Skip to main content

บทเรียนจากเทมาเส็ก


 


สัปดาห์นี้ไม่มีข่าวอะไรที่ดังเท่ากับการขายหุ้นของครอบครัวนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ให้กับกลุ่มเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์


 


ซึ่งมูลค่าการซื้อขายกว่า ๗๓,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นการทำสัญญาซื้อขายทำประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นของไทย


 


มุมมองในฐานะกรรมาธิการการแปรรูปรัฐวิสาหกิจวุฒิสภา ซึ่งติดตามการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของไทย และศึกษาการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในหลายประเทศ ผมว่าเป็นการดีแล้วที่ครอบครัวท่านนายกรัฐมนตรีขายหุ้นของชินคอร์ปไป  เพราะเป็นผลดีทั้งส่วนตัวและส่วนรวม


 


ผมคงไม่พูดถึงผลดีในด้านกำไรที่ได้รับ แต่ผมหมายถึงข้อกังขาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนว่าท่านนายกฯ ทำงานเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว พยายามเอารัฐวิสาหกิจเข้าในตลาดหลักทรัพย์เพราะต้องการให้มีมูลค่าตลาดสูงๆ แล้วครอบครัวตัวเองจะได้ผลประโยชน์


 


ต่อไปนี้ท่านนายกฯ จะได้ตัดสินใจได้โดยไม่ต้องกังวลใจ เราจะได้หายสงสัยว่าทำงานเพื่อประเทศจริงๆ  ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเร่งรีบแปรรูปรัฐวิสาหกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทั้งๆ ที่องค์กรเหล่านั้นยังไม่มีความพร้อม ยังไม่มีองค์กรกำกับดูแลในการใช้อำนาจในการผูกขาด


 


บทเรียนที่เทมาเส็กประสบผลสำเร็จมากที่สุดเพราะเป็นรัฐวิสาหกิจที่บริหารด้วยความโปร่งใส มีผู้บริหารที่ดี   ที่สำคัญธุรกิจที่มีอำนาจผูกขาดเช่น ไฟฟ้า ท่าเรือ เขาไม่ขาย เขาเก็บเอาไว้ทำประโยชน์ให้แก่รัฐวิสาหกิจของรัฐจริงๆ!


 


ที่กรรมาธิการการแปรรูปรัฐวิสาหกิจตั้งข้อสังเกตเอาไว้ก็คือการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่มีอำนาจผูกขาดจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะอำนาจการผูกขาดอย่างไร้ผู้กำกับดูแล เช่นองค์การกำกับดูแลเช่นในต่างประเทศยังไม่เกิด จะทำให้รัฐวิสาหกิจใช้ช่องทางขึ้นราคา ขึ้นค่าบริการขูดรีดจากพี่น้องประชาชน!


 


จะเห็นได้ชัดจากตัวอย่างของการคิดค่าผ่านท่อก๊าซธรรมชาติของ ปตท.ที่ผูกขาดท่อส่งก๊าซธรรมชาติในขณะนี้  ทำให้องค์กรนี้ทำกำไรนับแสนล้านต่อปี  มากกว่ากำไรของธนาคารทุกธนาคารรวมกัน   ค่าไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นหลักในการผลิตไฟฟ้า ก็ต้องแพงด้วย 


 


อีกไม่นานหากมีการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ไฟฟ้านครหลวง การประปา ฯลฯ เราไม่ต้องรับภาระค่าไฟ ค่าน้ำแพงหรือ  จะไปพึ่งองค์กรกำกับดูแลที่รัฐตั้งขึ้นมาได้หรือ เพราะตัวอย่างที่กระทรวงพลังงานก็ไม่ได้กำกับดูแลการคิดค่าผ่านท่ออย่างไร้การแข่งขัน


 


ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นทั้งปลัดกระทรวง เป็นทั้งประธาน ปตท.   แล้วประชาชนจะมีที่พึ่งได้อย่างไร ประชาชนจะหวังองค์กรกำกับดูแลได้หรือ เมื่อผู้กำกับเป็นคนเดียวกับผู้ประกอบการ


