Skip to main content

เหมือนดอกไม้มีเรื่องเล่า ตอน1 : ดอกโมก เพื่อนบ้าน และอนาคตของความหลัง

คอลัมน์/ชุมชน


 


แม้จะเป็นกลางวันแสกๆ


แต่อาการด้อมๆ มองๆ ของผู้ชายวัยเกือบห้าสิบคนนั้น ก็ทำให้ฉันหายใจไม่ทั่วท้อง


 


สี่วันแล้ว ที่เห็นเขามายืนซุ่มอยู่หน้าบ้าน เขามักจะมาเวลาบ่าย สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล เสื้อยืดสีขาวล้วน


 


เดินมาจากทิศตะวันออก ออกจากซอยที่ถัดกันไปสองซอย เดินช้าๆ ดูสบายอกสบายใจ


แล้วก็หยุดอยู่ตรงหน้าบ้าน ไม่มีเสียงเรียก ไม่มีธุระ ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง เขาก็จะเดินกลับไป เป็นเช่นนี้ทุกวัน จนอาการกลัวเริ่มเปลี่ยนเป็นแปลกใจ คิดขำๆ ว่าถ้าเป็นชายหนุ่มก็พอจะคิดเข้าข้างตัวเองได้ว่า เขาอยากมาจีบหรือเปล่า แต่ดูท่าทีแล้วก็เหมือนไม่ใช่


 


จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันก็ได้คำตอบ


เขาเดินมาแล้ว ฉันก็เดินออกไป ทำทีเป็นรดน้ำต้นไม้เร็วกว่าเวลาปกติ


คุณลุงดูแปลกใจเล็กน้อย แต่แล้วก็ยิ้มเริงร่า ทักทายฉันว่า "สบายดีหรือเปล่า"


"สบายดีค่ะ" ฉันตอบอาการเกร็งๆ แม้จะเคยเจอหน้าเขาหลายครั้งแล้ว แต่เราก็ไม่เคยทักทายกัน


หมู่บ้านเล็กๆ ที่ฉันอยู่นี้ครึ่งหนึ่งเป็นคนเมืองอื่น ซึ่งมาซื้อบ้านทิ้งไว้ตากอากาศบ้าง ซื้อแล้วก็ขายไปบ้าง และครึ่งหนึ่งก็เป็นบ้านเช่าของเหล่าคนพเนจร ที่ไม่ปักใจว่าจะอยู่ที่ไหนนานๆ


 


"หนูอยู่บ้านคนเดียวหรือ"


"เอ่อ ค่ะ" เจอคำถามยิ่งตกใจ แต่ใบหน้าใกล้ชรานั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นผู้ร้าย


สักครู่เขาเดินมาชิดที่ประจำ ข้างรั้วตรงนั้น ซึ่งมีต้นโมกเรียงอยู่ในกระถางสี่ต้น


 มันกำลังออกดอกเป็นพวงสีขาวสะพรั่ง


เขาก้มหน้าลง ประคองช่อดอกไม้ให้แตะจมูก สูดหายใจยาวๆ


"หอมดีจริงๆ มันชื่อต้นอะไรนะ"


"ต้นโมกค่ะลุง"


"เชื่อไหม ลุงได้กลิ่นดอกไม้นี่ไกลไปถึงหน้าบ้าน"


"ขนาดนั้นเลยเหรอคะ" ฉันแปลกใจ


"เวลาลมบ่ายพัดไปทางนั้น หนูรู้หรือเปล่า มันเป็นกลิ่นที่ลุงคุ้นๆ เลยเดินตามกลิ่นมา พอเห็นแล้วตกใจเลย ดอกอะไรออกเยอะขนาดนี้"


"ค่ะ ตอนนี้ฤดูของมันเลยแหละ คุณลุงอยู่หลังไหนคะ"


ฉันชวนคุย รู้สึกโล่งใจ เขาชี้ไปยังบ้านหลังแรกซอยถัดไป


"หนูเห็นบ้านแฝดหลังนั้นไหม ของลุงสองหลังเลย ซื้อไว้ตั้งแต่สิบปีก่อน สมัยนั้นย้ายมาจากกรุงเทพฯใหม่ๆ"


"คุณลุงอยู่กรุงเทพฯ เหรอคะ"


"ใช่ ครอบครัวอยู่โน่นหมด แต่มาเที่ยวบ่อยแล้วติดใจ จนลูกสาวเขาสอบติดที่ มช. นั่นแหละ เลยตัดสินใจว่ามาอยู่ที่นี่กันเลยดีกว่า ทั้งแฟน ทั้งลูก เรามาอยู่ที่นี่หมด"


"ค่ะ" ฉันรับฟัง


"แล้วกลิ่นดอกไม้นี่นะ สมัยก่อนข้างบ้านเขาปลูกตอนลุงเด็ก ๆ แต่เขาดุเลยไม่กล้าไปถามอะไรเขา  พอมาอยู่นี่ ในหมู่บ้านเราก็ไม่เห็นใครปลูก เพิ่งเห็นหนูนี่แหละ ชอบเหรอ"


