Skip to main content

รางวัล..แด่....คน.....ขยัน

คอลัมน์/ชุมชน


 

 


อย่างที่ใครหลายคนรวมทั้งฉันคาดไว้ ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา’ ก็คว้าไปอีกหนึ่งในหลายๆ รางวัลที่เขาคว้ามาแล้วจากหลายเวที กับบทบาทพิธีกรและผู้ดำเนินรายการฝ่ายชายยอดเยี่ยมจากรายการ ‘ถึงลูกถึงคน’ ไปครอง ในค่ำคืนการประกาศผลรางวัล ‘Star Entertainment Award 2005’ จัดโดยสมาคมนักข่าวบันเทิง ที่ช่อง 7 สีฉายให้ได้ดูกันเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (7 มี.ค. 2549)  แม้จะดึกเหลือเกินกับวันทำงาน แต่เวทีแบบนี้ก็มีสีสันให้ชวนลุ้นจนไม่อยากพลาด


 


ฉันว่าวงการบันเทิงบ้านเราขยันหารางวัลมาแจกกันเสียจริง เดี๋ยวสมาคมโน่นมีประกาศผลนี่  เดี๋ยวนิตยสารนี้ประกาศผลโหวตจากผู้ชม  เดี๋ยวหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นจัดมอบรางวัลแก่คนบันเทิง   เดี๋ยวชมรมโน้นจัดมอบรางวัลอีกแล้ว เดี๋ยวสมาพันธ์อะไรนั่นก็ประกาศด้วย คนบันเทิงก็เลยเดินสายไปร่วมงานและไปรับรางวัลกันขาแทบขวิด มองในแง่ดีว่า นักแสดง ทีมงานก็ได้มีกำลังใจทำงานดีบ้าง ไม่ดีบ้างแต่คนชอบดูมาให้พวกเราได้เฝ้าหน้าจอกันพอคลายเครียด   แต่อีกแง่หนึ่งก็เกรงว่าแจกรางวัลกันเกร่อไป มันจะไม่ขลังเอาน่ะสิ 


 


นักแสดงหลายคนที่ได้รับรางวัลก็ออกมาบอกเล่าถึงความดีใจ ภูมิใจในรางวัลที่ได้ซึ่งเปรียบเสมือนประกาศนียบัตรของวิชาชีพนักแสดงและการทำงานในวงการบันเทิงของพวกเขา ซึ่งก็ใช่ว่าใครจะได้มาง่ายๆ   


 


พูดถึงวิถีคนจอแก้ว โดยเฉพาะดารานักแสดง ช่วงเวลาของการกอบโกยนั้นสั้นมาก คนทำงานอย่างเรา ท่าน ฉัน เธอ ทั่วไป ยิ่งทำงานมาก รายได้ยิ่งเพิ่มขึ้น ยิ่งประสบการณ์มาก ยิ่งเงินเดือนเยอะ แต่สำหรับคนจอแก้ว ประสบการณ์ไม่มีผลในการกำหนดค่าตัว ความดัง หรือ rating  ต่างหากที่เป็นตัวกำหนดว่าใครค่าตัวสูงหรือต่ำ  และจะว่ากันไปรางวัลจากเวทีไหนๆ ก็ไม่มีผลกับค่าตัวเขาเหมือนกัน


 


เราจึงได้เห็นดารานักแสดงในบ้านเราใช้เวลาที่กระแสกำลังขึ้นสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับตนเอง สรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็ไม่พ้นไปจากวิถีนั้น


 


เขาเริ่มทำงานตี 5 (ไปคิดต่อว่าเขาต้องตื่นตีอะไร) เริ่มอ่านหนังสือพิมพ์ทั้งหมดก่อนออกรายการ    "เรื่องเล่าเช้านี้" ที่ช่อง 3 ตั้งแต่ 6 โมงถึงประมาณ 9 โมง จากนั้น ถ้ามีเวลาก็อาจได้งีบช่วงบ่ายโมงถึง 5-6 โมงเย็น  ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เขาได้นอนมากที่สุด


 


สรยุทธ จะไปถึงช่อง 9 อสมท. ประมาณ 20.30 น. ใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการเตรียมประเด็นคุยข่าวกับซี้เขา ‘กนก  รัตน์วงศ์สกุล’  21.30 น. เริ่มรายการ คุย คุ้ย ข่าว  พักอีกแป๊บ 23.30 น.เริ่มรายการถึงลูกถึงคน จบรายการก็เที่ยงคืนครึ่ง  เคลียร์งาน วางแผนงานวันต่อไปกับทีมงานกว่าจะถึงบ้านก็ตี 2 กว่า งีบได้สองชั่วโมงก็กลับมาทำงานใหม่ เป็นเช่นนี้ 5 วัน ส่วนเสาร์ อาทิตย์ ก็มีรายการ คุย คุ้ย ข่าว ช่วง 11 โมงเช้า


 


ทั้ง 7 วัน เขามีเวลางีบเต็มที่ก็เพียงในคืนวันเสาร์กับวันอาทิตย์  


 


อย่าแปลกใจที่เขาจะทำงานอย่างบ้าคลั่งจนแทบจะกลายเป็นเจ้าพ่อจอแก้วอยู่รอมร่อ เปิดช่องไหน ช่วงเวลาใด ก็มีหน้าเขาให้เห็นตั้งแต่เช้ายันเข้านอน


 


โอกาสมาก็ต้องคว้าไว้ ตอนนี้มีแรงมากเท่าไหร่ก็ทุ่มมันลงไปเท่านั้น   เพราะไม่รู้ว่าปีต่อ ๆ จากนี้  พื้นที่บนจอทีวียังจะเป็นที่ของเขาอยู่ไหม รางวัลที่เขาได้ แล้วเขาไปรับบ้าง ไม่ไปรับบ้างนั้น ยังมีคนอยากให้เขาได้อยู่หรือเปล่า เพียงแค่ไม่มีเวที กระแสความนิยมก็ย่อมลดลงจนถึงดับวูบ   และหากถึงเวลานั้น มรรคผลจากการทำงานหนักในวันนี้ก็คงสำแดงให้เขาได้ชื่นใจ เพราะจริงแท้ แน่นอนที่สุด คนเราทำงานก็เพื่อหาเงิน มิใช่หรือ


 


ฉันยินดีกับทุกรางวัลกับการขยันทำงานอย่างหนักของคนบันเทิงทุกคน