Skip to main content

เก็บตกจากหลวงพระบาง (2)

คอลัมน์/ชุมชน

UXO ฝันร้ายที่ยังคงอยู่จริง


 


ใครต่อใครที่ไปเที่ยวที่หลวงพระบางนั้นอาจจะมองเห็นแต่ความสงบและบ้านเมืองที่สวยงามจนแทบนึกไม่ถึงเลยว่า จริงๆ แล้วที่เมืองนี้เองก็ไม่ได้รอดพ้นจากการทิ้งระเบิดของกองทัพสหรัฐฯ ในสมัยสงครามอินโดจีนด้วยเหมือนกัน และทุกวันนี้แม้ว่าสงครามจะผ่านสิ้นสุดไปนานกว่า 30 ปี แล้ว แต่การเก็บกู้ระเบิดก็ยังไม่สิ้นสุด ทีมงานเก็บกู้บอกว่า กว่าจะหมดลงไปได้คงจะต้องใช้เวลานานถึง 150 ปี


 


ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางออกไป 20 กว่ากิโลเมตร ที่เมืองปากอู ทางทีมงานโครงการเก็บกู้ระเบิดแห่ง สปป.ลาวประจำเมืองหลวงพระบาง  (Lao National UXO Programme - UXO Lao) ได้นำคณะผู้สื่อข่าวจากประเทศลุ่มแม่น้ำโขงไปดูการทำงานในสถานที่จริงที่เก็บกู้ระเบิดที่เรียกว่า UXO – Unexploded Ordinance (ลูกระเบิดที่ยังไม่ระเบิด) ถึง 3 แห่ง ด้วยกัน คือ ที่บ้านผาเทิง บ้านผาเวียง และบ้านหาดเค็ง  แต่ละที่ก็มีระเบิดชนิดต่างๆ เช่น cluster bomb, Bomb-B 26       (BLU 26)  รวมทั้งกระสุนปืนครก สะเก็ดจรวด เศษหัวระเบิด  มีทั้งที่พบอยู่บนที่ดินทำกินบนเนินเขา และอยู่ในน้ำ


 


ที่บ้านผาเทิง แค่ตรงไซท์งานที่มีพื้นที่ 4,246 ตารางเมตร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำรวจพบ UXO ถึง 67 ลูก อีกทั้งยังพบว่าบนพื้นที่กว้างเพียง 2 ตารางเมตร ค้นพบระเบิดถึง 26 ลูก นับว่าอันตรายมากๆ  ซึ่งการค้นพบนี้เนื่องมาจากเจ้าของที่ดินจะเข้าไปทำกิน แต่พบระเบิด จึงแจ้งทางโครงการฯ ให้เข้าไปสำรวจและเก็บกู้


 


ชาวบ้านแถบนั้นจะเริ่มคุ้นเคยกับเสียงหวอ เพื่อแจ้งว่าจะมีการทำลายระเบิด ขอให้ออกไปอยู่ห่างๆ จากพื้นที่  การได้เข้าไปดูการเก็บกู้และทำลายระเบิด ทำให้เข้าใจได้อย่างหนึ่งว่า คนที่อยู่ในช่วงสมัยสงครามในขณะนั้นจะขวัญผวากันขนาดไหน เวลาที่ได้ยินเสียงวี้ด...ตู้ม วี้ด...ตู้ม  เพราะในการทำลายนั้นคงไม่ได้เปิดโอกาสให้คนหนีได้ทันแน่


 


ผู้ประสานงานโครงการเก็บกู้ระเบิด สาขาแขวงหลวงพระบาง ท่านหุมพัน จันทะวง ได้บรรยายถึงที่มาของระเบิดเหล่านี้ให้กับบรรดาผู้สื่อข่าวจากประเทศลุ่มน้ำโขงฟังว่า "ลูกระเบิดมาจากอเมริกา และพรรคพวกที่ชอบสงคราม ทิ้งระเบิดทางอากาศที่มีการสู้รบตั้งแต่ปี 1964 จนกระทั่ง 1973  เป็นการทิ้งระเบิดที่หนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก มีการทิ้งระเบิดถึง 580,000 เที่ยวบิน คะเนว่ามีระเบิดถึง 2 ล้านตัน และคาดว่ายังมีจำนวน UXO หลงเหลืออยู่ถึงประมาณ 10-30% ของจำนวนระเบิดทั้งที่ตกค้างอยู่ทั้งใต้ดินและหน้าดิน"


