Skip to main content

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่…อะจิงดิ!

คอลัมน์/ชุมชน



 


๒๔ ๑/๖


 


แม้ว่าการที่ประเทศของเราจะมีเคเบิลทีวีเจ้าใหญ่ผูกขาดอยู่เจ้าเดียวจะทำให้เราเกิดอาการอัตคัดทางเลือกในการหาอะไรดูที่ดีกว่ารายการโทรทัศน์ทางฟรีทีวี (แถมบริษัทเคเบิลทีวีที่มีอยู่ก็ดันเอาบางรายการที่ผมและคนหลายคนไม่ได้อยากดูเอาเสียเลย...อาทิ เรียลลิตี้โชว์ปฏิบัติการแก้จนของขบวนการ "คาแม้วไรเดอร์" ซึ่งรายการพรรค์นี้ทำให้รายการAcademy Fantasia ที่ผมไม่เคยนึกชอบกลายเป็นรายการทีวีระดับ "ยอดเยี่ยม" ไปในบัดดล) แต่อย่างน้อยๆ ก็ทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตากับรายการโทรทัศน์ของต่างประเทศที่มักจะมีไอเดียแปลกๆ มาให้ได้ดูอยู่เรื่อยๆ


 


อย่างเช่นรายการ MythBusters ที่ออกอากาศทางช่อง Discovery Channel รายการหนึ่งล่ะ


 


รายการที่ว่าเนี่ยดำเนินรายการโดยสองกระทาชายนาม ADAM SAVAGE และ JAMIE HYNEMAN และเพื่อนร่วมก๊วนอีกหลายชีวิต เป็นรายการที่เล่นสนุกกับการ "ทดสอบ" ความเชื่อต่างๆ ที่ถูกเล่าต่อๆ กันมาว่าจริงๆ แล้วไอ้บรรดาความเชื่อเหล่านั้นมันเป็นจริงหรือไม่ ด้วยวิธีการทดลองที่ทั้งโหด-มัน-ฮาเลยทีเดียว


 


อย่างเช่นความเชื่อที่เรามักจะเห็นในหนังแอ็คชั่นฮอลลีวู้ด ที่เวลามีใครสักคนโดนยิง ตัวของเขาจะกระเด็นออกไปทางด้านหลังอยู่เสมอๆ รายการนี้ก็ทดลองโดยการเอาศพหมูทั้งตัวจากโรงฆ่าสัตว์มาแขวนไว้กับตะขอเล็กๆ หลังจากนั้นก็ใช้อาวุธปืนทุกชนิดเท่าที่จะหาได้ระดมยิงใส่เจ้าหมูตัวนั้น เพื่อดูว่ามันจะกระเด็นไปด้านหลังหรือเปล่า


 


หรืออย่างที่เคยมีคนกล่าวว่า "ถ้าเราหมั่นพูดคำหวานใส่ต้นไม้ หรือเปิดเพลงให้ต้นไม้ฟัง จะทำให้ต้นไม้เจริญงอกงาม"  พี่แกก็ทดลองโดยการเพาะต้นถั่วในสภาพเสียงปกติและไม่ปกติทั้งหลาย ตั้งแต่ไม่มีเสียง, เสียงคำพูดอ่อนหวาน, เสียงคนด่าต้นถั่ว, เพลงคลาสสิก, เพลงเฮฟวี่เมทัล ฯลฯ แล้วก็ทิ้งเอาไว้หนึ่งเดือน ก่อนที่จะมาดูการเจริญเติบโตในตอนท้าย


 


แต่การทดลองที่บ้าที่สุดที่ผมเคยดูจากรายการนี้ คือการทดลองที่ว่าเราสามารถกะเทาะซีเมนต์แข็งโป๊กที่แข็งอยู่ในรถผสมปูนด้วยระเบิดชนิดต่างๆ โดยทดลองด้วยระเบิดชนิดที่แรงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด...นอกจากซีเมนต์จะถูกกะเทาะออกไปแล้ว รถผสมปูนยังระเบิดจนไม่เหลือซากไปด้วย - -"


 


นอกจากความบ้าที่ได้จากการทดลองในรายการแล้ว ยังทำให้ผมคิดถึงวลีที่ถูกพูดในสังคมประเทศของเราบ่อยๆ


 


นั่นคือวลี "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" นั่นเอง


 


เราคงเห็นกันบ่อยๆ ว่าเมื่อเวลาใดที่มีความเชื่อแบบใดแบบหนึ่งเกิดขึ้นในสังคม และบังเอิญมีใครสักคนตั้งคำถามกับความเชื่อเหล่านั้น คำพูด "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" มักจะถูกนำมาใช้เพื่อหยุดคำถามของความเชื่อเหล่านั้น


 


เมื่อพูดแล้วผมก็นึกถึงสมัยเรียนมหา’ลัย ตอนนั้นตึกเรียนของคณะที่อยู่ข้างๆ กับคณะที่ผมเรียนอยู่ จะมีบันไดทางขึ้นอยู่สามทาง นั่นคือกลาง-ซ้าย-ขวา ซึ่งมีคนร่ำลือว่าหากเด็กปีหนึ่งคนใดไปเผลอขึ้นบันไดกลางเข้า เด็กคนนั้นจะเรียนไม่จบ


 


ตอนผมเรียนปีหนึ่ง ผมเองก็ไปเผลอขึ้นบันไดกลางเข้าจนได้ แต่ก็ปรากฏว่าผมเองก็เรียนจบปริญญาตรีมาได้ (แม้ว่าผมจะเรียนจบช้ากว่าชาวบ้านไปสักหน่อย แต่มันเกี่ยวกับความไม่ตั้งใจเรียนของผม ไม่เห็นเกี่ยวกับบันไดพรรค์นั้นเลย)


 


แต่ที่ไม่น่าเชื่อ...คือความเชื่อเรื่อง "บันไดกลาง" นั้นยังคงอยู่ต่อไป และยังมีหลายๆ คนที่เชื่อเช่นนั้นอยู่นั่นแหละ


 


จริงอยู่...ว่าหลายๆ ความเชื่อถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นการสั่งสอนกันกลายๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเชื่อประเภทที่ตั้งให้เกิดความเชื่อไปอย่างนั้น โดยไม่มีเหตุผลรองรับก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ


 


แม้กระทั่งในยุคที่เทคโนโลยีเจริญแล้ว...


 


บางเรื่องที่น่าเชื่อ ก็เชื่อไปเถอะครับ แต่บางเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ...ว่างๆ ก็โละมันทิ้งเสียบ้างก็ดีครับ J


 


หมายเหตุ : สนใจเกี่ยวกับรายละเอียดของรายการที่ผมว่า ก็เชิญได้ที่ http://dsc.discovery.com/fansites/mythbusters/mythbusters.html ครับ