กลเกมการเมือง

1

ในการเมืองไทย วาทกรรมจริยธรรมเพียงคำเดียวก็อาจเป็นเหตุเชื่อมโยงไปสู่การยุบสภาได้  ดังที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลพรรคไทยรักไทยของคุณทักษิณ  ชินวัตร

ผมฟังท่าน สว.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ที่ทำธุรกิจหากินกับคนรากหญ้ามาโดยตลอด (มติชนสุดสัปดาห์เคย  "แฉ" ธุรกิจที่หากินกับคนระดับรากหญ้ามาครั้งหนึ่งแล้ว และเป็นเหตุให้ท่านสว. เจิมศักดิ์ บาดหมางกับมติชนอยู่นาน) ให้สัมภาษณ์ หนึ่งคำท่านก็พูดจริยธรรม สองคำท่านก็อ้างจริยธรรม สามคำก็ยังจริยธรรมอยู่อีกนั่นแหละ  ซึ่งบันดาลความรำคาญใจให้อย่างมาก เพราะผมคนหนึ่งล่ะครับที่ "ไม่ซื้อ" เรื่องจริยธรรม

ว่าที่จริง คุณเชื่อไหมครับว่าคนที่บอกว่านายกฯ ทักษิณ  ชินวัตร ขาดจริยธรรมอย่างโน้นอย่างนี้  คนพวกนี้ปฏิบัติศีล 5 ให้ครบยังไม่ได้เลย แน่นอนล่ะครับ คนที่ประกอบอาชีพค้าขายหรือทำธุรกิจ คนพวกนี้ย่อมจะพูดจาโกหกหรือพูดความจริงเพียงส่วนเดียว หรือทำผิดศีลผิดจริยธรรมข้อโน้น ข้อนี้อยู่เป็นประจำ

ไม่รู้สึกแปลกใจกันบ้างหรือไรที่ตนเองปฏิบัติศีล 5 ยังไม่ครบ แต่ไปเรียกร้องให้คนอื่น (ทักษิณ)ต้องปฏิบัติจริยธรรมในทุกประการ   นี่แหละครับ ลักษณะมือถือสาก ปากถือศีลของคนชั้นกลางที่ไม่เคยรู้จักตนเองแต่เก่งนักหนาในการโจมตีว่าร้ายคนอื่น

ผมรู้จักหลายคนที่เข้าร่วมประท้วงขับไล่คุณทักษิณ ชินวัตร และผมก็รู้ว่าหลายคนที่ผมรู้จักนั้นมีจริยธรรมระดับเดียวหรือไม่ต่างกันกับคุณทักษิณสักเท่าไหร่ ผมเลยรู้สึกเฉยๆ กับคำว่าจริยธรรมที่คนชั้นกลาง "ทิ่ม" เข้าใส่ทักษิณ

ผมคิดว่ากลุ่มของคุณจำลอง ศรีเมือง น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ เพราะกลุ่มนี้อิงอยู่กับพระพุทธศาสนา อิงอยู่กับศีลธรรม จริยธรรม ผมอยากจะตั้งข้อสังเกตอย่างนี้นะครับว่า คนที่มีโอกาสทำลายศีลธรรม จริยธรรมมากที่สุดก็คือคนที่อยู่ใกล้กับสิ่งเหล่านี้ คือคนที่ผูกขาดอำนาจตัดสินในการบอกว่าใครผิดหรือถูกจริยธรรม (ซึ่งก็คือพระและ "ญาติธรรม" ทั้งหลายนั่นแหละ, ผมค่อนข้างงงกับคำว่า "ญาติธรรม" ว่าแปลว่าอะไร) และตัวคุณจำลอง  ศรีเมืองเอง ก็มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ฆ่าหมู่ 6 ตุลา 19  ผมก็ไม่รู้ล่ะครับว่า คุณจำลอง จะมีจริยธรรมสักกี่มากน้อย ใครรู้ช่วยบอกผมหน่อยสิครับว่า การมีส่วนร่วมในการฆ่าหมู่นักศึกษาอย่างทารุณกับการเลี่ยงภาษีอะไรจะไร้จริยธรรมมากกว่ากัน? แล้วคนที่เข้าร่วมชุมนุมโดยปล่อยให้คนอย่างคุณจำลองเข้ามามีบทบาทนำ  ต้องถามตนเองนะครับว่ามาตรฐานทางจริยธรรมของตนเองยังดีหรืออยู่เปล่า?

