Skip to main content

เทศกาลกินเจ





























































































ช่วงนี้ ถ้าโกวกาไม่พูดถึงเทศกาลกินเจมีหวังถูกเยาะเย้าถากถางให้เสียสถาบันลูกครึ่ง (ไทย-จีน) เป็นแน่ เพราะบ้านซึ่งเป็นนิวาสถานของครอบครัวใหญ่ก็อยู่ในเส้นทางเดินเข้าศาลเจ้าโจวซือกง ทุกปีจะต้องมีการตระเตรียมหน้าบ้านเพื่อขายอาหารการกิน ของไหว้นานาชนิด เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดของย่านนี้

 

สมัยที่โกวกายังสาวกว่านี้มาก ๆ จะต้องลาพักร้อนปีละ 10 วัน มาช่วยอาม่าขายอาหารเจ ร้าน " เจ๊มัก " ของอาม่าเป็นร้านเลื่องชื่อเลยนะ ลูกค้าติดใจต้องมากินกันทุกปี เพราะเราเป็นพวกขายเอาสนุก ขายปีละหนเท่านั้น มีทั้ง ก๋วยเตี๋ยวหลอด ก๋วยจั๊บ กระเพาะเจ จุ๋ยก๊วย หลายคนอาจไม่รู้จักว่า จุ๋ยก๊วยคืออะไร จุ๋ยก๊วย คือ ขนมถ้วยจีนสีขาว ราดหน้าด้วยไช้โป้ว ผัดกรอบ ๆ ซีอิ๊วดำ และพริกน้ำส้มอร่อยอย่าบอกใคร ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ชอบกันทั้งนั้น อาม่าเลิกขายมาเกือบ 10 ปีแล้ว เพราะกลัวรวยเกิน อิอิ ไม่ใช่เพราะเหนื่อยมาก โกวกาก็ไม่มีเวลามาช่วย เลยต้องให้คนอื่นมาเช่าหน้าบ้านเพื่อขายแทน

 

คนที่มาขายอาหารในซอยเล็ก ๆ แห่งนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนแถวนี้ทั้งนั้น บางคนก็ขายอาหารอยู่แล้วเป็นแผงเล็ก ๆ พอถึงหน้ากินเจก็มาเช่าหน้าบ้านที่เป็นเส้นทางเดินเข้าโรงเจ เพื่อจะได้ขายดีขึ้น บางบ้านก็เป็นแบบอาม่าที่ขายเพราะรักสนุก มีหลายบ้านเลยที่จะเกณฑ์ลูกหลานมาช่วยกันในช่วง 10 วันนี้ เพราะลูกค้าเยอะ ขายดีมาก ๆ

 

เมื่อก่อน วันที่ขายดีคือ วันเจคี้ เหมือนวันพระ คือวันที่ 3, 6 และ 9 ของการกินเจ แต่หลัง ๆ คนที่ไม่ได้กินเจ หรือกินเจแต่ไม่ได้ตั้งใจมาไหว้เจ้าที่โรงเจอย่างเดียว ก็จะมาเที่ยวโรงเจในช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดิน เพราะอากาศเย็นกว่า และที่โรงเจจะคึกคัก งิ้วเริ่มเปิดการแสดง ยิงปืน ชิงช้าสวรรค์เริ่มเดินเครื่อง

 

" ปีนี้ เงียบมากๆ ขนมตุ๊บตั๊บข้างบ้านเราแทบไม่ได้ยกค้อนเลย " เหล่าอี้พูด หลังจากออกไปสำรวจตั้งแต่วันแรก

 

" ถ้าเป็นสมัยก่อนนะ แทบเดินเหยียบกันตายแล้ว หัวค่ำแบบนี้ " อาเหล่าม่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ตั้งแต่แต่งงานมาเมื่อ 60 กว่าปีก่อน

 

" จะไม่เงียบได้ยังไง ที่ไหน ๆ ก็มีขายอาหารเจ ไม่ต้องเข้ามากินในโรงเจเหมือนสมัยก่อนแล้วจ้า … แม่ " อาม่าเสริม

 

" แต่ที่วงเวียนโอเดียนคนเยอะมากเลยนะ คนเบียดเสียดกันน่าดู " เหล่าอี้ว่า

 

" แบบนี้เรียกว่า เป็นการทำลายเศรษฐกิจชุมชน " พ่ออ้วนแทรกขึ้นมา " คิดดูซิ ร้านค้าที่จะไปตั้งบนวงเวียนโอเดียนจนถึงเยาวราชได้ มีแต่ห้างร้านบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งนั้น คนเล็กคนน้อยไม่มีทางได้ไปเช่าที่แบบนั้นขายของหรอก แล้วยังมาถูกแย่งลูกค้าที่เคยเข้ามาเดินข้างในไปหมดเลย "

 

พ่ออ้วนพูดแล้ว ทำให้โกวกานึกถึงโชวห่วยถูกแม็คโคร โลตัสตีกระเจิง สภาพไม่แตกต่างกันมากนัก

 

" มิน่า เมื่อกี้เหล่าอี้กำลังซื้อขนมเปี๊ยะร้านหนึ่งที่เขาออกร้านที่วงเวียนโอเดียน มีอาเจ๊ที่เป็นคนแถวนี้ถามว่า ทำไมไม่ไปซื้อแถวหน้าบ้าน ทำหน้าดุ ๆ ใส่ เข้าใจแล้วว่าเขาคิดอะไร "

