Skip to main content

"ความรัก" ในมุมของฉัน

คอลัมน์/ชุมชน


 


เธอ,


เธอรู้ไหม


เดือนกุมภาพันธ์ เป็นเดือนที่ฉันรักและผูกพันมากกว่าเดือนใด ในแต่ละปี


เดือนกุมภาพันธ์ สำหรับฉันคือ "เดือนแห่งความรัก"


ฉันจึงอยากรำพึงถึงความรัก – ความรักมีมากมายหลายอย่าง
ฉันอยากสาธยายถึงความรักแบบ "คู่รัก" สักครั้ง, ตามที่ประสบการณ์ด้านความรักอันน้อยนิดที่ฉันมี


และอยากจะร่ายยาวไปถึงความรักของเพื่อนๆ คนหนุ่มคนสาวในยุคสมัยนี้ – ยุคสมัยที่ทำทุกอย่างได้อย่างเร็วรวด ทำได้แบบทันที จะบอกรักกันก็ง่ายขึ้น เร็วขึ้น จะเห็นหน้ากันก็เร็วขึ้น ง่ายขึ้น


รักจึงแสดงออกได้เร็วและง่ายขึ้น


แต่อย่างไรก็ตาม …… ความรัก ก็คือสิ่งที่งดงามและเป็นการเรียนรู้ที่ดีของมนุษย์ ที่ช่วยสร้างสังคมมิใช่หรือ


 


คนเรามักสรุปเอาว่า บทสรุปสุดท้ายของความรักคือการเป็นแฟนกัน


หรือมากกว่านั้นก็คือได้แต่งงานกัน


ฉันไม่ได้มองว่าการเป็น "แฟน" หรือ "แต่งงาน" ของแต่ละคู่ไม่ดีนะ


เพียงแต่มีมุมที่ฉันคิดว่า ในสังคมปัจจุบันมันเป็นเรื่องอุดมคติเสียเหลือเกิน


มีผู้หญิงหลายคนที่ใฝ่ฝันอยากแต่งงาน ได้แต่งชุดเจ้าสาวในพิธีแต่งงานที่ยิ่งใหญ่


ขณะผู้ชายหลายคนก็ฝันอยากมีเจ้าสาวของตน และเป็นเจ้าบ่าวอย่างสมบูรณ์ ในงานวิวาห์ที่อบอุ่น


สำหรับฉัน…. การแต่งงานเป็นเพียงพิธีกรรมที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อการสถาปนาความรักระหว่างคนสองคน


สังคมมักมีกรอบความคิดตายตัวว่า "เมื่อรักและก็ต้องแต่งงาน"
คู่รักหลายคู่จึงต้องแต่งงานกันเสียก่อน เมื่อจะอาศัยอยู่ด้วยกัน


ไม่เช่นนั้นคนจะเรียกว่า …… ริอาจอยู่ก่อนแต่ง


คู่รักคู่ไหนที่ประกาศแต่งงานกันแบบทันที ทันด่วนหรือแบบสายฟ้าแลบ


จะถูกมองว่า ….. ท้องก่อนแต่งอย่างแน่นอน


 


ความรักเป็นสิ่งที่งดงาม และสวยงามในตัวของมันเอง


หลายคนเลือกที่จะสถาปนาความรักด้วยการแต่งงานและจดทะเบียนสมรส


ความรักแบบนี้ช่างเป็นความรักตามกรอบประเพณีนิยมของสังคมโดยแท้


หลายคนคาดหวังให้คู่รักของตัวเองเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้  คาดหวังว่าคู่รักคือ คนที่ตนเรียกว่า "แฟน"


…ช่างเป็นความรักที่วาดหวังถึงจุดหมายที่ชัดว่า ต้องเป็น "แฟน" จึงจะเป็น "คู่รัก" ของกันและกัน


ในห้วงหนึ่ง ฉันคิดว่า "คู่รัก" หรือ "แฟน"  ของคนที่รักกัน มีความแตกต่างกันในตัว แล้วแต่มุมมองแต่ละคน


บางทีความรัก ก็อาจเป็นรักที่ไม่ได้คาดหวัง หรือไม่ได้จำกัดสถานะก็ได้นะ


ในมุมของฉัน …. รักที่ไม่ได้คาดหวัง คือรักที่บริสุทธิ์


ในมุมของฉัน…..รักที่ไม่ได้จำกัดสถานะว่าเป็น "แฟน" กันและกัน คือรักที่งดงามกว่ารักทั่วไป


 


