Skip to main content

ชุมนุม? สัญญาณแห่งหาย..นะ

คอลัมน์/ชุมชน



 



นั่นแน่ พอพูดถึงชุมนุม คงคิดละซิว่าผู้เขียนจะเขียนถึงกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาแสดงความเป็นประชาธิปไตยที่อ้างว่าทำตามรัฐธรรมนูญของแต่ฝ่าย ที่ออกมาฟาดฟันกันอยู่เหยงๆ ในช่วงที่ผ่านมา (รวมผู้เขียนด้วย) ซึ่งก็ใช่อยู่ส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่เสียทั้งหมด



 


ผู้เขียนเพียงจะเขียนบางแง่บางมุมในความรู้สึกของผู้เขียนเท่านั้น    การชุมนุมของ "คน" แต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนอย่างไร  จะถูกต้องหรือไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไรก็ตาม แต่ที่แน่ๆ ถ้าที่ไหนมีการชุมนุม โดยเฉพาะการชุมนุมด้วยความขัดแย้งและต่อต้าน  เมื่อนั้น ความหายนะมักจะเกิดขึ้นกับผู้บริหาร ณ ที่แห่งนั้นเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน บริษัท แม้แต่คณะผู้บริหารประเทศ    การชุมนุมนั้นไม่ใช่มีเพียงการชุมนุมของคน แต่ยังมีการชุมนุมของสัตว์ที่สามารถชี้ให้เห็นถึงหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามา โดยที่เราไม่รู้ตัว


 


วันนี้เราจึงจะมาคุยกันเรื่อง การชุมนุมตามวิถีธรรมชาติ ที่สามารถบอกเหตุการณ์ลางร้ายกับความหายนะที่จะเกิดขึ้นในอนาคต   หากจะพูดถึง "สึนามิ" วันนี้คงจะไม่ล้าหลังจนเกินไป เพราะฝันร้ายครั้งนั้นมันยังติดตาติดใจพวกเราอยู่ เพราะวันนั้นเราไม่รู้และเราไม่เคยคิดว่าจะมีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้น   ทั้งๆ ที่มีเหตุการณ์ทางธรรมชาติเตือนเราแล้ว  แต่เราไม่สามารถสื่อสารกับมันได้และไม่เข้าใจในการสื่อสารนั้น   จนเหตุการณ์มันเกิดขึ้น  เราถึงได้รู้ว่าเหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นในทะเลนั้น  ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกัน 


 


เช่นเหตุการณ์ก่อนสึนามิที่เกิดขึ้นประมาณ 15 วัน พวกเราชาวประมงที่ทำประมงบริเวณชายฝั่งสมุทรสงคราม ได้พบปรากฏการณ์ที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิต  นั่นคือมีปลาจวดมาชุมนุมกันมากมาย  วันนั้นเราไม่รู้ว่าปลาเหล่านั้นมาได้อย่างไร รู้แต่ว่าในชีวิตเราไม่เคยจับปลาได้มากขนาดนั้นมาก่อน  จากเดิมเราหาปลาแต่ละวันอย่างมากได้ไม่เกิน 10,000 บาท (ยังไม่หักค่าน้ำมันและต้นทุนอื่นๆ)  แต่ช่วงนั้นเราจับปลาได้มากกว่าวันละ 100,000 บาท (ตัวเลขไม่ผิดหรอก เราจับปลาได้เกินแสนบาทจริงๆ) ไม่ใช่เรื่องพูดเล่นนะ ผู้เขียนยืนยันได้เพราะอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ


 


