำก็ไม่มีที่ไหลไปไหน  มีการสร้างบ้าน นับเป็นสิบๆ หลัง ส่วนมากจะเป็นบ้านหลังใหญ่ที่มีกำแพงสูงและหนา แน่นอนไม่มีการจัดการและไม่มีการวางแผนร่วมกัน


 


คืนนี้ เราพบกับปัญหาหนักใจเมื่อน้ำเข้ามาในบ้าน เพื่อไม่ประมาท ต้องเอาหนังสือขึ้นไว้บนเตียงนอนก่อน หากว่าน้ำท่วมขึ้นมาถึงเตียงนอนก็ถือว่าจบกันเพราะไม่มีทางเลือกอื่นใด บ้านชั้นเดียว ไม่มีทางหนีไปไหน


 


สิ่งที่น่ากลัวคือพวกที่มากับน้ำ พวกงู ตะขาบ แมลงป่อง 


 


ให้ครอบครัวชาช่าอยู่บนโต๊ะกินข้าว นอนบนนั้น พวกมันส่งเสียงเห่าและคราง พุงป่องทำเสียงขู่ในลำคอ ฉันนั่งบนเก้าอี้เอามือลูบหัวมัน บอกมันว่า ไม่นานฝนก็จะหยุดตกน้ำก็จะลด แต่พรุ่งนี้พวกแกต้องคอยดูงูเงี้ยวเขี้ยวขอที่มากับน้ำ ถ้าเห็นก็เห่าบอกทันที


 


ถ้าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของฉัน หรือฉันมีบ้านอยู่ในชุมชนนี้ไม่ใช่บ้านเช่า ฉันจะไปคุยกับเพื่อนบ้านทั้งที่เป็นบ้านเก่าบ้านใหม่ ถึงปัญหาทางระบายน้ำ 


 


เพื่อนคนเดิมบอกว่า มีชุมชนแบบนี้หลายแห่ง บ้านที่อยู่ในที่ดินจัดสรรบ้านหลายหลังปิดเส้นทางน้ำไหลและบ้านบางหลังก็อยู่ในอ่างน้ำขนาดกลาง ซึ่งเป็นที่รองรับน้ำ ก่อนไหลลงสู่ลำเหมือง พวกเขามาจัดสรรที่ดินถมไว้  ลำเหมืองหลายแห่งก็เช่นกันถูกถม ดังนั้นต้องมีการเปิดทางน้ำ ชุมชนต้องร่วมกันจัดการและดูแลร่วมกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างสร้างต่างคนถม


 


ฉันถามตัวเองว่า ถ้าฉันเป็นผู้ที่กำลังจะสร้างบ้านใหม่ … ฉันก็คงจะถมสูงเช่นเดียวกับบ้านคนอื่น ๆ ที่กำลังสร้างกันอยู่ หรือถมให้สูงเข้าไปอีก เท่าที่ฉันจะมีเงินซื้อดินที่มีคนขุดมาขาย อย่างน้อยก็ต้องถมให้สูงกว่าถนนมากๆ ปัญหามาจากถนนนี้เองที่เป็นขอบกั้นน้ำเอาไว้ ถ้าถนนตัดผ่านลำเหมือนเขาก็จะทำสะพานทำท่อระบายน้ำกลม ๆ ซึ่งถ้าน้ำมากน้ำก็ไหลออกไม่ได้ หรือถ้ามีไม้มีขยะมาปิดปากท่อระบายก็จบสิ้น 


 


ฉันคิดว่านอกจากจะทำบ้านให้สูงแล้ว ฉันจะทำประตูแบบมีรีโมทกดเปิดประตูแบบทันสมัย เมื่อจะออกจากบ้านก็กดประตูเปิดออกโดยไม่ต้องลงไปเหยียบดินลุยน้ำ และฉันจะซื้อรถยนต์แบบที่มีล้อสูง ๆ เมื่อประตูเปิดฉันก็จะขับรถอกไปจากบ้าน ถนนหน้าบ้านมีน้ำอยู่ก็ไม่เป็นไร


           


แต่คืนนี้ ฉันอยู่ในบ้านหลังต่ำที่สุดในถนนซอยแห่งนี้ ฉันนั่งภาวนาให้ฝนหยุดตกให้ค่ำคืนนี้ผ่านไปเร็ว ๆ


 


