Skip to main content

ตัวดูดเลือดแห่งพงไพร

 "คำถามที่สำคัญที่สุดในโลกคือ เด็กคนนั้นร้องไห้ทำไม?"


อลิช   วอร์คเกอร์, นักเขียน


 


วันหยุดสุดสัปดาห์ปลายเดือนตุลาคม ลุงกับป้าพาหนูหน่อยไปเที่ยวป่าของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หนูหน่อยตื่นเต้นดีใจที่จะได้ออกไปชื่นชมธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ได้มองเห็นสีเขียวขจีของใบไม้ และอาจจะได้เห็นสัตว์ป่าอีกด้วย


 


หนูหน่อยเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ลุงกับป้าซึ่งไม่มีลูกจึงเอาเธอมาเลี้ยง ส่วนน้องชายของเธออีกคนหนึ่งก็มีญาติรับไปเลี้ยงเช่นเดียวกัน


 


แม้ว่าคุณลุงกับคุณป้าจะไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ และหนูหน่อยก็ไม่ใช่ลูกจริง ๆ แต่คุณลุงคุณป้าก็รักหนูหน่อยเหมือนลูก หนูหน่อยก็รักท่านทั้ง 2 เหมือนพ่อกับแม่จริง ๆ 


 


ก่อนไปเขาใหญ่ คุณลุงเล่าให้ฟังว่ามีสัตว์นานาชนิดมาปรากฏตัวให้คนเห็นอยู่บ่อย ๆ  ยิ่งตอนที่คุณลุงยังเป็นหนุ่มและมาเที่ยวป่าแห่งนี้ครั้งแรกนั้น คุณลุงได้เจอโขลงช้างซึ่งมีลูกช้างตัวเล็ก ๆ และซุกซนอยู่ด้วย 2 ตัว เดินตัดหน้ารถไปอย่างไม่สะทกสะท้าน พวกช้างเดินข้ามถนนอย่างไม่เร่งร้อนและไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย คุณลุงเสียอีกที่ต้องเกรงกลัว


 


ตอนนั้นคุณลุงจอดรถนิ่ง คิดแต่เพียงว่าถ้าช้างวิ่งเข้ามาก็จะถอยหลังกลับให้เร็วที่สุดซึ่งก็ต้องเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อลูกช้างซุกซน 2 ตัววิ่งเข้ามาหา เจ้าลูกช้างวิ่งชูงวงเข้ามา มันไม่ได้ต้องการทำร้ายคน มันเพียงแต่ต้องการหยอกเล่นเท่านั้นเอง


 


ในตอนนั้นคุณลุงตกใจไม่น้อยเพราะกลัวว่าจะถูกช้างทำร้าย  อย่างไรก็ตาม พอได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอุปนิสัยใจคอของช้างรวมทั้งสัตว์ต่าง ๆ มากขึ้นแล้ว คุณลุงจึงเข้าใจว่าสัตว์ป่า ไม่ทำอันตรายใครง่าย ๆ   นอกเสียจากว่าคนจะไปทำร้ายมันก่อนหรือทำให้มันตกใจหรือมันโมโหร้ายเพราะคนไปบุกรุกอาณาเขตของมัน


 


คุณลุงตระเตรียมเต็นท์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับการพักแรมค้างคืน เมื่อไปถึงป่าของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เจ้าหน้าที่ของทางอุทยานฯ  ได้แนะนำสถานที่กางเต็นท์และข้อพึงปฏิบัติต่าง ๆ ในการพักแรม


 


น้องหน่อยช่วยคุณลุงและคุณป้ากางเต็นท์    


"นอนในเต็นท์จะปลอดภัยหรือเปล่าคะ คุณป้า" น้องหน่อยถาม


"ปลอดภัยสิจ๊ะ" คุณป้าตอบ "แต่หนูต้องระวังสัตว์ชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้"


"สัตว์อะไรหรือคะ"


"ทาก" คุณลุงตอบ "ตัวมันคล้ายกับปลิงแต่เล็กกว่า มันดูดเลือดคนและสัตว์เป็นอาหาร"


"เจ็บไหมคะ คุณลุงตอนที่โดนมันดูดเลือด"


"ไม่ค่อยเจ็บหรอก แค่รู้สึกคัน ๆ  นิดหน่อย"


 


"คุณลุงเคยโดนมันดูดเลือดหรือเปล่า"


"หลายครั้งทีเดียวแหละ" คุณลุงตอบ   "เวลาไปเที่ยวป่าหน้าฝนก็โดนทุกครั้ง   หนูระวังก็แล้วกัน ทางป้องกันก็คือเราต้องเอาปูนขาวมาโรยไว้รอบ ๆ เต็นท์เพราะทากมันกลัวปูนขาว"


"ทำไมมันถึงกลัวคะคุณลุง"


"ก็เพราะว่าปูนขาวจะทำให้แสบร้อนและอาจจะตายได้ และบางคนก็จะจับมันโยนลงกองไฟ"


