Skip to main content

เป็นกลาง ไม่มีจริง

คอลัมน์/ชุมชน


การชุมนุมทั้งเรียกร้องให้นายกฯ ทักษิณออกจากตำแหน่งที่ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อย่างยืดเยื้อ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งมั่นในสิ่งที่ตนเองกำลังกระทำอยู่ว่านี่เป็นเรื่องที่ดีที่สุด หรือที่ถูกต้องที่สุดที่แต่ละฝ่ายจะกระทำให้กับบ้านเมืองได้ วันนี้เราจึงเห็นภาพของคนสองกลุ่มออกมาแสดงพลังกัน ฝ่ายหนึ่งก็บอกว่า "ท้ากกกกกกสิน.... อออออออออกไป" ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งฝ่ายหนึ่งก็บอกว่า "ทักษิณ สู้ๆ ทักษิณ สู้ๆ" แต่แล้วก็เกิดมีอีกกลุ่มหนึ่งมาออกแสดงตัวว่า รักสันติ  มารณรงค์เปิดไฟหน้ารถ หรือมีป้ายมาบอก "รักพ่อ อย่าทะเลาะกัน" และ ประกาศตนว่าเป็นกลุ่มที่ "เป็นกลาง"


 


เดิมทีเดียวนั้นเวลาเราพูดถึงคำว่า "เป็นกลาง" หรือพูดถึงคำว่า "ประนีประนอม" หรืออะลุ้มอล่วย (compromise)  คนเราก็คงรู้สึกว่าเป็นความหมายเชิงบวกที่คนฟังแล้วก็คงรู้สึกดี แต่เคยคุยกันเล่นๆ มีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่า ตัวเองมักเป็นคนประนีประนอม แต่ถ้าจะพูดอีกด้านหนึ่ง ประนีประนอมในความหมายหนึ่งก็เส้นยาแดงผ่าแปดมากๆ กับคำว่า "ไม่มีจุดยืน"


 


หลายๆ ครั้งเราจำเป็นต้องประนีประนอมเพราะเราไม่ต้องการให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะในเรื่องเล็กๆ เช่น หากไปกินข้าวกับเพื่อนวันนั้นแม้เราอยากกินก๋วยเตี๋ยวมากๆ แต่เพื่อนอยากกินข้าว แล้วร้านทั้งสองก็อยู่คนละด้านกัน แต่อยากไปกินด้วยกัน บางครั้งก็ขี้เกียจจะเถียงกันให้เสียเวลา ก็เลยต้องอะลุ้มอล่วย ยอมไปกินข้าวแทน แล้วค่อยกินก๋วยเตี๋ยวในวันอื่นแทน


 


ส่วนในกรณีของความ "เป็นกลาง" นั้น อันที่จริงก็คือ การไม่พยายามเอาตัวเข้าไปข้องเกี่ยวกับปัญหา หรือความขัดแย้งใดๆ หลายครั้งหากเรารู้สึกว่า เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ และเราก็ไม่อยากให้ตนเองต้องได้ผลกระทบจากเรื่องนี้ เราก็ประกาศตนว่า เราเป็นกลาง ตัวอย่างเช่น มีเพื่อนสองคนทะเลาะกัน เราไม่อยากจะเข้าข้างใดข้างหนึ่งเพราะกลัวจะเสียเพื่อนอีกคนหนึ่งไป หรืออาจจะพยายามเลี่ยงปัญหา เราก็บอกเพื่อนว่า ฉันขอเป็นกลาง จะได้ลอยตัวไม่ต้องไปวุ่นวายกับปัญหาของเพื่อน


 


ในกรณีของสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ มีเรื่องอยู่ว่า มีคนได้เห็นความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานของรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวนายกรัฐมนตรี ที่มีการประพฤติมิชอบและการขาดจริยธรรมในการเป็นผู้นำประเทศ ก็เลยออกมาเรียกร้องว่า เลิกเป็นผู้นำของเราเสียทีเถอะ คุณหมดความชอบธรรมแล้ว  ในขณะที่ตัวนายกฯเองก็มองไม่เห็นว่า ตนเองผิดอะไร เพราะทุกอย่างทำตามกฎหมาย และเล่นตาม "กติกา" และมีประชาชนอีกกลุ่มก็ออกมาสนับสนุนว่า ใช่ ท่านยังควรที่จะเป็นผู้นำของเราต่อไป เรายังไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำ ในกรณีนี้ไม่ใช่เรื่องคนสองฝ่ายที่ไม่เกี่ยวกับเรามาทะเลาะกัน เป็นปัญหาของประเทศชาติซึ่งถือเป็นปัญหาของคนทุกคนว่าคุณอยากจะเลือกให้ประเทศเรามีผู้นำแบบไหน และจะให้ประเทศเราเดินไปทางไหน


