Skip to main content

เรื่องเอฟทีเอ : ประชาชนเหมือนหนอนน้อยที่ตามหายอดอ่อนใบชา

คอลัมน์/ชุมชน

 


นกสีน้ำเงิน





ปีที่ผ่านมาคงไม่มีใครปฏิเสธว่าเครื่องดื่มชาเขียวฮอตฮิตติดตลาดบ้านเรามาก  คนนิยมกินทั้งที่ราคาไม่ได้ถือว่าถูกมีหลายบริษัทออกมาบอกว่าชายี่ห้อของตนเองมีคุณภาพ เพราะเน้นกันที่ใบชาดีและอ่อน  คือยอดของใบชาเท่านั้น  เมื่อหลายยี่ห้อบอกเหมือนกันอย่างนี้  ทำให้ต้องคิดค้นกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกันทางการตลาด  สิ่งที่ชัดเจนอย่างหนึ่งคือชักจูงกันโดยการโฆษณาผ่านวิทยุ ทีวี หนังสือพิมพ์เป้าหมายเพื่อให้คนจดจำได้ง่าย  ถ้ารูปแบบการโฆษณาโดนใจ ยี่ห้อก็จะติดปากส่วนเรื่องรายได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง


และถ้าใครจำได้   โฆษณาชายี่ห้อหนึ่งได้ใช้หนอนเป็นสื่อ มาโดยตลอดประมาณ สัก  2-3 ชุดแล้ว เห็นจะได้  จนมาถึงโฆษณาชุดล่าสุดที่หนอนพ่อลูกออกเดินทางมายังเมืองใหญ่  เพื่อตามหายอดอ่อนใบชา


แรกๆ ที่ชุดโฆษณาหนอนออกมา  ผมก็ไม่ได้คิดอะไร  ดูแล้วก็น่ารักดี  คนก็พูดกันติดปากทั่วบ้านทั่วเมือง  โดยเฉพาะท่อนที่หนอนร่ายมนต์  แต่ต่อมา  ดูแล้วเริ่มรู้สึกว่าการเดินทางของหนอน  ความยากลำบากที่เกิดขึ้นมันได้สะท้อนตัวตนของมนุษย์  ผมรู้สึกว่ามนุษย์ใจร้าย  และเป็นพฤติกรรมที่แสนทุเรศ  ไปเอายอดอ่อนเขามาหมดแล้วเขาจะอยู่อย่างไร  จะกินอะไร...หนอนก็ต้องแก้ปัญหา ด้วยการออกมาตามหาใบชา



ผมคิดว่า  ถ้าผมเป็นเจ้าหนอนน้อย  ผมคงโกรธ และเศร้ามาก



ผมว่า คนจนก็เป็นเช่นนี้ คนที่ไม่มีอำนาจต่อรองก็แบบนี้ คือประชาชนในบ้านเมืองเราส่วนใหญ่ต่างถูกเอารัดเอาเปรียบ  ที่ต้องออกมาเคลื่อนไหวก็เป็นเช่นนี้  ไม่ใช่แค่พ่อลูกจะตามหายอดอ่อนของใบชา...มันไม่ใช่แค่สิ่งที่เขากิน แต่หากค้นลงไปให้ลึกกว่า....


 


มันคือเอกลักษณ์ มันคือตัวตนของเขา....ตัวตนของหนอน ตัวตนของคนจน



ถ้าบอกว่าพวกที่เอายอดอ่อนใบชามาแปรรูป มาขาย โดยอ้างว่าเป็นประโยชน์กับไร่ชา  ก็น่าเศร้าไม่น้อยเพราะนั่นหมายถึงเขาเด็ดส่วนที่ดีที่สุดของไร่ชาออกไปให้คนอื่น  เอาไปขาย  เอาไปแลก  โดยอ้างว่ามันจะเป็นประโยชน์กับไร่ชา ซึ่งผมไม่เชื่อและไม่เคยเชื่อ...