ยังจำได้ วันนั้นผู้เขียนนอนอยู่ที่บ้าน พี่สาว (ไต้ก๋งเรือ) ที่นำเรือออกไปหาปลากลางทะเลโทรเข้ามาบอกว่า วันนี้ได้ปลาเยอะมาก เรือบรรทุกไม่หมด ให้ผู้เขียนเอาเรือเล็กที่บ้านออกไปถ่ายปลาจากเรือกลางทะเล   ขณะนั้นเวลาประมาณ 4 ทุ่ม  ผู้เขียนขับเรือเล็ก (เรือหางยาว) ออกไปกลางทะเล เพื่อไปขนถ่ายปลาจากเรือพี่สาวเข้าบ้าน ไปถึงเรือตกใจมากว่า ทำไมพี่สาวถึงได้หาปลาได้มากมายขนาดนั้น   พี่สาวก็บอกไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง รู้แต่ว่ามันเยอะมากๆ  เมื่อลูกน้องช่วยกันถ่ายปลาลงเรือเล็กของผู้เขียนเรียบร้อย  ผู้เขียนก็ขับเรือเพื่อกลับเข้าฝั่ง 


 


เมื่อขับมาได้สักระยะห่างจากเรือพี่สาวประมาณ 500-700 เมตร  ผู้เขียนถึงกับผงะกับฝูงปลามากมายที่ได้เห็น ปลาเหล่านั้นมารวมตัวกันและแตกกระจายเวลาที่เรือเราแล่นผ่าฝูง (ประกายน้ำแตกกระจายสว่างไสวเหมือนพลุที่แตกกระจายอยู่บนฟ้า) ผู้เขียนรีบโทรศัพท์กลับไปหาพี่สาวที่เรือใหญ่ บอกเจอฝูงปลาฝูงใหญ่มาก พี่สาวจึงเคลื่อนเรือมาบริเวณนั้น ไม่ถึง 5 นาที ได้ปลาเป็นตันๆ (ตันละ 1,000 กิโลกรัม) ซึ่งในชีวิตของผู้เขียนและผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน ทุกคนพูดเป็นคำเดียวกันว่าไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน  ทุกอย่างจึงเป็นเพียงเครื่องหมายคำถามโดยไม่มีคำตอบ  จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ พวกเราจึงได้ร้องอ๋อ  และรู้ว่าปลามันมีสื่อสัมผัสกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยที่มนุษย์กลับไม่รับรู้การสื่อสารเหล่านั้นเลย


 


ที่เขียนมาไม่ใช่เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ แต่วันนี้มันมีสัญญาณส่งมาอีกแล้ว แต่คราวนี้มันไม่ใช่ปลาจวดแต่มันเป็นกุ้ง ไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเราจับกุ้งได้มากผิดปกติอีกแล้ว (จับกุ้งได้มากกว่าวันละ 100 กิโล ซึ่งเดิมเราจับกุ้งได้ไม่เกิน 30 กิโล) จับได้มากจนลูกน้องพม่าที่อยู่ด้วยกันมาหลายปีและผ่านเหตุการณ์ลางบอกเหตุสึนามิมาด้วยกัน  ออกปากว่า เจ้มันต้องมีอะไรอีกแน่ๆ ไม่อย่างนั้นกุ้งมันคงไม่มาชุมนุมกันมากขนาดนี้ ซึ่งเราก็กำลังอกสั่นขวัญแขวนกลัวว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีกหรือเปล่า 


 


วันนี้ผู้คนกำลังชุมนุม (ผู้เขียนด้วย) เรียกร้องความถูกต้องความเป็นธรรมให้กับสังคมใน 2 หัวข้อคือ  ท๊ากกกกกสิน  ออกกกกกไปปปปป  กับ ท๊ากกกกกสิน  สู้ๆ   ซึ่งวันนี้กุ้งปลาก็มาชุมนุมเช่นกัน แต่เราไม่รู้ว่ามันมาทำไม? และจะมีอะไรเกิดขึ้น และจะเกิดที่ไหน  จะรุนแรงเหมือนครั้งสึนามิมั้ย  ใครบ้างที่จะได้รับความเดือดร้อน  แต่ที่แน่ๆ มันคงไม่บอกให้ใครออกไป และให้ใครสู้ๆ วันนี้ผู้เขียนก็บอกไม่ได้ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพียงเขียนมาเตือนใจกันเท่านั้นเอง