 


ผมว่าดีแล้วที่ครอบครัวท่านนายกรัฐมนตรีขายหุ้นชินคอร์ปในครั้งนี้  เพราะขณะนี้ กำลังจะมี กสช.เป็นองค์กรกำกับดูแลเรื่องสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรมต่อการค้าของโทรคมนาคม  กสช.ก็จะได้ทำงานอย่างเป็นอิสระไม่ต้องเกรงข้อครหา ท่านนายกฯ จะได้ไม่มีข้อครหาว่าแทรกแซงการกำกับดูแล  ไม่ต้องกลัวว่าต่างชาติจะผูกขาดการโทรคมนาคม เพราะการค้าขณะนี้เป็นโลกาภิวัตน์


 


เมื่อองค์กรอิสระ กสช.เปิดเสรีทางด้านโทรคมนาคม สื่อสาร ต่อไปจะมีผู้แข่งขันหน้าใหม่มากขึ้น ต้องใช้เงินลงทุนอย่างมหาศาล ราคาค่าใช้บริการต่อไปต้องแข่งขันทางด้านบริการและราคา


 


การขายชินคอร์ปครั้งนี้ดีทั้งด้านส่วนตัวและส่วนรวม  ส่วนการขายนั้นทำไมไม่ต้องเสียภาษี ผมว่าสรรพากรคงจะเก็บได้ยากเพราะเป็นกติกาที่ตั้งเอาไว้นานแล้ว ว่ากำไรส่วนบุคคลในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี


 


ด้านภาษีของบริษัทนั้น มีคนวางแผนภาษีอย่างดี เขาต้องเตรียมการล่วงหน้าในการวางผังภาษี ซึ่งทางธุรกิจเขาทำกันทั่วโลก  ต้องบอกว่าหมากตานี้ของท่านนายกรัฐมนตรีในการขายหุ้นชินคอร์ปนั้น ถูกจังหวะและมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี   อย่างที่เซียนต้องเรียกว่าพี่       


 


สิ่งที่ผมอยากเห็นเป็นอย่างยิ่งคือ อยากให้ท่านนายกรัฐมนตรีใช้ความเป็นพี่ของเซียนทำให้ประเทศไทยมีรัฐวิสาหกิจที่เป็นของรัฐร้อยเปอร์เซ็นต์ก้าวสู่ระดับนานาชาติ  เช่นเดียวกับที่เทมาเส็กสยายปีกไปซื้อกิจการทั่วเอเซีย


 


ผมเชื่อว่าท่านนายกรัฐมนตรีมีความสามารถที่จะนำรัฐวิสาหกิจไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ (โดยไม่ต้องขายกิจการให้กับใครในตลาดหลักทรัพย์) ไปซื้อกิจการทั่วเอเซียเช่นเดียวกัน


 


เป็นการดีอย่างยิ่งหากท่านนายกรัฐมนตรีได้ใช้ความรู้ความสามารถกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจอย่างโปร่งใส ขจัดปัญหาเรื่องทุจริตคอรัปชั่น สิงคโปร์นั้นมีหรือจะสู้ไทยได้ เพราะประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าเขาหลายเท่านัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรบุคคล เรามีกว่า ๖๐ ล้านคน


 


ขอเพียงแต่เรามีความโปร่งใส มีใจแน่วแน่ทำเพื่อชาติ มีหรือที่เราจะแพ้ใคร  ยิ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้ทำงานโดยไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง ผมว่าดีแล้วสำหรับประเทศไทย  ผมฝันเห็นงบประมาณประจำปีของประเทศมีรายรับจากกิจการรัฐวิสาหกิจไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศนำเงินเข้าประเทศปีละเป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาท   


 


ไม่ทราบว่าฝันของผมจะเป็นจริงได้หรือเปล่า?