2

การยุบสภาไม่ใช่สิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายอะไร หลายคนคงจะเดาออกว่าไม่ช้าก็เร็วที่คุณทักษิณ ชินวัตร จะลดกระแสขาลงของตัวเองและรัฐบาลด้วยวิธีการนี้ นี่เป็นวิถีปฏิบัติทางการเมืองที่ใช้กันมาเสมอในยามที่เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายจนรัฐบาลคุมไม่อยู่ ตอนคุณชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีก็เลือกใช้วิธีการยุบสภาด้วยเช่นกัน ส่วนการลาออกนั้น ไม่ต้องฝันถึง ไม่มีนักการเมืองไทยที่ไหนจะลาออก

และหลายคนก็คงคาดเดาออกว่าการเลือกตั้งหลังยุบสภา พรรคไทยรักไทยของคุณทักษิณ  ชินวัตร จะกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าคะแนนเสียงอาจจะน้อยกว่าครั้งที่ผ่านมาก็ตามโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร  คู่แข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์คงจะสู้เงินถุง เงินถังที่ใช้สำหรับการหาเสียงของพรรคไทยรักไทยไม่ได้ นอกจากจะสู้ไม่ได้ในเรื่องเงินแล้ว ผลงานหรือนโยบายก็ไม่มีอะไรจะเอามาเทียบวัดกับพรรคไทยรักไทยได้เลย เพราะพรรคประชาธิปัตย์แทบไม่เคยทำผลงานอะไรไว้เลยนอกจากตั้งหน้าตั้งตาตีฝีปากเล่นการเมือง และจะว่าไปประชาชนที่แม้ไม่ชอบทักษิณ ชินวัตร หลายคนก็ไม่ได้โปรดปรานคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือพรรคประชาธิปัตย์และต่างพากันสงสัยว่าคุณอภิสิทธิ์ จะทำงานบริหารบ้านเมืองได้แน่ล่ะหรือ

ดังนั้น ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม คุณทักษิณ  ชินวัตรก็จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งสยามประเทศอีกครั้งหนึ่งตามกติกาที่ร่วมกันวางเอาไว้

พอคาดการณ์ได้อย่างนี้แล้ว รู้ว่าจะไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน พรรคประชาธิปัตย์ก็หันมาเล่นเกมสกปรกตามที่ตนเองเคยชินและถนัด โดยไม่คำนึงว่าเกมสกปรกนี้จะส่งผลร้ายหรือผลดีต่อประชาธิปไตยอย่างไรบ้าง, นี่ไม่ใช่เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์จะคำนึงถึง เกมโง่ ๆ ที่ไร้สปิริตของพรรคประชาธิปัตย์ก็คือการไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

อันที่จริง ผมอยากจะบอกว่า นักการเมืองที่มีอุดมการณ์ และรักประชาธิปไตย เขาไม่สนใจหรอก ว่าเขาจะได้อยู่ฝ่ายรัฐบาลหรืออยู่ฝ่ายค้านหรือไม่ได้รับเลือกตั้ง เพราะไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็สามารถทำหน้าที่ตามอุดมการณ์ความคิดของตนเองได้

แล้วถ้าสมมุติว่าพรรคประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งในครั้งนี้ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็มีคะแนนเสียงมากพอที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ มันก็เป็นโอกาสอันดีที่พรรคประชาธิปัตย์จะฉวยใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นความไม่ชอบมาพากลของรัฐบาลและของคุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประชาชนและต่อประชาธิปไตยและต่อพรรคประชาธิปัตย์เอง

แต่พอกระแสไม่เอาคุณทักษิณ  ชินวัตร มาแรงมาก (ในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์)  จนกระทั่งบีบให้ต้องยุบสภา พรรคประชาธิปัตย์จึงคิดจะหยิบชิ้นปลามัน ชิงเป็นรัฐบาลเสียเอง 