ทุกวันนี้คนที่มีความรักต่อกัน มักมีความคาดหวังตามมาเสมอ


หวังที่จะได้อยู่ใกล้กัน หวังที่จะทานข้าว ดูหนังด้วยกัน หวังที่จะนอนหนุนตักกัน
หวังที่จะต้องโทรศัพท์คุยกันทุกวัน หวังว่าคู่ของตนจะต้องเป็นไปตามความประสงค์ของตัวเอง


เราอาจมีความคาดหวังให้รักสมบูรณ์แบบ ให้เป็นรักที่สวยงาม


แต่บางทีรักก็อาจไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไปเสียหมด


การได้คาดหวังก็อาจทำให้มีความสุขที่รักจะถึงฝั่งฝัน


แต่หากยึดติดกับความคาดหวังเกินไป ก็อาจทำให้ความรักสะดุดและหยุดความสัมพันธ์


 


หลายต่อหลายครั้งเรามักจะเรียกคนที่เราคบอยู่ว่าคือ "คนรัก"


เราอาจจะบอกคำว่า "ฉันรักเธอ" หรือ "ฉันชอบเธอ" กับคู่ของเราในเวลาที่ไม่นานเมื่อคบกัน


แต่จะเชื่อได้อย่างไรว่านั้นคือความรู้สึกที่เรียกว่า "รัก" หรือ "ชอบ" ที่แท้จริง


แน่นอนว่า เราอยากจะบอกคู่ของเราเสียเหลือเกินว่า เราคิดและรู้สึกกับเขาอย่างไร


แต่ในขณะหนึ่งก็ต้องฉุกคิดว่า ความรู้สึกที่บอกเขาคือสิ่งที่เรารู้สึกจริงๆไหม


เป็นความรู้สึกที่เปรียบดั่งตะกอนในน้ำที่ "ตกตะกอน" แล้ว


หรือยัง "ขุ่นกระจาย" อยู่


บางทีสิ่งที่เราบอกใครคนนั้นไป อาจเป็นความรู้สึกที่ยัง "ขุ่นกระจาย" และยังไม่ตกตะกอนก็ได้


ความรู้สึกที่เหมือนตะกอนที่ขุ่นกระจายเสมือนความรู้สึกลังเล ไม่แน่ใจ และเป็นเพียงความรู้สึกชั่วขณะ


เมื่อเราบอกกับใครคนนั้นไปว่าเรารู้สึกอย่างไรกับเขาเมื่อยังขุ่นกระจายอยู่


และยังไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริงของเราที่มีต่อเขา


มันก็เป็นเพียงแค่ … ความรู้สึกลุ่มหลงและ….ความใคร่ชั่วขณะ เท่านั้นเอง


จะเรียกว่า "รัก" หรือ "ชอบ" ได้เต็มปากก็อาจจะได้ แต่หากเราพบกับคนใหม่อีกคนแล้วเกิดรู้สึกดีกับคนใหม่


นั้นแหละ….. ความรู้สึกเรากับใครคนนั้นก็ยังไม่ตกตะกอนดีพอ จนวอกแวกไปหาคนใหม่


 


ฉันเปรียบมองความรักกับใครคนหนึ่งว่าเหมือน "ตุ๊กตาล้มลุก"


ตุ๊กตาล้มลุกจะล้มและโยกไปมาซ้ายขวา แต่ยังตั้งอยู่กับฐานที่แน่นิ่ง


เสมือนตัวเราเป็นตุ๊กตา ที่ล้มลุกไปหาคนนั้นนิดๆ คนนี้หน่อยๆ แต่มีคนหนึ่งเป็นฐานที่มั่นของเราอย่างแน่นอน


หลายคนคิดว่ามีใครคนหนึ่งเป็นฐานอยู่แล้ว เป็นของตายอยู่แล้ว ไม่กลัวหรอก
ล้มไปซ้ายนิด ล้มไปขวาหน่อย ก็คงไม่เป็นไร


แต่บางคนก็ล้มไปแล้วไม่ลุกขึ้นมาก็มี เพราะมัวหวั่นไหวกับคนใหม่ๆ ที่เข้ามา


จนลุกขึ้นมาอยู่บนฐานเดิมไม่ได้


เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีฐานก็สายเกินแก้เสียแล้ว


ฉะนั้น. .หากความรู้สึกเรายังไม่ตกตะกอนกับใครคนหนึ่ง ก็อย่าเพิ่งเอาเขามาเป็นฐานที่มั่น เหมือนตุ๊กตาล้มลุกเลย