น้ำขึ้นมาเรื่อย ๆ บ้านหลังนี้ไม่ได้เตรียมสำหรับน้ำท่วม ปลั๊กไฟอยู่ต่ำมาก จำเป็นจะต้องตัดไฟ โชคดีที่แผงควบคุมไฟอยู่ไม่สูง พอเอื้อมมือไปปิดถึง คราวนี้บ้านมืดเหลือเพียงแสงเทียน


เล็ก ๆ


 


นางชะอมเลียขนเลียหน้าให้ลูกพุงป่องนอนอย่างสบาย  ชาช่าหยุดเห่าแล้วหมอบอยู่ใกล้ ๆ มันช่างเป็นครอบครัวที่น่าอิจฉาเหลือเกิน พ่อแม่ลูกอยู่กันพร้อมหน้าอย่างนี้ อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่น่ากลัว ครอบครัวคนอย่างฉันยังทำไม่ได้เลย


 


ฉันลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ ชาช่าขยับหน้าเข้ามา เลียมือเบาๆ แสดงความรักของมันเหมือนเคยแต่ครั้งนี้ มันคงจะปลอบใจเหมือนจะบอกว่ามีมันกับครอบครัวอยู่ใกล้ๆ ฉัน 


 


"ไม่เป็นไรชาช่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร" ฉันพูดกับมันอย่างกลัวเสียหน้า และก็กล่าวเป็นบุญเป็นคุณต่อว่า "โชคดีที่ฉันไม่เดินทางไปกับเขาด้วย ได้อยู่เป็นเพื่อนแก  ไม่เป็นไรอยู่ด้วยกัน" พวกคนเราเป็นอย่างนี้แหละชาช่า เรากลัวเสียหน้ามากกว่าอื่นใด ทุกข์เศร้าเราก็ไม่กล้าบอกใครทำหน้าชื่นอกตรม ยิ้มเข้าไว้ เชิดหน้ายืดอก ยกตนนิด ๆ


 


"เอาเถอะ…ขอบใจ" ฉันบอกมันพร้อมกับติดสินบนมันต่อว่า  "รอก่อนนะ รอให้ฉันเขียนงานที่ขายได้ก่อน ถึงตอนนั้นพวกหนังสือพิมพ์พวกนิตยสารจะมาจองเรื่องที่ฉันเขียน ถึงขั้นเอาเงินมาให้ก่อนแค่ฉันเล่าเรื่องย่อ ๆ ให้พวกเขาฟังเท่านั้น แต่ตอนนี้ฉันยังทำไม่ได้ ต้องเขียนเพื่อไปรอให้เขาเลือก แม้เรื่องลงตีพิมพ์ไปแล้ว แต่กว่าจะจ่ายเงิน ผ่านไปเป็นเดือนสองเดือน ต้องโทร.ไปทวงถามครั้งแล้วครั้งเล่าให้เสียอารมณ์ และไร้ค่าเหมือนขอทานก็ไม่ปาน …จริง ๆ ฉันไม่ได้พูดเกินจริงเลย"


 


"รอก่อนเถอะ… ถ้าถึงวันนั้น…ฉันจะซื้ออาหารดีๆ ให้พวกแกกิน ซื้อเสื้อให้แกใส่ในช่วงหนาว"


มันส่งเสียงครางก่อนเอาคางของมันมาเกยบนมือฉัน


 


"บางทีฉันอาจจะเลิกเขียนหนังสือ ฉันกำลังคิดว่า ฉันขายข้าวแกงน่าจะดีกว่า ฉันมีฝีมือด้านนี้อยู่เหมือนกันนะ ขายไม่หมดยังได้เอามากินหรือให้พวกแกกิน"


 


ชะอมก็ลุกขึ้นส่งเสียงเห่า ฉันมองไปในทิศทางที่มันมอง เอาเทียนไปส่องดู เห็นตะขาบตัวใหญ่ขนาดหัวแม่มืออยู่ข้างประตู


 


"ทำอย่างไรดีชะอม ทำอย่างไรให้มันออกไป โดยที่ไม่ต้องเอาเหล็กแหลม ๆ มาแทงตัวมันหรือไม่ต้องทุบมันให้ตัวแบนกว่านี้ ให้มันมีชีวิตรอดไปตามทางของมัน ดู ๆ ไปมันก็ไม่มีภัยอะไร มันนอนนิ่ง ๆ สงบอยู่กับพื้น"


 