เห็นได้ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการเป็นฝ่ายค้านอีกต่อไป ทั้งที่มันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมาก  พรรคประชาธิปัตย์อยากเป็นรัฐบาลจนตัวสั่นทั้งที่ไม่มีความเหมาะสมแม้แต่น้อย และที่น่าหัวเราะก็คืออยากเป็นพรรครัฐบาลโดยไม่คิดจะลงเลือกตั้ง! (แต่หารู้ไม่ว่านี่จะเป็นเหตุให้ประชาธิปัตย์สูญพันธุ์ไปจากการเมืองไทย)

ผมคิดว่าท่ามกลางสถานการณ์ที่คนมีชนักปักหลังแล้วไม่เคยคิดจะเคลียร์อย่างคุณจำลอง ศรีเมือง และคนที่ก่อ "วีรกรรม" ไว้เยอะอย่างคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และพรรคประชาธิปัตย์ที่ชอบเล่นนอกเกมมาตลอดตั้งแต่ตั้งพรรคจนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งพวกนักวิชาการที่ล้มละลายทางปัญญา  และพวกนิสิตนักศึกษาที่ตื้นเขินทางความคิด รุมกันเข้ามากดดัน บีบคั้น คุณทักษิณ  ชินวัตรมากเพียงไร ก็ยิ่งมีคนเห็นใจสงสารคุณทักษิณ  ชินวัตร มากขึ้นไม่แพ้กัน และเผลอ ๆ คนที่ไม่เลือกข้างฝ่ายใดก็อาจเทใจสงสารมาให้คุณทักษิณเพิ่มมากขึ้น เพราะไม่อาจทนได้อีกต่อไปกับเกมการเมืองที่เอาเป็นเอาตายประเภท "ไม่ชนะ ไม่เลิก" โดยไม่คำนึงถึงหลักการประชาธิปไตยที่ตนเองพ่นอยู่จนปากเปียกปากแฉะแม้แต่น้อย

ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ที่ "ผู้จัดการ"  พิมพ์แจกม็อบเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ด็อกเตอร์เสียสติ คนหนึ่ง ซึ่งไม่รู้จบมาจากที่ไหนให้สัมภาษณ์ว่า "ต้องขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณออกไป ไม่เพียงแค่ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ต้องออกจากประเทศไทยด้วย" อย่างนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้วล่ะครับ คุณทักษิณเป็นพลเมืองไทยเหมือนคนอื่นๆ ทำไมจะอยู่ในแผ่นดินไทยไม่ได้ละครับ ทักษิณไม่ใช่อาชญากรสงครามเสียหน่อย ก็ขนาดคุณจำลอง  ศรีเมืองที่พาคนไปตาย หรือพลเอกสุจินดา คราประยูร ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในเมืองไทยได้สบาย 

ผมเชื่อเหลือเกินว่า คนที่รักประชาธิปไตยแต่ปากเท่านั้นที่พูดอะไรออกมาแบบนี้ มีแต่ด็อกเตอร์สติไม่สมประกอบเท่านั้นล่ะครับที่พูดเหมือนทรราชย์แบบนี้  สำหรับผมแล้ว คนแบบนี้ไม่น่าจะดีไปกว่าทักษิณ

คนที่ยังปกติดีอยู่และมีสามัญสำนึกในระดับปกติ ผมคิดว่าคงจะหมดความอดทนหรือมีความอดทนน้อยลงทุกทีเมื่อเห็นคุณทักษิณ ชินวัตร ถูกรุมกินโต๊ะโดยพวกที่มือและปากสกปรกไม่น้อยไปกว่าคุณทักษิณ บางทีอาจมากกว่าเสียอีก และผมเชื่อว่าคนที่รักประชาธิปไตยจริง ๆ ก็คงจะทนสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้เช่นเดียวกัน

วินาทีนี้ ผมไม่เห็นความแตกต่างกันแล้วระหว่างฝ่ายที่ไล่ทักษิณซึ่งละเมิดและทำลายหลักการทุกอย่างของระบอบประชาธิปไตยพอ ๆ หรืออาจจะมากกว่าที่คุณทักษิณ  ชินวัตร ได้ทำไว้เสียอีก