Skip to main content

บันทึกถึงนางฟ้าตัวน้อยของพ่อ

คอลัมน์/ชุมชน

 


น้ำตาฟ้า


 


สมุดบันทึกของคุณ บรรจุเรื่องราวอะไรไว้ในนั้นหรือ? 


 


คงเสียมารยาทมากใช่ไหม  ที่ไปอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวและความทรงจำทั้งดีและร้ายในสมุดบันทึกของคนอื่น


 


แล้วหากมีใครบอกว่า ยินดีให้คุณอ่านบันทึกของเขาได้ตามสบาย  คุณจะว่ายังไง  จะรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รู้เรื่องราวอันน่าหวงแหนเหล่านั้นบ้างไหม ????


 


 "บันทึกถึงนางฟ้าตัวน้อยของพ่อ" ทำให้ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับคำเชิญชวนนั้น  และเมื่อปิดหน้าสุดท้ายลงไป ฉันก็หวงแหนบันทึกเล่มนี้ราวกับว่ามันเป็นเรื่องราวของฉันซะเอง


            

 


 


 


 


 

 

บันทึกถึงนางฟ้าตัวน้อยของพ่อ ของ วาสิน  เกษมศิลป์ 


           จัดพิมพ์โดย อีกหนึ่งสำนักพิมพ์ ปี 2545


                                                                         


 


 


 


ฉันจำไม่ได้แล้วว่า  คุยกับพ่อครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เพราะที่จำได้คือเราไม่ข้องเกี่ยวกันแม้แต่การพูดจามานานเต็มที


 


ฉันจำสาเหตุที่โกรธเคืองเขาไม่ได้  เพราะฉันเจ็บช้ำน้ำใจกับทุกการกระทำของเขา


 "พ่อ..เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่บังเอิญผ่านเข้ามาในชีวิต และบังเอิญได้ชื่อว่าพ่อ"


ฉันบอกกับน้องอย่างนั้นเมื่อต้องเสียใจจากการกระทำของคนเป็นพ่อ


 


พ่อของนางฟ้าตัวน้อย บันทึกเรื่องราวของลูก ๆ ในระหว่างวัยประถมสู่มัธยมศึกษา  เป็นช่วงเวลาที่แสนสั้น  แต่ฉันเชื่อว่านับแต่วันแรกที่นางฟ้าเธอมีตัวตนในโลกมนุษย์   คนเป็นพ่อก็เริ่มบันทึกเรื่องราวของเธอลงในหัวใจ  และคงอยู่เสมอไปตราบจนวันที่เขาไม่มีตัวตนในโลกนี้


 


พ่อของนางฟ้าตัวน้อย ชื่นชมกับทุกเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเธอ  ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กและดูไร้สาระขนาดไหน แต่สำหรับคนเป็นพ่อมันยิ่งใหญ่ที่สุดเสมอ


 


แปลกดี....ฉันไม่เคย ไม่เชื่อในหัวใจรักของคนเป็นพ่อหรอกนะ   เพราะเขาคือคนที่ทำให้เรามีตัวตนขึ้นมาในโลกนี้   แต่ฉันก็ไม่เคยเข้าใจว่า  ..ในเมื่อคือความรักที่ยิ่งใหญ่เหมือนกัน   เหตุใด วิธีการแสดงถึงความรักนั้นจึงต่างกันโดยสิ้นเชิง


 


***หากยามที่ใคร ๆ คิดว่าลูกผิด พ่อมองหาความถูกต้องในตัวลูกได้ ***


พ่อของนางฟ้าตัวน้อยบอกลูกไว้ในบันทึกเล่มนั้น 


 


พ่อของฉันพร้อมจะฟาดฟันเมื่อลูกพลาด  แม้ความผิดนั้นจะเล็กเท่าปลายก้อย  โทษทัณฑ์จากการพิพากษาของพ่อก็ไม่ต่างอะไรกับความผิดฐานฆ่าคนตาย  นั่นคือการประหารชีวิต  และเขาได้ประหารฉันออกไปจากชีวิตเขาแล้วโดยสิ้นเชิง


 


ที่ฉันรักหนังสือเล่มนี้หนักหนา   เพราะทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาอ่าน  พ่อที่ฉันจำได้จะเป็นอย่างในหนังสือ  มันอาจเป็นโลกสมมติที่ไม่ได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้หรอก  แต่มันทำให้ฉันลืมความเศร้าสร้อยน้อยใจในชีวิตชั่วขณะหนึ่ง  จนเข้าใจไปว่ามันลดลง 


 


ก็อะไรที่แก้ไขไม่ได้  เราก็ต้องทนมันต่อไป  จริงไหม ???