 

" อืมม … ไม่รู้จะเกินไปไหม แต่ตั้งแต่มีการตั้งประตูมังกรที่วงเวียนโอเดียน โกวการู้สึกว่าวัฒนธรรมจีนถูกแปลงเป็นสินค้า … ยังไงก็ไม่รู้ " โกวกาบ่นพึมพรำออกมา

 

โกวกาจำได้ว่า ตั้งแต่เล็กที่อาเหล่าม่าอีกคนที่เสียไปแล้วเริ่มสอนให้หัดกินเจ อาเหล่าม่าจะสอนให้ " เซ่งซิม " นั่นคือ มีความศรัทธาและตั้งใจที่จะทำบุญละบาปด้วยการกินเจ แล้วเราจึงจะมีสิทธิใส่ชุดขาวเข้าไปในโรงเจ เพื่อไหว้พระขอพรจากเจ้า

 

ที่โรงเจ เราจะเห็นคนกินเจจากที่ต่าง ๆ ดั้นด้นมาเพื่อมาไหว้เจ้าปีละครั้ง บางคนถ้าบ้านไกลก็จะมาพักค้างแรมที่โรงเจเลย ซึ่งทางโรงเจจะมีบริการไว้ให้ทั้งที่พักและอาหารฟรีทั้งสำหรับคนที่ศรัทธามาไหว้เจ้าและเป็นทานแก่คนยากจน

 

แต่เทศกาลเจปีนี้ ที่หน้าวงเวียนโอเดียน มีการอัญเชิญเจ้ามาจากที่ต่าง ๆ มารวมตัวกัน ทั้งในกรุงเทพและจากประเทศไต้หวัน ถ่ายรูปท่านมาให้ไหว้กันถึงที่ ไม่ต้องกินเจ ไม่ต้องใส่ชุดขาวก็ไหว้กันได้ มีบริการทำบุญพร้อมสรรพ ทั้งเทกระจาด น้ำมันตะเกียง ฯลฯ มีการแสดงคึกคัก แห่มังกร สิงโต และพะโล้หม้อยักษ์ ระดับลงกินเนสท์บุ๊ค ออฟ เวิร์ค เรคคอร์ด

 

เคยลองถามอากงดูว่า แล้วเจ้าจะอยู่ไหน ระหว่างที่ศาลกับที่วงเวียนโอเดียน

 

" เป็นเจ้าก็คงแบ่งภาคได้มั้ง " อากงเดา

 

ทำให้โกวกาคิดถึงการบริการประทับใจของวัดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่วัดแห่งนั้นมีการเปิดเว็บไซต์ให้ญาติพี่น้องลูกหลานทำความเคารพหลุมศพของบรรพบุรุษผ่านเว็บไซต์ เพียงแค่คลิกสั่งเปลี่ยนดอกไม้ อีกคลิกก็ได้รดน้ำหน้าหลุมศพ ทางวัดช่างคิดเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ญาติโยมที่อยู่ทางไกลทั้งหลายจริง ๆ บริการกินเจในปีนี้ก็คงไม่ต่างกัน อยากไหว้เจ้าที่ไหนเราก็มารวมไว้ให้ท่าน

 

คิดไปคิดมา มองในแง่ดี การจัดเทศกาลกินเจหน้าวงเวียนโอเดียน ก็ยังมีการอ้างอิงวัฒนธรรม ให้คนรุ่นใหม่สนใจการไหว้เจ้าทำบุญ ซึ่งคงจะนำไปสู่การละบาปและทำบุญที่มากขึ้นไปกว่านี้

 

อย่างน้อยก็ยังดีกว่า การใช้ประตูมังกรที่วงเวียนโอเดียนในนามตระกูลแซ่หลายร้อยหลายพันแซ่หนุนนักการเมืองคนโน้นคนนี้ แบบที่เคยทำ ๆ กันมา พฤติกรรมแบบนั้น ต้องเรียกว่า " หากินกับวัฒนธรรมจริงๆ "

 

ขออย่าให้มีอีกเลย

 

แนะนำสมาชิกครอบครัวโกวกา

 

ครอบครัวของโกวกานะใหญ่มากๆ ถ้าใช้มาตรฐานของคนสมัยนี้ เพราะอยู่ด้วยกันถึง 4 เจนเนอร์เรชั่น สมาชิก 10 คนกับหมาอีก 1 ตัวในบ้านตึกแถว 4 ชั้นใจกลางเยาวราช ประกอบไปด้วย อาเหล่าม่า (คุณย่าทวด-ยายของโกวกา 80 แล้วนะจ้ะ) อาเหล่าอี้ (คุณย่าน้อย-น้าของโกวกา) อากง (คุณปู่-พ่อของโกวกาเอง) อาม่า (คุณย่า-แม่ของโกวกานะคะ) โกวนิต (พี่สาวของโกวกา) คุณพ่อช้างน้อย (น้องชายโกวกา) คุณแม่อ้วน (น้องสะใภ้ของโกวกา) พี่ไอย์ (หลานสาวสุดที่รักของโกวกา จะ 7 ขวบแล้ว) บุ๊คเกอร์ ที (หลานชายสุดที่รักของโกวกา เพิ่งครบ 2 ขวบมาหมาดๆ) และเจ้าแทนจัง (หมาแก่มีปัญหาของโกวกาเอง) โห … แค่บรรยายสมาชิกก็เกือบหมดสัมปทานแล้วนะ