Skip to main content

ไหลเลื่อน…เคลื่อนที่

คอลัมน์/ชุมชน

 


 


มีกวี…ว่า….


 


จักรวาลจัดวางตัวเองอย่างเหมาะสม


ชีวิตก็เช่นเดียวกัน


สายน้ำไม่อาจหลอมรวมเป็นแม่น้ำในที่สูง


แต่แม่น้ำวางตัวเองในที่ต่ำ


สายลมอันแห้งแล้งอาจกระหน่ำตีหัวใจอันแห้งแล้ง


หากในหัวใจชุ่มชื้นเบิกบานแล้ว


ลมร้อนจะแล้งร้ายเพียงใด


ก็มิอาจทำอย่างไรได้…..


 


ในวงสนทนา  สุภาพสตรีวัยห้าสิบเศษกล่าวว่า  ชีวิตของเธอผ่านร้อนผ่านหนาว  ผ่านเรื่องราว ประสบการณ์มามากมายนักแล้ว  แม้สุข ทุกข์ก็ผ่านพบ เรียนรู้ เข้าใจ  จนบัดนี้ ชีวิตเธอถูกจัดวางในเทศะและกาละอันเหมาะสมแล้ว  ดังนั้น ในวัยห้าสิบเศษ จะมาบอกว่า ชีวิตทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นความล้มเหลวผิดพลาด  เธอจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเริ่มต้นใหม่นั้น  มันจะเป็นไปได้อย่างไร  เธอจะละทิ้งความเป็นตัวตนอันแท้จริงของเธอได้อย่างไร  มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะเปลี่ยนแปลงตัวเองในวัยห้าสิบ… ด้วยถ้อยคำเหล่านี้ เธอกล่าวออกมาช่างหดหู่ เปลี่ยวเหงาและอ้างว้างนัก


 


สุภาพสตรีอีกท่านหนึ่งในวัยหกสิบ…  ผ่านเรื่องราวประสบการณ์มามากมาย ผ่านสุขผ่านทุกข์ผ่านการเรียนรู้มายาวนาน จนล่วงเข้าสู่วัยชรา วันหนึ่งเธอพบว่า  ชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมดนั้น มันเป็นชีวิตที่ขาดความสมดุล สมบูรณ์  ในสุขบ้างทุกข์บ้างนั้นมันเป็นไปอย่างไม่เหมาะสมงดงาม วิถีชีวิตของเธอทำให้เกิดเรื่องราวมากมายที่ส่งผลต่อตัวเองและผู้อื่น ทั้งทางสุขภาพร่างกายและจิตวิญญาณ  ตัวตนของเธอก็กดขี่ผู้คนไม่น้อย  ในการสนทนา…เธอได้พบเรื่องราวใหม่ๆ ที่งดงาม ที่นำพาเธอออกไปสู่มิติวิถีใหม่ของชีวิต  ดวงตาเธอเปล่งประกายแห่งความหวัง  แววตาแห่งวัยเยาว์ได้ฉายชัดในดวงตาของเธอในวัยหกสิบ  แล้วเธอก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไปสู่เรื่องราวใหม่ที่ดีกว่า…..


           


หยดน้ำที่ผุดพรายขึ้นจากตาน้ำบนภูเขาสูง  ค่อยๆ  ไหลรวมกันเป็นสายน้ำเล็กๆ  ไหลมารวมกันเป็นสายน้ำใหญ่ ไหลต่อไปเป็นแม่น้ำ จนถึงทะเล  ขบวนการที่เคลื่อนไปนั้น ต่อเนื่องไม่ขาดสาย โขดหิน รากไม้จะขวางกั้น ก็ไม่สามารถขวางการเลื่อนไหลของน้ำได้  นั่นจึงเป็นสายน้ำที่มีชีวิต  หากว่ามีสิ่งใดขวางทางน้ำให้ขาดตอน หยุดการไหลเลื่อน  สายน้ำนั้นก็ตายแล้ว กลายเป็นน้ำเน่า….


 


คราวหนึ่ง เมื่อขงจื้อได้ร่างระบบระเบียบแบบแผนสังคม  มันเป็นแบบแผนที่สมบูรณ์ที่จะนำสังคมไปสู่สันติสุข  และนั่นเป็นแบบแผนที่ดีงามที่สุดตอนหนึ่งที่เคยมีมา   แต่แล้ว เมื่อขงจื้อได้ไปพบเหลาจื้อ  เพื่อนำเสนอแผนงานนั้น  เหลาจื้อบอกว่า  แบบแผนนี้จะใช้ไปได้สักกี่วัน  เพราะอีกไม่กี่วัน สังคมก็เปลี่ยนไปแล้ว 


 


หรือว่า…เมื่อใดที่มนุษย์ผู้หนึ่งพบว่าตัวเองได้มาถึงจุดสุดยอด  อยู่บนความเป็นที่หนึ่ง  มาถึงความสำเร็จอันสมบูรณ์แบบ  นั่นแสดงว่าจิตวิญญาณของเขาได้ตายไปเสียแล้ว  และหากมนุษย์ผู้หนึ่งพบว่า วิถีของเขามีเรื่องราวมากมายให้เรียนรู้อย่างไม่จบสิ้น ในชีวิตของเขามีเรื่องราวใหม่ๆ อยู่เสมอ  และชีวิตของเขาก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  หรือนี่เองคือความสมบูรณ์แบบในความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต  เช่นนี้กระมัง…


 


ปราชญ์ว่า…ความจริงคือสิ่งที่เคลื่อนไหวได้  ความจริงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  ความจริงไม่ใช่ความจริงอันเดียว ความจริงไม่ใช่หนึ่ง เช่นนั้นแล้ว ชีวิตก็คงเป็นเช่นเดียวกัน….