ปรับ / ปรุง
คอลัมน์/ชุมชน
๑ |
คนไทยได้ " คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ " อีกครั้งหนึ่งแล้ว |
เรียกอย่างหนังสือพิมพ์ว่า " ครม . ทักษิณ ๑๐ " อันหมายถึงคณะรัฐมนตรีชุดที่ ๑๐ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พ . ต . ท . ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย |
ทันทีที่ประกาศรายชื่อออกมา ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์แง่มุมต่าง ๆ กันไป |
เพียงสองสาเหตุข้างต้น ก็นับได้ว่าเป็นที่มาของอาการ " ปากอยู่ไม่สุข " ได้อย่างขนานใหญ่ทีเดียว |
ดัง นสพ . ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๗ ถึงกับพาดหัวข่าวว่า " ทักษิณ ๑๐ ' จตุรวินาศ ' ' หมอประเวศ ' ชี้คอรัปชั่น , ไฟใต้ , ไข้หวัดนก , เศรษฐกิจ จะล้มรัฐบาล " เลยทีเดียว |
๒ |
แต่พุทธศาสนาสอนให้มองทุกอย่างด้วยความรอบคอบ - รอบด้าน ให้เห็นแจ้งด้วยวิปัสสนาวิธี โดยปัญญาที่ฝึกดีแล้ว อีกทั้งสอนไม่ให้เชื่ออะไรสุ่มสี่สุ่มห้า ด้วยหลัก " กาลามสูตร " ซึ่งเป็นสูตรหนึ่งในคัมภีร์ติกนิบาต อังคุตตรนิกาย ดังมีใจความโดยสรุป ว่า .. |
" พระพุทธเจ้าตรัสสอนชนชาวกาลามะแห่งเกสปุตตนิคมใน แคว้นโกศล ไม่ให้เชื่อถืองมงายไร้เหตุผล ตามหลัก ๑๐ ข้อ คือ อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา , ด้วยการถือสืบๆ กันมา , ด้วยการเล่าลือ , ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์ , ด้วยตรรกะ , ด้วยการอนุมาน , ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล , เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีของตน , เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าเชื่อ , เพราะนับถือว่าท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา ; ต่อเมื่อใด พิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น เรียกอีกอย่างว่าเกสปุตติยสูตร หรือเกสปุตตสูตร ." |
ไม่นับรวมถึงการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่าง เหตุ - ปัจจัย ด้วยกฎอิทัปปัจจยตา และการพิจารณาด้วยโยนิโสมนสิการ เพื่อความแยบคายและลึกซึ้งต่อเรื่องที่จะศึกษา หรือพยายามทำความเข้าใจ |
ตลอดจนการสืบค้นระหว่าง เหตุ ผล และ วิธีการ ทางออก ตามหลักอริยสัจจ์ ๔ ประการ เพื่อการค้นพบ " ความจริงแท้ " และ เป็น " อิสระ " จาก " พันธะ " แห่งการ " ดับทุกข์ " ทั้งปวง |
๓ |
มีผู้รู้คำนวณไว้ในบางสื่อ ทำนองว่า พ . ต . ท . ทักษิณ ชินวัตร และทีมงานการเมือง " ปรับ ครม ." เฉลี่ย ๔ . ๘ เดือน / คณะ / ครั้ง |
โดยหมายเหตุไว้ว่า " หากรัฐบาลที่พรรคไทยรักไทยเป็นแกนนำอยู่ครบเทอม ๔ ปี " |
ซึ่งเข้าใจ ว่าเป็น " ค่าและวิธีการทางคณิตศาสตร์ " ซึ่งเฉลี่ยและคำนวณนับเพื่อให้เห็นกันชัด ๆ ว่า " เปลี่ยนบ่อย " มากกว่าที่จะให้นำมา " เชื่อถือ " แบบสำเร็จรูป และตีความกันทื่อ ๆ ง่าย ๆ ดังที่บางหน่วยงานในบ้านเรามักกระทำกับผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาติ หรือรายได้ประชาชาติ ซึ่งเท่าที่รู้ คำนวณโดยนำผลผลิต หรือรายได้ของทุกคนในประเทศมารวมกัน แล้วหารด้วยจำนวนประชากร หรือเทียบเคียงกับจำนวนประชากร |
โดยมิได้คำนึงถึง " คุณค่า " หรือ " มูลค่า " อื่น ๆ ที่มีความสำคัญร่วมด้วย |
กระทั่งเรามีแบบจำลองทางเศรษฐกิจอัน ผิดเพี้ยนและบิดเบี้ยว ส่งผลให้คนส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อคนจำนวนน้อย ทั้งระดับชาติและนานาชาติ มาจนเกือบกึ่งศตวรรษเข้านี่แล้ว |
กล่าวคือ ในบางช่วง บางระยะ " ครม . ทักษิณ " อาจจะมีระยะเวลาเกิน " ค่าเฉลี่ย " หรือ เอาเข้าจริงอาจค่าเฉลี่ยอาจจะสั้น หรือน้อยกว่านี้ก็เป็นได้ หากมีการยุบสภาฯ ในไม่ช้าไม่นานนี้ |
และโดยที่ความ " ยาว - สั้น " ข้างต้น เป็นเพียง " ค่าทางคณิตศาสตร์ " ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว |
