Skip to main content

สายน้ำไหลเลี้ยงเมือง พอรุ่งเรืองเจ้าละเลย สายเลือดแม่บ่เคย วางเฉยนิ่งดูดาย

คอลัมน์/ชุมชน


 


ก่อนเกยรินใสไหลเย็น  เปลี่ยนเป็นปิงข้นขุ่น


เลี้ยงหล่อและเกื้อหนุน พอเติบโตเจ้าลืมหลง


วางเรื่องซับซ้อนลงคงชะล้างสะอาดได้


ฮ้อนแฮงและว้าวุ่นข้าเคืองข้องขุ่นหมองใจ


ต่างยุคสับสมัย ต่างไหว อารมณ์อ่อนยินเสียงกำแม่วอน


สะต๊อนย้อนย้ำฟัง


 


โอ่โอ…ลูกเอยแม่เอ่ยกู่ก้องฟ้า


มีดผ่ากลางอก จ๊กเอาหัวใจใส่แทนตั๋วเจ้าได้


ให้ฮ้องหื้อฮู้ฮัก...


 


ปิงเอย...แม่ข้า ล้ำฟ้าค่าใหญ่ล้น 


แม่เอยอย่าเศร้าหม่น  ลูกแทนทดด้วยชีวา


ปิงเอยแม่จ๋า  สัญญาจะดูแล


สายน้ำไหลเลี้ยงเมือง พอรุ่งเรืองเจ้าละเลย


สายเลือดแม่บ่เกย  วางเฉยนิ่งดูดาย


สองสิ่งสื่อความหมายลูกหญิงชายจึ่งใคร่ครวญ...


 


บทเพลง "ปิงเอย แม่ข้า"


คำร้อง ทำนอง รังสรรค์ ไชยา


จากอัลบั้มพิเศษ เพลงรักเชียงดาว


 


จริงๆ แล้ว  มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่  ประเพณีวัฒนธรรมอันเก่าแก่  วัดวาอาราม  ครูบาศรีวิชัย  พระธาตุดอยสุเทพ ภูเขา ป่าไม้ สายน้ำปิง หญิงงาม และดอกไม้บาน


 


แต่กลายกลับว่า บัดนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่เหมือนแต่ก่อน สายน้ำปิงกำลังจะถูกให้สร้างพนังเขื่อนกั้นสองฝั่งแม่น้ำปิง  วัดวาอารามถูกกลายเปลี่ยนเป็นโรงแรม ลานครูบาเจ้าจะกลายเป็นลานจอดรถ จุดรับส่งเคเบิลคาร์  ป่าอุทยานฯ สุเทพ-ปุยอันอุดมสมบูรณ์ กลายเป็นสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี อุทยานช้าง


 


ว่ากันว่า ผืนป่าจะถูกตัดผ่านเชิงดอยไปถึงแม่ริม ให้กลายเป็นถนนของความมั่งคั่งของใครบางคน(ท้ายสุดของถนน คือที่ดินของนายทุนนักการเมือง) และมีเชียงใหม่เวิลดิ์ อีกหลายนับสิบโครงการ  


 


แน่นอนว่า ย่อมทำให้ผืนป่านั้นเริ่มเสื่อมโทรม  น้ำเริ่มเหือดแห้ง


และน้ำใจคนเมืองเริ่มเหือดหาย...


 


บัดนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป 


ไก่แม่ให้ไก่ตัวผู้ฟักไข่


หินจะลอย  น้ำเต้าจะจม โลกจะปลิ้นพลิกขึ้น 


จับกำอะหยังไว้ก่บ่อยู่  กำได้แต่กอข้าว กอเฟือง...


...งูใหญ่จะทิ้งร่องรอยไว้  งูใหญ่จะมากลืนกินเผ่าพันธุ์ชายหญิง


คนสมัยหนึ่งจากเราไป  คนสมัยหนึ่งก็ตามเรามา...


 


เป็นคำทา ของชนเผ่าปวาเก่อญอที่เธอ "สุนทรี เวชานนท์" รำพันคลอเพลงบรรเลงในชุด "บันทึกคนต้นน้ำ" "ลีซะ และสุวิชานนท์"  ที่พยายามจะบอกเล่าให้คนเราได้ฉุกคิด และเตรียมพร้อมตั้งรับกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังถาโถมเข้ามาพร้อมความละโมบ กวาดกลืนกินทุกสรรพสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าภูเขา ป่าไม้ ลำธาร ฯลฯ


 


แม้กระทั่งจิตวิญญาณของความเป็นคน มิให้มันหลงเหลืออยู่!


...งูใหญ่จะทิ้งร่องรอยไว้  งูใหญ่จะมากลืนกินเผ่าพันธุ์ชายหญิง


จริงสิ, ถ้าเปรียบงูใหญ่  ก็เหมือนกับผู้ปกครองที่ละโมบ  มิรู้จักพอ


หรือไม่อาจเปรียบเช่น "ทุนนิยม" ที่รุกคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบกริบ อย่างเลือดเย็น


โดยที่พี่น้องเราไม่รู้สึกตัว...