 


คนในชาติจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องออกมาบอกว่า ตนเองนั้นเลือกฝ่ายไหน พวกหนึ่งนั้นเห็นแล้วว่าประเทศชาติเกิดปัญหาจากการบริหารของนายกฯ ทักษิณ แต่อีกส่วนหนึ่งก็บอกว่า ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนพวกที่อ้างตัวว่า เป็นกลางนั้นเท่ากับเป็นพวกที่ไม่ทำอะไรเลย และไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อประเทศชาติด้วยซ้ำ รวมทั้งไม่สามารถจะทำให้ปัญหายุติได้เพราะคุณไม่ได้แสดงจุดยืนเลยว่าคุณต้องการอะไร หากต้องการสันติ คุณควรจะทำอะไรมากกว่าที่แค่บอกว่าเป็นกลางกระมัง


 


คนที่อ้างว่า ตัวเองเป็นกลางนั้นน่าจะมีอยู่ 2 จำพวก (อาจมีมากกว่านี้แต่คิดออกแค่นี้ก่อน) คือ พวกแรก หน่อมแน้มมากๆ และไม่รู้ปัญหาจริงๆ ว่านี่เป็นปัญหาของประเทศชาติที่จะส่งผลกับตนได้ เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นการทะเลาะกันของคนอื่น ส่วนตัวเองนั้นไม่เกี่ยว ดังนั้น จึงขอลอยตัวอยู่เหนือปัญหา คนพวกนี้มักไม่เคยเข้าใจในประเด็นปัญหาสาธารณะ เพราะวันๆ คิดแต่เรื่องของตัวเอง ส่วนอีกพวกหนึ่งนั้นรู้ดีว่า นี่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศที่จะส่งผลถึงตนเองได้ แต่เกรงตนเองจะเสียประโยชน์ในอนาคต คนเป็นกลางแบบนี้ จริงๆ แล้วเป็นพวกเหยียบเรือสองแคม เพราะจะไม่ยอมเสียประโยชน์ใดๆ ของตน เช่นในกรณีที่เกิดขึ้น หากฝ่ายนายกฯ ทักษิณ ยังคงกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลต่อก็คิดว่าตนเองก็จะยังคงดำรงสถานะและตำแหน่งต่างๆ ของตัวอยู่ได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่ได้สนับสนุนม็อบพันธมิตรฯ หรือหากฝ่ายพันธมิตรฯ ชนะ และมีคนใหม่มาเป็นรัฐบาล ตนก็ไม่ถูกประณามว่า เป็นพวกเข้าข้างทักษิณ ดังนั้น กลุ่มนี้จึงเป็นพวกที่คอยรอสถานการณ์ และชุบมือเปิบแท้ๆ โดยไม่ต้องลงแรง


 


การออกมาเรียกร้องว่าอย่าทะเลาะกันนั้น ถามว่าแล้วจะให้อยู่เฉยกระนั้นหรือ การออกมารณรงค์ว่าให้เห็นแก่บ้านเมืองเถอะ  แปลว่าจะให้อยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลยกระนั้นหรือ ถ้าเป็นดังนั้นก็แปลว่าปล่อยให้นายกฯทักษิณบริหารงานไปตามปกติต่อไปนั่นเอง  ดังนั้น คนที่บอกว่าตนเป็นกลางและไม่ได้แสดงจุดยืนที่จะเข้าร่วมกับพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยในการเรียกร้องให้นายกฯออกไปนั้น อยากจะขอสรุปตรงนี้เลยว่า คุณเลือกข้างแล้ว นั่นคือ เลือกที่จะให้นายกฯทักษิณทำงานต่อไป  


 


ดังนั้น คนที่บอกว่าตนเองเป็นกลางจึงควรไปแสดงจุดยืนของท่านกับม็อบรถอีแต๋น หรือเวทีปราศรัยที่หมอชิต อย่ามาทำแอบอ้างเพราะกลัวตกกระแสอยู่เลย  (อาจจะไปด้วยตัวเองหรือเพียงแสดงเจตจำนงก็ได้)  และจงรู้ไว้ด้วยเถิดว่า ในเรื่องความดี ความชั่ว ความรัก ความเกลียด และความถูก ความผิดนั้น ความเป็นกลางไม่มีจริงดอก เว้นแต่คุณจะไม่กล้าหาญและหลอกตัวเอง