บางทีอาจลองลดความคาดหวังเกี่ยวกับความรักลงเสียบ้าง


เรียนรู้คนในหลายๆ มุม หลายๆ ด้าน


รอให้ความรู้สึกของเรากับคนๆหนึ่ง "ตกตะกอน" เสียก่อนจะดีกว่าไหม
ถึงจะบอกกับใครคนนั้นว่า "ฉันรักเธอ"


แม้จะบอกช้าไป


แต่ก็มีคุณค่าและงดงาม คุ้มค่ากับการรอคอย,  มาจากหัวใจที่ "ความรู้สึกตกตะกอน" แล้ว


 


ความรักมีหลายมุม
ใครคนหนึ่งบอกว่า "รักออกแบบไม่ได้"
แต่ฉันเชื่อว่า "รักออกแบบได้"
ใครคนหนึ่งบอกว่ารักคือ หญิงกับชาย
แต่ฉันเชื่อในรักของคนรักเพศเดียวกันด้วย ที่มีทั้ง หญิงรักหญิง, ชายรักชาย


ใครคนหนึ่งบอกว่าความรักในวัยหนุ่มสาวคือ "การจุดเทียนกลางสายฝน"
แต่หากจุดเทียนแล้วมีร่มคอยบังน้ำฝนก็อาจทำให้เทียนยังคงสว่างต่อไปได้ยาวนานขึ้น, แม้จะมีอุปสรรคก็ตาม


 


ความรักของคนหนุ่มสาวสมัยนี้ มีมากมายหลายวิถีทาง
ข่าวคราวการอยู่หอพักด้วยกันเยี่ยงสามี ภรรยาของนักศึกษา
ข่าวคราวการกอด จูบ กันในที่สาธารณะ
ข่าวคราวการมี "กิ๊ก" ที่พัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่การมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากขึ้น
ทุกวิถีทางแห่งความรักของหนุ่มสาวที่ได้ปรากฏสู่สาธารณะนั้น
ย่อมถูก "กล่าวหา" และ  "ตัดสิน"  เนื่องด้วยความเป็นวัย ที่ถูกมองว่ายังไม่ถึงกาลเวลาอันสมควร
กาลเวลาที่จะมีความรัก กาลเวลาที่ยังไม่ควรมีเพศสัมพันธ์กัน กาลเวลาที่ไม่ควรอยู่ด้วยกันเยี่ยงสามี ภรรยา


แม้ว่าพฤติกรรมเหล่านี้จะไม่ถูกต้องตามสายตาของผู้คนทั่วไปในสังคมนี้


แต่วิถีทางแห่งรักเหล่านี้ ก็เป็นการเรียนรู้ชีวิตในห้วงหนึ่งของคนหนุ่มสาวมิใช่หรือ


เป็นการเรียนรู้ชีวิต เรียนรู้ความรัก อย่างลึกซึ้ง ด้วยความเข้าใจ ด้วยความยอมรับกันและกัน
เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนในตัวของมันเอง


 


ถามว่าความรักของคนหนุ่มสาวจะเรียกว่ารักที่แท้จริงได้หรือไม่….ฉันไม่สามารถตอบได้


เพราะความฉันเชื่อว่ารักที่แท้จริงหรือรักที่ไม่แท้จริงเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติเผ่าพันธุ์


และไม่ว่าจะเป็นคนในวัยใด – เมื่อจะนิยามว่ารักใดคือรักแท้ หรือไม่อย่างไร


อย่างน้อยอาจจะถามตัวเองว่า ความรู้สึกที่เรียกว่า "รัก" นั้นยัง  "ขุ่นกระจาย" อยู่


หรือเป็นความรู้สึกที่ "ตกตะกอน" แล้ว


สำหรับฉัน แม้ว่ายังไม่ "ตกตะกอน" ในความรู้สึกที่เรียกว่า "รัก"


แต่การได้เริ่มต้นเรียนรู้รัก ก็เป็นสิ่งที่ช่วยต่อเติมชีวิตให้มีรสชาติขึ้นกว่าที่เป็นอยู่และเป็นไป
ฉันเชื่อว่า ความรักงดงามยิ่งกว่าอื่นใด และเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ตามมุมมอง ประสบการณ์ของแต่ละคน


ถึงใครจะเห็นต่างเรื่องความรัก แต่ฉันก็ยอมรับในความรักที่หลากหลากเสมอ


แม้ว่าฉันยังเป็นเพียงเหมือนตุ๊กตาที่ล้มลุกไปมา โดยที่ยังหาฐานที่มั่นของตัวเองไม่เจอก็ตาม


 


 


* ปรับแก้จากการเผยแพร่ทาง  www.thaingo.org