"ค่ะ ชอบมาก พี่สาวเขาเคยปลูกที่กรุงเทพฯเหมือนค่ะ กลิ่นหอม ดอกสีขาวน่ารัก ย้ายมาก็เลยซื้อมาปลูกค่ะ"


"แล้วพี่สาวไปไหนแล้วล่ะ"


"เขาอยู่ในเมืองค่ะ อยู่แถวสวนดอก"


ลุงพยักหน้ารับฟัง ก้มลงดมกลิ่นโมกอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า


"อยู่ห่างกันแบบนี้ก็คงเหงาหน่อย ลุงมาอยู่ใหม่ๆ ก็เหงา ไม่มีเพื่อน แต่เราก็ชอบชีวิตสงบนะ นี่ก็ปลูกต้นไม้ จัดสวนไปวันๆ ก็มีความสุขดี"


 


"คุณลุงไม่คิดกลับกรุงเทพฯ แล้วเหรอคะ"


"ไม่กลับหรอก กรุงเทพเป็นเมืองร้อน ร้อนทั้งใจทั้งกาย ยิ่งตอนนี้เห็นไหมบ้านเมืองวุ่นวาย ไปทางไหนมีแต่ความขัดแย้ง แต่ลุงไม่ถามเรื่องการเมืองหรอกนะ เดี๋ยวจะทะเลาะกันเอา"


ว่าแล้วเขาก็หัวเราะ ฉันก็หัวเราะไปด้วย เป็นเรื่องขำมักพูดอะไรต่อไม่ออก ฉันยิ้มรับอย่างเคารพในความคิดส่วนตัว ซึ่งเราอาจไม่จำเป็นต้องคุยกันก็ได้ แม้ลึกๆ จะรู้สึกว่ามันน่าเศร้าไม่น้อย ที่เราไม่สามารถแสดงความเห็นที่แตกต่างกันได้ในบางครั้ง


 


ฉันยังรดน้ำต้นไม้ต่อไปเรื่อยๆ  คุณลุงยังไม่เดินออกห่างจากต้นโมก


เขาพินิจพิจารณาดอกไม้สีขาวนั้นเหมือนมิตรผู้มาใหม่ ความหลังวัยเยาว์อาจกำลังทำหน้าที่ ฉันปล่อยให้เขายืนอยู่ตรงนั้น แล้วเดินออกไปรดน้ำต้นไม้ต้นอื่นๆ


"คุณลุงอยากได้ไปปลูกไหมคะ มันตอนกิ่งก็ได้ หรือถ้าดินดี ก็ตัดไปเสียบเลย น่าจะเป็นอยู่"


"โอ้ ขอบคุณมากหนู แต่ไม่เป็นไร ว่าจะไปดูที่ตลาดคำเที่ยงเหมือนกัน"


"ค่ะ" ฉันตอบอย่างไม่รู้จะพูดอะไร


"ไม่อยากเชื่อเลย ลุงเห็นมันมานานแต่ไม่เคยรู้ว่ามันชื่อดอกไม้ แก่ขนาดนี้มีดอกไม้ตั้งเยอะนะที่ไม่รู้จักชื่อ"


"ค่ะ พันธุ์ต้นไม้เยอะเหลือเกิน หนูยิ่งไปกันใหญ่ รู้จักอยู่ไม่กี่ชนิดหรอก" ฉันว่า


"แต่เดี๋ยวลุงจะซื้อมาปลูก ปลูกลงดินเลย ให้ออกดอกเป็นบ้าเป็นหลังไปเลย อีกหน่อยตอนแก่ๆ ได้กลิ่นจะได้จำได้ด้วยว่าหนูเป็นคนบอกชื่อมันให้ลุงนะ โมก โมก โมก"


 


เขาว่าอย่างอารมณ์ดี ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข ประกายตาชวนฝันในวันที่แดดบ่ายใกล้หมดแล้ว


"โห คิดถึงอนาคตเชียวนะคะลุง"


"ใช่ ลุงว่าความหลังของคนเรา มันก็คืออนาคตนั่นแหละ งงไหมหนู ถ้าเราตามทันนะ เราอยากให้ความหลังเรามีอะไร เราก็ทำมันตอนนี้ไง"


"อ้อ...ค่ะ"


รับคำอย่างประหลาดใจ สายลมบ่ายปลายมีนาคมพัดมาอีกครั้ง โมกบางดอกหลุดจากพวงร่วงลงจากต้น ดอกกระจิดริดแตะต้องผืนดินแผ่วเบา ชายวัยใกล้ชราเอื้อมมือลงหยิบขึ้นมาวางบนฝ่ามือ


ฉันสูดลมหายใจ ไม่อยากบอกเลยว่าอีกไม่กี่วันฉันก็จะย้ายจากที่นี่ไปเสียแล้ว


แต่ไม่เป็นไรหรอก ในอนาคตของฉันเองก็จะมีความหลังเหมือนกัน


ความหลังที่เกี่ยวกับคุณลุงเพื่อนบ้าน ตราบเท่าที่ดอกโมกยังจะบานในฤดูกาลของมัน


ทุกๆ ปี.


 


-------------------------------------------------------------------------------


 


                             


 


 


 


                            


 


 


 


 


                               


 


 


 



 


 


 



 


 


 


         


 


 


 



 


 


 



 


 


0 0 0