ใครจะยืนยันได้ ว่า ครม . ทั้งหลายประดามี จะไม่ " อยู่นานเกินควร " ตั้งกะปีมะโว้มาแล้ว |
๔ |
การปรับ ครม . ครั้งนี้ มีสิ่งที่ควรพิจารณาประกอบการ " ตัดสินคุณค่า " หรือประกอบการ " วิพากษ์วิจารณ์ " อยู่ไม่น้อย โดยที่บางเรื่องก็ดูจะเป็นตลกร้ายจน " ขำไม่ออก " ไปเลยก็มี อาทิ รัฐมนตรีบางท่านถึงกับหลั่งน้ำตาต่อหน้าธารกำนัล นัยว่าเสียอกเสียใจ ที่ต้องไปรับตำแหน่งสูงขึ้น แต่มีอำนาจน้อยลง กระทั่งอาจไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรที่ตนรักและห่วงใยได้อย่างเต็มที่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ในคราวที่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ ตลอดจนผู้เลี้ยงสัตว์ปีกเชิงเศรษฐกิจทั้งหลาย ตกอยู่ในวิกฤติ " หวัดนก " จนแทบสิ้นเนื้อประดาตัวมาแล้วถึงสองครั้งสองคราว ก็แทบจะไม่ปรากฏความกระตือรือร้นใด ๆ จากท่านผู้นี้ ที่จะแก้ปัญหาให้ลุล่วง |
เห็นภาพเช็ดน้ำตาป้อย ๆ จึงอดนึกถึงเด็กที่ถูกผู้ใหญ่แย่งขนม ( ที่กำลังจะเข้าปากเคี้ยว ) ไม่ได้สักที หรือมีรัฐมนตรีใหม่บางท่าน ที่ข่าวซุบซิบการเมืองกล่าวว่าเป็นหรือเคยเป็นแพทย์ประจำตัวของมารดาของภรรยาท่านผู้มีอำนาจหรือบางท่านที่ก้าวหน้า มีตำแหน่งสูงขึ้น ได้ครองกระทรวงใหญ่ขึ้น เพราะเคยเดินทางไปเจรจาซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลต่างประเทศ ในนามของรัฐหรือของใครก็ไม่แจ้ง |
ตลอดจนข่าวที่ว่า " มุ้ง " ต่าง ๆ ในรัฐบาล หรือในพรรคไทยรักไทย เริ่มแสดงอาการไม่พอใจต่อการ " ปรับ ครม . ฝีมือท่านนายกฯ " อย่างไม่ค่อย " เก็บอาการ " กันหลายหมู่หลายคน เป็นครั้งแรก ชนิดไม่เคยมีมาก่อน ฯลฯ และ ฯลฯ อย่างนี้เป็นต้น |
น่าเสียดายก็ที่ว่า รัฐมนตรี " บางคน " ซึ่งถูกกล่าวถึงก่อนหน้านี้ ว่าแอบอ้างชื่อญาตินายกฯ ภรรยานายกฯ ไป " หาเงินเข้าพรรค " กลับไม่มีการ " ปลด " หรือ " เปลี่ยน " ให้เป็นข่าว ทั้งที่อยู่ระหว่าง " สงครามต่อต้านการคอร์รัปชั่น " ของรัฐบาล ซึ่งประกาศมาตั้งแต่ ๓๐ กันยายน ที่ผ่านมา อันนับว่าทีมงานสร้างภาพพลาดโอกาสโชว์ความเด็ดขาดของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ไปอย่างน่าเสียดาย |
ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามานี้ล้วนเป็นเรื่อง " หน้าฉาก " โดยที่ " คนนอก " หรือ " คนดู " ทั้งปวง ยากที่จะมีโอกาสได้เห็น " หลังโรง " ว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างไร จากความคิด หรือจากเหตุปัจจัยใด |
บ่อยครั้งเราทั้งหลายจึงได้ยินคำเตือน หรือคำบ่นปนคำปราม จากปากของ " ท่านผู้นำ - ผู้มีอำนาจ " ว่า " รู้ไม่จริง " บ้าง " ไม่มีข้อมูล " หรือ " ไม่มีความรู้มากพอ " บ้าง |
จึงไม่ควรมาทักถาม หรือโต้แย้งแข่งวาทะ กับท่านผู้นำ และคณะ |
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ
|
๕ |
หลังการล่มสลายของคอมมิวนิสต์และสังคมนิยมหลากรูปแบบ ระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน ที่โน้มเอียงไปทางการค้าเสรีและบริโภคนิยม ดูจะถูกยืนยันอีกครั้ง และอีกครั้ง ว่า .. เลวร้ายน้อยที่สุด เช่นเดียวกับประเทศไทยหลังวิกฤติเศรษฐกิจ และหลังวิกฤติศรัทธาต่อระบอบขุนนางประชาธิปไตย อันอิงอาศัยข้าราชการและระบบราชการเป็นแขนขา - มือเท้า |
ที่หลงใหลได้ปลื้มกับ " นักบริหาร - จัดการ " จนหลงลืม " ข้อดี - ข้อด้อย " อันพึงพิจารณาไปเสียง่ายๆ กระทั่งในที่สุดก็พบว่ามีอะไร " ทะแม่งๆ " ปนเปื้อนอยู่ในอาหารราคาแพงตรงหน้า หลังจากลิ้มรสไปแล้วเกือบหมดจาน |
อาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และพะอืดพะอมจึงเกิดขึ้นโดยทั่วหน้า |
ที่น่าประหลาดใจก็คือ แทนที่จะชวนกันตั้งคำถาม ต่อว่า หรือเปลี่ยนร้าน ก็กลับทนรอให้ " เถ้าแก่ " คนเดิมขอแสดงฝีมือ ปรับและปรุง " อาหารจานเก่า " อยู่นั่นเอง |
จะรอให้แอลกอฮอล์ลวกหน้ากันเสียก่อน อย่าง ส . ส . ท่านหนึ่งที่เป็นข่าวเร็ว ๆ นี้ หรืออย่างไรก็ไม่รู้ !??! |