ยิกทักษิณ!?

มีคำสอนจากผู้หลักผู้ใหญ่ในอดีตจนถึงปัจจุบันว่า เงินไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้ วันนี้เราก็ได้เห็นว่าเป็นจริงแล้ว

คนที่ได้ชื่อว่ารวยที่สุดในประเทศไทย มีเงินสดมากที่สุด มากกว่า เจ็ดหมื่นล้านบาทใช่ว่าจะมีความสุข  คงจะกินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับ เพราะมีคนคอยไล่ให้ทักษิณออกไป ทางภาคใต้เขาเรียกว่า ยิกทักษิณ

 เหตุการณ์วิกฤติครั้งนี้ของท่านนายกทักษิณเขาเรียกว่าวิกฤติแห่งศรัทธา  คือถ้าสังคมไม่เชื่อ ไม่ไว้ใจ ทำอะไรก็ผิด ทำอะไรก็ไม่ถูกใจ !

สัปดาห์ที่แล้วนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ มีผู้คนที่ไม่ไว้ใจ เพราะเขาเกรงว่าการเลือกตั้งจะไม่โปร่งใส

เพราะพรรคที่มีความพร้อมในการเลือกตั้งมากที่สุดคือพรรคไทยรักไทย พรรคที่มีเงินมากที่สุดคือพรรคไทยรักไทย พรรคที่ได้เปรียบในการเลือกตั้งมากที่สุดก็คือพรรคไทยรักไทย  พรรคอื่นเรียกว่าไม่มีเงินพร้อมที่จะลงสมัครเลือกตั้ง บังเอิญที่กรรมการการเลือกตั้งก็กำหนดวันเลือกตั้งแบบรวดเร็วในวันที่ ๒ เมษายนนี้ซะด้วย

ช่างเข้าทางพรรคไทยรักไทยเหลือเกิน

ขอเรียนว่า  วิกฤติแห่งศรัทธานั้นไม่ใช่เกิดแต่เฉพาะนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เขาไม่เชื่อแม้กระทั่งกรรมการการเลือกตั้ง  ไม่เชื่อศาลรัฐธรรมนูญ ไม่เชื่อองค์กรอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่เชื่อวุฒิสภา

 เขาว่าเป็นสภาร่างทรง เสียงของวุฒิสภาก็เลยเป็นเสียงแห่งความไม่ชอบธรรม องค์กรอิสระที่ตั้งโดยวุฒิสภาก็เลยโดนกล่าวหาว่าไม่เป็นกลางไปด้วย

นับว่าเป็นวิกฤติแห่งศรัทธาโดยแท้จริง

นั้นคือที่มาของการเรียกร้องจากหลายฝ่ายขอให้แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ไขที่มาขององค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ปปช. กกต.  ศาลรัฐธรรมนูญ  ฯลฯ ความจริงแล้วจะกล่าวหาแต่ ส.ว.อย่างเดียวว่าก็ไม่เป็นธรรมเท่าไรนัก เพราะรัฐธรรมนูญให้ ส.ว.เลือกบุคคลตามบัญชีที่สรรหามาจากกรรมการสรรหา

ผมเคยเล่าให้ท่านฟังมาแล้วว่า เขาส่งแมวสิบตัว จะให้เลือกให้เป็นเสือสิบตัวคงเป็นไปไม่ได้ นอกจากแมวจะเปลื่ยนใจกลายเป็นเสือเองเท่านั้น

เพราะฉะนั้น คงจะต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้ได้ความเป็นกลางตั้งแต่กรรมการสรรหา  บุคคลที่จะมาเป็นองค์กรอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องแก้ไขกระบวนการการตรวจสอบของรัฐสภา

ในอดีตเราต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรมีความแข็งแรง  ป้องกันไม่ให้ส.ส.ย้ายพรรค  ป้องกันไม่ให้ส.ส.ขายตัว เพราะเวลาลงคะแนน ส.ส.ในอดีตมักจะรับเงินจากฝ่ายตรงกันข้าม แล้วย้ายพรรคเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งใหม่  ก็เลยเป็นที่มาของการสังกัดพรรคต้องของ ส.ส. ไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน เพื่อไม่ให้ ส.ส.มีฤทธิ มีเดชมาก

พอใช้รัฐธรรมนูญฉบันนี้มาหลายปี ปรากฏว่า ส.ส.ในปัจจุบันก็เลยไม่มีบทบาท ไม่กล้าวิจารณ์พรรคเมื่อทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะกลัวว่าพรรคจะไม่ส่งลงสมัครลงส.ส. เพราะย้ายพรรคไม่ทัน  ต้องกลายเป็นคนตกงานทันที หากมีการยุบสภา หรือเลือกตั้งใหม่