 


คืนนั้น, ฟ้ามืด ไร้เดือน ไร้ดาวส่องแสง


แหงนมองไปบนยอดดอยด้านทิศตะวันตก


ในความมืด, แสงไฟดวงเล็กกระพริบวอมแวมแทรกหว่างกลางดงป่าสูง


ให้รับรู้ถึงการคงอยู่ดำรงอยู่ของพระธาตุดอยสุเทพอันศักดิ์สิทธิ์


ทว่าสายลมยังคงพัดมาผะผ่าวร้อนและแล้งแห้ง  


เหมือนดั่งอยากจะทิ่มแทงเสียดผิวกายใจคนให้บาดแปลบเจ็บลึก


พลันอดครุ่นนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานวัน


ใช่, แล้งนี้ช่างร้อนร้าย 


ทำให้ดอกไม้หลายดอกนั้นเศร้าหมอง...


 


ยินข่าวการขว้างปาระเบิดลูกเกลี้ยงให้กลิ้งเขาไปในเฮือนสุนทรี รู้สึกตกใจ ไม่มีใครรู้ว่านี่คือการข่มขู่หรือเจตนาอาฆาตมาดหมายเอาชีวิตเธอ  หากนั่นทำให้หลายดวงใจผู้คนเชียงใหม่นั้นรู้สั่นไหวสั่นสะทกร้าว ว่าเมืองอันสงบงดงามของเชียงใหม่ได้แปลกแยกแปลกเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้  เพียงเพราะว่าเธอออกมาพูดตามวิถีของคนห่วงใยในชะตากรรมของบ้านเมือง


 


อ.จรัล ดิษฐาภิชัย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ บอกกับผมเมื่อครั้งเดินทางมาให้กำลังใจเธอที่บ้านริมปิง ย่านวังสิงห์คำ ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามต่อชีวิตและเป็นการข่มขู่คุกคามต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง


 


"นอกจากนั้น อาจมีเหตุผลเกี่ยวข้องว่าเป็นคนเชียงใหม่ไม่ควรไปขัดแย้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเป็นคนเชียงใหม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าเขาคิดแบบนี้จริงๆ ถือว่าเป็นความคิดที่คับแคบ เป็นความคิดแบบลัทธิพรรคพวกท้องถิ่นนิยมต่างๆ ซึ่งปัญหาทางการเมืองนั้นเป็นปัญหาระดับชาติ ระดับประเทศ ซึ่งทุกคนมีสิทธิมีเสรีภาพที่จะเห็นจะมอง และมีความคิดในหลายด้าน ซึ่งอยากให้สังคมการเมืองในเชียงใหม่ได้เคารพในสิทธิของคุณสุนทรี เวชานนท์ด้วย"


 


ใช่, เป็นสิทธิตามครรลองการเสนอความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตย


ที่ใครหลายใครทุกทั่วประเทศก็ต่างมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้


ผมเห็นด้วย ที่ อ.จรัล บอกย้ำ- - ว่าเราอย่าคิดแบบคับแคบ คิดแบบลัทธิท้องถิ่นนิยม


โปรดใจเย็น ใช้สติ คิดใคร่ครวญ ใช้เหตุใช้ผล มาชั่งหยั่งลงในสำนึกแห่งตน


ปราชญ์ท่านหนึ่งบอกไว้ว่า ปัญหาทำให้เกิดปัญญา ดังนั้น เราต้องมองให้ลึกและรู้รอบ ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต


 


อย่างไรก็ตาม ผมยังเชื่อว่า น้ำใจคนเมือง คนเชียงใหม่ส่วนใหญ่ ไม่กล้าที่จะคิดทำเช่นนี้แน่นอน นอกเสียจากว่า ใครบางคน คนบางกลุ่มที่กลัวเสียผลประโยชน์จากโครงการต่างๆ ที่กำลังเสนอและเร่งดำเนินการอย่างเร่งรีบและร้อนรน ที่กล้าใช้อำนาจเถื่อนเช่นนี้!


 


เมื่อสิ่งที่เธอทำ เพื่อออกมาปกป้องรักษาทรัพยากรท้องถิ่น เนื่องจากนโยบายโครงการใหญ่ๆ ของรัฐ (ที่กลุ่มทุนบางกลุ่มบางคน) เข้ามาเหยียบย่ำทำลาย กอบโกยพร่าผลาญไปต่อหน้าต่อตา ทำให้คนเมืองเราต้องรับชะตากรรมที่ตนเองไม่ได้ก่อในอนาคต อย่างนั้นหรือ!?


 


หรือว่าเราจะปล่อยให้งูใหญ่มาทิ้งร่องรอยไว้ 


ปล่อยให้งูใหญ่มากลืนกินเผ่าพันธุ์ชายหญิงของเรา!


 


โอ่โอ…ลูกเอยแม่เอ่ยกู่ก้องฟ้า


มีดผ่ากลางอก จ๊กเอาหัวใจใส่แทนตั๋วเจ้าได้


ให้ฮ้องหื้อฮู้ฮัก...


ปิงเอย...แม่ข้า ล้ำฟ้าค่าใหญ่ล้น 


แม่เอยอย่าเศร้าหม่น  ลูกแทนทดด้วยชีวา


ปิงเอยแม่จ๋า  สัญญาจะดูแล


สายน้ำไหลเลี้ยงเมือง พอรุ่งเรืองเจ้าละเลย...


 


นิ่งฟังเพลงนี้คราใด...ทำให้นึกถึงใครบางคนที่เป็นใหญ่เป็นโต ที่พร่ำบอกว่าเป็นลูกคนเมือง ลูกแม่น้ำปิง ไม่เคยคิดละทิ้งหรือทำลาย


แต่ก็คงเป็นอย่างว่านั่นแหละ  ก็คงเหมือนกับบางท่อนบางทำนอง...


สายน้ำไหลเลี้ยงเมือง พอรุ่งเรืองเจ้าละเลย...