"น่ากลัวจัง"


"แต่ทากไม่ได้น่ากลัวหรอก จริง ๆ แล้วมันไม่มีพิษมีภัยอะไรมากมาย แล้วทากก็ยังมีประโยชน์ในทางการแพทย์ด้วย สารที่ตัวทากหลั่งออกมาเพื่อไม่ให้เลือดหยุดไหลสามารถนำไปใช้ในการรักษาพยาบาลได้"


 


พอช่วยคุณลุงกางเต็นท์เสร็จแล้ว   น้องหน่อยก็มาเป็นลูกมือคุณป้าในการทำอาหาร ปกติแล้วคุณป้าไม่ค่อยมีโอกาสได้แสดงฝีมือปรุงอาหารมากนักเพราะต้องออกไปทำงานนอกบ้าน  ในโอกาสพิเศษเท่านั้นที่คุณป้าจะได้อวดฝีมือทำอาหาร


"มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ คุณป้า" น้องหน่อยถาม


"หนูช่วยล้างผักให้ป้าก็แล้วกัน"


"คุณลุงบอกว่าคุณป้าทำอาหารอร่อยกว่าที่ร้านอาหารเสียอีก" น้องหน่อยพูด


"แล้วหนูว่าป้าทำอร่อยจริงหรือเปล่า"


"อร่อยค่ะ คุณป้า น้องหน่อยอยากทำอาหารเก่งเหมือนคุณป้าจังเลย"


"ไม่ยากเลย" คุณป้าพูด "น้องหน่อยก็ต้องมาเป็นลูกมือช่วยป้าบ่อย ๆ"


"ได้อยู่แล้ว" น้องหน่อยตอบ


 


หลังอาหารเย็นอันเอร็ดอร่อยผ่านไป  และล่วงเข้าสู่เวลาย่ำค่ำ ดวงดาวผุดพราย ลอยเกลื่อนเต็มท้องฟ้า  ดาวบางดวงส่องแสงกะพริบพราย 


 


น้อยหน่อยนอนดูดาว และคิดในใจว่าดวงดาวคงจะอยู่ไกลจากโลกมนุษย์มาก ไกลมากแค่ไหนไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าไกลมาก


 


ในระหว่างที่น้องหน่อยกำลังเพลิดเพลินนอนชมท้องฟ้ายามค่ำคืนนั้นเอง   ตัวทากก็ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาใกล้ มันตรงเข้าไปหาน้องหน่อยอย่างเงียบเชียบ  แต่ก่อนที่มันจะมาถึงตัว น้องหน่อยก็หันไปเห็นมันเสียก่อน


 


"มันคงจะเป็นตัวทากที่ลุงพูดถึง" น้องหน่อยคิดในใจ และจ้องมองดูมันคืบคลาน   ตัวทากมีสีดำ ผิวหนังแวววาวสะท้อนกับแสงจันทร์  มันเคลื่อนตัวไปข้างหน้าช้า ๆ ดูไม่น่ากลัวอะไรเลย น้องหน่อยเอามือไปแตะเบา ๆ ที่ตัวทาก


 


มันคือทาก น้องหน่อยนึก  มันชอบดูดเลือด เพราะเลือดเป็นอาหารของมัน แต่ลุงบอกว่าไม่เจ็บและก็ไม่อันตรายอะไรเลย


 


มันจะดูดเลือดฉันหรือเปล่าหนอ น้องหน่อยคิด  ถ้าฉันเป็นเพื่อนกับมัน มันก็จะไม่ดูดเลือดฉัน แต่จะไปดูดเลือดคนอื่น ๆ แทน แต่หากถูกจับได้ มันก็จะต้องถูกทำร้าย ถูกจับโยนลงไปในกองไฟร้อน ๆ  


 


ตัวทากคืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงปูนขาวที่โรยไว้ มันชะงัก และชูลำตัวขึ้นสูง ส่ายไปมา แล้วก็จากไป มันกลัวปูนขาวจริง ๆ ด้วย


"ฉันขอให้เธอโชคดี" น้องหน่อยพูด


 


หลังจากตัวทากคืบคลานจากไปแล้ว  น้องหน่อยก็บอกคุณป้าว่า


"หนูเจอตัวทากด้วยล่ะ คุณป้า"


"หนูโดนมันกัดหรือเปล่าคะ" คุณป้าถาม


"เปล่าค่ะ ตัวทากไม่เห็นน่ากลัวเลย"


"ดีแล้วล่ะ" คุณป้าพูด "มานอนมา เดี๋ยวป้าจะเล่านิทานให้ฟัง"


"เอาเรื่องที่เกี่ยวกับสัตว์ในป่านะคะ"


"ได้สิ   กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว   ยังมีทากตัวสีดำ ๆ  เมือก ๆ ตัวหนึ่ง  …" 


 


น้องหน่อยหลับลงอย่างมีความสุข  ในขณะที่คุณป้าเล่านิทานยังไม่ทันจบ.