การลุกไหม้ของความมืด (เหล่าแมลงบนคาบสมุทรมลายู)
คอลัมน์/ชุมชน
นาม "ศิริวร แก้วกาญจน์" เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคย กวีหนุ่มผู้แฝงอะไรและแขวนอะไรไว้ข้างในให้ใครหลายใครได้ขบบดเคี้ยวความคิด
การประกาศของซีไรต์ปี 47 พูดถึง "ประเทศที่สาบสูญ" ของเขา ที่เข้ารอบ 7 เล่มสุดท้ายว่า เป็นรวมบทกวีที่นำเสนอเนื้อหา เรื่องราวของ "คนเล็กๆ" หรือ "ชีวิตเล็กๆ" ในสังคมที่ผู้คนส่วนใหญ่มองผ่านเพราะความเคยชิน และไม่คิดว่ามันจะมีความหมายใดซุกซ่อนอยู่ เช่น นักเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง หนุ่มสาวโรงงาน ศิลปิน และคนบ้า
ศิริวรพยายามสะกิดให้ผู้อ่านตระหนักมองสิ่งต่างๆ เหล่านี้ และเตือนให้สังคมจดจำ ตลอดจนให้ความสำคัญแก่ประวัติศาสตร์ มีน้ำเสียงวิพากษ์การเคลื่อนไหวทางสังคมในอดีต บนพื้นฐานของความเข้าใจและเห็นใจ เนื้อหาและท่าทีของบทกวีจึงไม่รุกเร้ารุนแรง
การนำเสนอใช้รูปแบบกวีนิพนธ์ฉันทลักษณ์ที่ไม่เคร่งครัด สะท้อนให้เห็นท่วงทำนองและน้ำเสียงของกวีรุ่นใหม่ที่พยายามสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว เด่นด้วยโวหารกวีแบบใหม่ๆ ที่สามารถสื่อสะท้อนความหมายและจินตภาพเชิงกวีที่สดใหม่และแปลกหูแปลกตา จุดเด่นนี้ประสานเข้ากันเป็นอย่างดีกับแก่นสารของกวีนิพนธ์ที่มุ่งมองในสิ่งเล็กๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่มอง
"การลุกไหม้ของความมืด (เหล่าแมลงบนคาบสมุทรมลายู)" คือบทกวีที่ส่งมาร่วม "ชุมนุมกวีประชาไท" หลังจากพบกันที่ริมโขงเชียงของ เขาบอกว่า งานกลอนเปล่าเป็นงานที่เขาชื่นชอบเช่นกัน
การลุกไหม้ของความมืด
(เหล่าแมลงบนคาบสมุทรมลายู)
เมื่อความมืดลุกไหม้
ดวงตาของเราก็บอดสนิท
เสียงกระซิบริมหูข้างซ้าย บอกให้เราตามเขาไป
เสียงกระซิบริมหูข้างขวา บอกให้เราตามเขาไป
เหล่าแมลงเล็กเล็กเช่นเราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร
กลางความมืดที่ลุกไหม้!
เมื่อความมืดลุกไหม้
ความตายก็ส่งเสียงหัวเราะอยู่รายรอบ
ข้อเท็จจริงถูกช่วงชิงไว้ในครอบครองของแต่ละฝ่าย
เหล่าแมลงเล็กเล็กเช่นเรากระพือปีกสะเปะสะปะ
กลางความมืดที่ลุกไหม้!
เมื่อความมืดลุกไหม้
ดวงใจของเราก็สูญเสียการหยั่งเห็น
แต่ละฝ่ายต่างกล่าวอ้างถึงแสงสว่างอันสูงส่ง
วิญญาณของเราเหล่าแมลงเล็กเล็กถูกผ่าเป็นสองซีก
ขณะความตายเกรียวกรูอยู่รายรอบ
ความจริงชนิดใด?
ความจริงใจรูปแบบไหน?
ดับความมืดที่ลุกไหม้!
ก่อนอรุณรุ่ง : 5 กันยายน 2548
ศิริวร แก้วกาญจน์