หลายประเด็นที่จะต้องแก้ไขในรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหา ซึ่งความจริงแล้วได้มีการศึกษามาแล้วจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งเป็นองค์กรทางวิชาการซึ่งตั้งขึ้นโดยรัฐสภา

มีประเด็นซึ่งหลายฝ่ายเห็นด้วยคือการตรวจสอบนายกรัฐมนตรีที่เป็นปัญหาคือการที่ต้องใช้ ส.ส.ในสภาฯถึงสองร้อยเสียงที่จะขอเปิดอภิปรายนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งเป็นการยากยิ่งที่จะปฎิบัติได้

การขอเปิดอภิปรายทั่วไปจากวุฒิสภาต้องใช้เสียงถึง ๑๒๐ เสียงจึงจะเปิดอภิปรายได้ ซึ่งเห็นมาแล้วว่าเป็นการยากที่จะทำได้ เคยทำได้แค่ ๑๐๐ เสียงเท่านั้น

ต้นเดือนที่ผ่านมานี้ ผมคิดว่ารัฐบาลใจกว้าง ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเอง ผมก็แจ้งขออภิปรายตั้งแต่ไก่โห่ ปรากฏว่าโดนหลอก  เขาเรียกว่าไม่แน่จริงเพราะรัฐบาลชิงหนีอภิปรายเสียก่อน

เสียดายจริงๆ มิเช่นนั้นจะได้ฟังว่าปัญหาแห่งวิกฤติแห่งศรัทธานั้นเพราะอะไร ทำไมคนที่รวยที่สุดทำไม่พูดแล้วคนไม่เชื่อ

ผมยังเสียดายที่ท่านนายกรัฐมนตรีเลือกการยุบสภาหนีปัญหา ผมอยากให้ท่านนายกฯ ใช้รัฐสภาสู้ความจริง เพราะสภาไม่ได้ผิด การยุบสภาทำให้ประชาชนเขาเดือดร้อน เขาต้องมาเลือกตั้งอีก ต้องใช้งบประมาณนับพันล้าน แต่การแก้ปัญหาก็แก้ไม่ได้ เพราะคงจะมีการไล่นายกรัฐมนตรีกันอีกแม้จะมีการเลือกตั้งใหม่  คนเป็นแสนคนก็จะออกมาไล่นายกรัฐมนตรีอีก  คนเป็นแสนคนที่เชียร์นายกรัฐมนตรีก็จะออกมาต่อสู้

ไม่สงสัยเลยว่า ฝ่ายค้านหลายพรรพรวมตัวกันไม่ส่งคนลงสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะเขารู้ว่า ถึงทางตันแห่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีถึงทางตันแล้ว

แม้จะชนะการเลือกตั้ง คนเขาก็ออกมาไล่นายกฯ ให้ออกไปอยู่ดี คาดว่า ส.ส.ใหม่คงจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะยังมีคนไม่เชื่อนายก ไม่อยากได้นายกเป็นแสนๆคนที่จะมาเดินขบวน

คำกล่าวที่ว่า เงินไม่ใช่คำตอบนั้นช่างจริงแท้

เงินซื้อเตียงนอนได้ แต่ซื้อการนอนหลับอย่างสุขสบายไม่ได้

เงินซื้ออาหารได้ แต่ซื้อความอร่อยแห่งรสชาติของอาหารไม่ได้

เงินซื้อหนังสือได้ แต่ซื้อความเข้าใจซื้อความรู้ไม่ได้

เงินไม่ใช่จะซื้ออะไรทุกอย่างได้

คำกล่าวนี้เป็นความจริงยิ่ง เพราะขณะนี้เงินไม่สามารถซื้อศรัทธาของประชาชนได้เลย

สิบเก้าล้านเสียงที่เคยได้ จะเหลือกี่เสียงหนอ ผมเองก็อยากรู้

เอ้า ใครเชียร์นายกทักษิณ ก็ออกมาเลือกตั้งพรรคไทยรักไทย ใครไม่เอานายกทักษิณ ก็ไปลงไม่เลือก หรือเลือกพรรคฝ่ายค้าน

แล้วกระจกบานนี้จะเป็นกระจกที่ดีที่สุดที่จะให้นายกรัฐมนตรีได้เห็นว่าเสียงประชาชนส่วนใหญ่เขาคิดอย่างไร