 


ทั้งนี้ มีอยู่ไซท์หนึ่งที่มีการพบระเบิดขนาดใหญ่ ที่หากระเบิดออกมาสามารถมีอานุภาพทำลายล้างกินพื้นที่ถึง 1 ตารางกิโลเมตร ชาวบ้านพบระหว่างการลงไปหาปลาในแม่น้ำดังกล่าว ซึ่งแม่น้ำแห่งนี้มีทัศนียภาพสวยงามยิ่ง และเป็นแม่น้ำที่ชาวบ้านยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน


 


ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า ระเบิดส่วนใหญ่นั้นเป็นอเมริกาที่ทิ้งลงไป ปัจจุบัน ลาวต้องใช้งบประมาณในการเก็บกู้ถึงปีละ 400,000 เหรียญสหรัฐฯ  โดยงบประมาณส่วนใหญ่นั้นได้รับจากเยอรมัน และญี่ปุ่น ส่วนสหรัฐอเมริกาตัวต้นเรื่องนั้นให้งบประมาณน้อยมากจนถึงไม่ให้เลย


 


จะเห็นได้ว่า ภายใต้ความสงบและความสวยงามที่เห็นในบ้านเมืองลาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หลวงพระบางนั้น ยังคงมีฝันร้ายจากสงครามที่เกิดขึ้นจากความต้องการยิ่งใหญ่ของมหาอำนาจฝังตัวอยู่


 


ดร.เหงียน หง็อก เจิน ศาสตราจารย์ด้านสื่อสารมวลชนจากเวียดนามกล่าวในการปิดการประชุมผู้สื่อข่าวลุ่มน้ำโขงที่จัดโดยสำนักข่าวอินเตอร์เพรส เซอร์วิส ภายหลังจากมีการนำเสนอภาพการไปทัศนศึกษาพื้นที่เก็บกู้ UXO ว่า "30 ปีหลังจากสงครามได้ยุติลงไปแล้ว  ผู้คนก็ยังต้องทุกข์ทรมานจากระเบิดอยู่  โลกควรจะได้รับรู้เรื่องนี้เอาไว้ด้วย"


 


โลกนั้นคงจะรับรู้แล้วว่าอานุภาพของขีปนาวุธที่นำมาใช้ในสงครามนั้นเลวร้ายขนาดไหน ไม่ว่าครั้งฮิโรชิมา หรือสงครามอินโดจีน แต่กระนั้น ทุกวันนี้สหรัฐฯ มหาอำนาจหลักตัวต้นเรื่องก็ยังคงไม่เลิกคิดที่จะทิ้งระเบิดในประเทศต่างๆ เลย และหลายๆ ประเทศก็กลับคิดค้นขีปนาวุธที่มีอานุภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนำมาใช้ห้ำหั่นกัน โดยอ้างว่า "เพื่อสันติภาพของโลก" (???)


 


หมายเหตุ : สามารถอ่านเรื่องราวของหลวงพระบางได้ใน "ชีวิตในเมืองมรดกโลก" ที่เผยแพร่ไปแล้วที่ประชาไทได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms01&ContentID=1002&SystemModuleKey=SepcialReport&SystemLanguage=Thai


 


 


 


 บนทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้าสายนี้ เหนือจากบริเวณที่คนยืนไปราว 10 เมตร พบบอมบ์-บี ขนาด 1 เมตร


 



นี่ก็ระเบิด มองเผิน อาจคิดว่าก้อนหินธรรมดา


 



ภาพ
2-3 : พื้นที่กว้างประมาณ 2 ตารางเมตร พบระเบิดถึง 26 ลูก


 



ภาพ
2-4 : ทีมเก็บกู้ "ภูมิใจที่ได้ทำงานเพื่อประชาชน"