ฉันคิดว่าเอาขันครอบมันไว้ก่อน ไว้พรุ่งนี้เมื่อเขากลับมา ให้เขาจัดการกับมัน แต่ถ้าน้ำท่วมขึ้นมาถึงพื้นตรงนั้นขันก็จะลอยขึ้นมันก็จะออกจากขันได้


 


"เอาละต้องเสี่ยงกัน ฉันจะเปิดประตู และเอาไม้กวาดไม้ไผ่สานกวาดแกไปอย่างแรง ตัวแกอาจจะไปตกในน้ำหรือว่าตกบนพื้นหญ้าด้านนอก แกอาจจะปลอดภัย ฉันก็จะสบายใจ เอาตามนี้แล้วกันถือว่าไม่เอาเปรียบกันมากนัก แกไปสู้ชะตาเอาด้านนอก ฉันก็ไม่ต้องกังวล เพราะถ้าแกอยู่ในบ้าน ฉันต้องกังวลแน่ ฉันไม่รู้ว่าแกจะขยับไปไหน ฉันอาจจะเหยียบหรือแกอาจทำร้ายฉันหรือทำร้ายลูกๆ ชาช่าได้


 


เอาละนะ แกเตรียมพร้อม ฉันจะเอาไม้กวาดปัดแกออกไปทางหน้าประตูอย่างแรงนะ เตรียมตัวพร้อมนะเจ้าตะขาบ ฉันจะนับสาม


 


พอแล้วชะอม หยุดได้แล้วชาช่า หยุดเห่ากันทีแกไม่ต้องเชียร์ ฉันจัดการได้ แกดูแลลูกๆ ของแกไปเถอะ


 


นับสามแล้วฉันไม่สามารถฟาดมันลงไปได้ น่าจะเป็นเพราะอำนาจส่วนดีที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดที่บอกฉันว่า… "เราต่างหนีมาเหมือนกันแต่เราหนีต่างกัน"


 


เอาเถอะ อยู่ตรงนี้นะ แกอย่าขยับไปไหน รอให้น้ำลดฉันจะเอาแกไปอยู่บนเนินสูง บนดินที่น้ำท่วมไม่ถึง


 


ที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือนั่งฉันภาวนาให้ฝนหยุดตกและคิดถึงถนนหลายสายที่สร้างสูงขึ้นมาเป็นเขื่อนกันน้ำไม่ให้ไหลลงสู่หนองคลอง คิดถึงหนองบึงหลายแห่งที่ถูกถม ที่เห็นกับตาในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา มีอยู่สองแห่ง แห่งหนึ่งถมแล้วสร้างเป็นสนามกอล์ฟเล็ก และเขียนว่า สวนสวรรค์ของนักกอล์ฟ  สวนสวรรค์ของกลุ่มหนึ่งแต่อาจจะเป็นสวนนรกของอีกกลุ่มหนึ่ง


 


ฝนหยุดตกแล้ว คำภาวนาเป็นจริง แต่น้ำที่เข้ามาในบ้านจะจัดการไล่น้ำออกไปได้อย่างไร รอบๆ บริเวณบ้านคงเต็มไปด้วยน้ำ เสียงเครื่องสูบน้ำข้างบ้านดังขึ้น ฉันค่อยๆ เปิดประตูหน้าบ้านออกไปดูเห็นคนข้างบ้านสูบน้ำออกสู่ถนน  การสูบน้ำของเขาทำให้หลังบ้านเราน้ำค่อยๆ แห้งไปด้วย แต่น้ำไปท่วมหน้าบ้านแทน ก็ถือเป็นเรื่องดีกว่าให้น้ำท่วมอยู่หลังบ้านและในครัว


 


ถ้าเป็นนโยบายของรัฐก็คือ รักษาพื้นที่เศรษฐกิจไว้ก่อนนั่นเอง


 


ตะขาบตัวใหญ่ยังนอนนิ่งอยู่ที่เดิม ฉันเอาไม้กวาดวางใกล้ตัวมัน เพื่อให้มันไต่ขึ้นไป แต่มันนอนนิ่ง ค่อย ๆ เขี่ยช่วงหางมันพลิกตัวมันและพบว่ามันตายเสียแล้ว ฉันพบเห็นแต่คนทุบมันตาย เพิ่งเห็นมันตายเองครั้งแรก


 


ฉันรู้สึกเศร้า…ไม่ใช่เศร้าเพราะการตายของตะขาบเท่านั้นแต่เศร้ากับใจตัวเองที่เผลอรู้สึกดีใจที่มันตาย