ถ้าบอกว่าไม่ช้าใบชาก็แตกยอดใหม่  แต่คุณลองคิดดูว่าต้นชาจะช้ำขนาดไหน  จากการถูกเด็ด   ไร่ชา จะเป็นหลุมเป็นบ่อหรือเจ็บปวดแค่ไหน  กับการถูกเหยียบย่ำครั้งแล้วครั้งเล่า

ในขณะที่เราไม่รู้ว่ายอดใหม่ที่จะมาแทนที่เป็นอย่างไร จะสมบูรณ์เหมือนเดิมหรือไม่  ไม่มีใครรับประกันได้ แต่สิ่งที่ผมสามารถรับประกันได้ก็คือ  มันจะไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้โดยเฉพาะแผลและร่องรอยที่เกิดขึ้นบริเวณก้านของต้นชาที่โดนหักยอด

ผมว่าหลายเรื่องที่ประชาชนกำลังเผชิญเป็นแบบนั้น อีกไม่นานหรืออาจจะเป็นตอนนี้  เราจะมีชีวิตแบบหนอนที่ไล่ตามหาของของเรา  ที่โดนมนุษย์ไม่กี่ตระกูลถลุง ซึ่งมันเสี่ยงเหลือเกิน
จะเสี่ยงอย่างไรน่ะหรือ?? 


 


คุณลองคิดดูว่า...ถ้าใบชาคือยาที่จำเป็นกับชีวิตคน  ถ้าใบชาคือพืชพันธุ์การเกษตรของแผ่นดิน คืออาชีพ คือรากเหง้าตัวตนของประชาชนไทย  ข้อตกลงบางอย่างของมนุษย์ผู้ละโมบ  กำลังทำลายพืชพันธุ์ในไร่ชา ปล่อยให้หนอนน้อยที่ป่วยไข้ซึ่งต้องได้รับยาต่อเนื่องต้องต่อสู้และดิ้นรนด้วยตัวเอง  และท้ายที่สุดจะทำให้เราสูญเสียไร่ชา  สูญเสียตัวตน  เอกลักษณ์ของเรา

และในขณะเดียวกัน ถ้าไร่ชาคือประเทศ  ที่ประชาชีหนอนต้องช่วยกันปกป้อง  เพื่อให้ยอดชายังอยู่กับต้น  หรือถ้ามันโดนเด็ดก็ต้องสืบสาวให้ได้ว่าใครเด็ด  และเด็ดไปทำอะไร....ต้องบอกหนอนตัวอื่นว่าใบชากำลังจะหมดไร่...ต้องช่วยกันเอายอดอ่อนของใบชาคืนมา....พร้อมกับป้องกันไม่ให้เด็ดอีก

คุณลองดูโฆษณานี้อย่างเพ่งพินิจอีกรอบแล้วกันนะ มองให้ลึกลงไปในดวงตาหนอนพ่อลูก  ในนั้นอาจพบแววหม่นเศร้า หรือมีน้ำตารื้นอยู่   หรือคุณอาจไม่เห็นอะไรเลยก็ได้   อันนั้นไม่แปลกหรอก แต่ถ้าหัวใจคุณยิ้ม  และเพิ่มพื้นที่ความเข้าใจอีกนิดหน่อย เพื่อเปิดรับมัน....

ผมเชื่อว่าคุณจะได้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่อย่างหนึ่ง  สิ่งนั้นคือพลัง  หนอน 2 ตัวพ่อลูกได้ผนึกกำลังกันเป็นผู้เริ่มต้นที่จะออกมา ประจานมนุษย์ใจหยาบไม่กี่คนที่อยู่เบื้องหลังการเด็ดยอดอ่อนใบชาและสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากบอกหลังจากจบโฆษณาชุดนี้คือ...

...การต่อสู้กับการเด็ดยอดที่เชียงใหม่ เป็นแค่ 1 %ของหนอนในไร่ชาเท่านั้นเอง...