จุดหมายในระหว่างทาง
คอลัมน์/ชุมชน
"ชีวิตของเราคือการเดินทางอันยาวไกล" ว่ากันมาอย่างนั้นตั้งแต่ครั้งบรรพกาลอันยาวนาน จวบจนถึงปัจจุบันสมัยเราทั้งหลายต่างก็ยังมีชีวิตที่กำลังเดินทางอยู่บนหนทางอันยาวไกล เช่นนั้นแล้ว หนทางย่อมจะมีจุดหมาย หรือ หนทางก็เป็นเพียงแค่หนทาง หาได้มีจุดหมายแต่อย่างใด ดูเหมือนแท้จริงแล้วการเดินทางอันยาวไกลนั้นซับซ้อนยิ่งนัก ในหนทางบางมิติมีเค้ารูปเลือนลาง แจ่มชัด คล้ายเหมือน แตกต่าง เนิ่นนาน ฉับไว รวดเร็ว เชื่องช้า แท้จริงแล้วมนุษย์เราอยู่บนหนทางอันยาวไกลอันเดียวกันหรือไม่ หรือหนทางอันยาวไกลของใครก็ของใคร มิได้ปะปนแบ่งปันเป็นวิถีเดียว
จะอย่างไร จุดหมายปลายทาง ว่ากันอย่างนั้นว่า ปลายทางโน้นจึงเป็นจุดหมาย บางคนใกล้ ง่าย บางคนไกล และยากยิ่ง อย่างนั้นจุดหมายของใครก็ของใคร เพียงพึ่งพาอาศัยบางคราว หรือมิอาจจับมือจูงไปสู่ปลายทางด้วยกัน ช่างมันเถอะ แต่มีสิ่งใดเล่าที่พบเห็นจนเป็นความเคยชิน นั่นก็คือ มนุษย์ เรา ต่างกำลังเดินทางบนหนทางอันยาวไกล ซ้ำร้ายกลับไม่ได้เดินทางอย่างสนุกสนานเท่าไหร่นัก เพราะต่างก็แบกภาระหนักหนามากมาย หรือไม่ก็เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า บางคราวถึงกับถอดถอนกำลงวังชา ในภาวะทั้งหลายทุ้งปวงนั้นยังต้องแข่งขันแย่งชิงทรัพยากร บางคราวก็ต้องเข่นฆ่า กดขี่ ข่มเหงกันและกัน คนผู้หนึ่ง เป็นทั้งผู้ล่า และผู้ถูกล่า ที่สุดต่างก็เจ็บปวดบอบช้ำอยู่พอกัน นั่นก็เพียงเพราะให้หนทางอันยาวไกลของตัวเองมั่นคง ระหว่างนั้นก็เฝ้าฝันถึงแต่ จุดหมาย ปลายทาง..จุดหมาย ปลายทาง
ช่างกระไรนักหนอ การเดินทางที่เร็วเกินไปช่างขาดความใส่ใจในรายละเอียด สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ข้างทางที่ผ่านเม็ดดินเม็ดทราย ดอกไม้ใบหญ้าหรือแม้แต่ลมฟ้า อากาศ เมฆหมอก พายุฝน ดั่งคำกวีเขียนความว่า เม็ดน้ำค้างยามเช้าที่เกาะพราวบนยอดหญ้าต้องแสงแรกแห่งรุ่งอรุณระยิบระยับงามจับใจ คำพูดที่กล่าวจนพร่ำเพรื่อ จนคุ้นชินฟังดูเฉย เชย แต่ใครสักคนกัน สักกี่ครั้งที่เราได้เห็น เม็ดน้ำค้างยามเช้าที่เกาะพราวบนยอดหญ้าต้องแสงแรกแห่งรุ่งอรุณระยิบระยับงามจับใจ สักกี่คนกัน .
กระนั้นก้าวที่ยังรวดเร็วเกินไป เพราะมุ่งแต่จะเอาชัยหรือได้อยู่ข้างหน้า นั่นความเป็นที่หนึ่งที่ปรารถนา นั่นล้วนทำให้ก้าวแต่ละก้าวโยกไกว คลอนแคลน ขาดความมั่นคง บางคราวเราจึงเห็น ผู้ใดเร็ว ก้าวล้ำ ชนะ เป็นที่หนึ่ง มักถูกขัดแข้งขา สะดุดล้มลงได้ง่ายดายนัก เพียงขัดเบาๆ เขาก็จะล้มลงไม่เป็นท่า เมื่อนั้นเอง จะมีผู้คนอีกมากมายแซงหน้าเขาไป แล้วเขาก็จะกลับมาเป็นคนที่ต้องเร่ง เร่ง เร่ง พร้อมกับการจ้องโอกาสขัดขา ทำลายจังหวะของผู้อื่น วนไปเวียนมาอยู่เช่นนั้นเป็นวัฏจักรอันบอบช้ำอัปยศ และผู้คนก็ยอมให้มันเป็นกงกรรมอันเป็นนิรันดร์โดยไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
เมื่อคนผู้หนึ่งเหนื่อยล้าจนถึงที่สุด ปลายทางของเขาไม่รู้อยู่ตรงไหน เขาต้องเดินทางอีกนานเท่าไหร่ จุดหมายจะงดงามตามที่หวังไว้หรือไม่ อย่างไรก็ล้วนขบคิดไม่เข้าใจ สิ้นเรี่ยวแรงบางขณะ เขาจึงหยุดพัก .. เฝ้ามองย้อนไปบนหนทางที่ผ่านมาอย่างเนิ่นนาน แล้วก็มองไปเบื้องหน้า หนทางยังทอดยาวไกลออกไป ความอ่อนล้าทำให้เฉื่อยชา เมื่อนั้น บางสิ่งได้ปรากฏ
เมฆสีขาวตรงเส้นของฟ้ากำลังบอกเล่าเรื่องราวสนุกสนาน สายลมตรงนั้นได้แปรขบวนก้อนเมฆ เป็นรูปร่างต่างๆ เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวโยงสัมพันธ์ เชื่อมต่อตามจินตนาการ เมฆมิได้มีรูปร่างของเมฆ เมฆเป็นได้ทุกสิ่ง บางคราวก็เป็นนางฟ้าแสนงามใจดี บางคราวเป็นปิศาจร้ายกาจ บางครั้งเป็นดอกไม้ผลิบาน บางทีก็เป็นไฟแผดเผาโลกไหม้มลาย แต่ ไม่ว่าขบวนแห่งมวลเมฆจะเปลี่ยนรูปแปรร่างไปอย่างไร เมฆก็ยังคงเป็นเมฆ ที่เคลื่อนไปอย่างไร้ขอบเขตจำกัด ไม่มีจุดเริ่ม ไม่มีรอยต่อ ไม่มีจุดจบ .
บัดนั้น ความเฉื่อยชาทำให้พบเรื่องราว เรื่องราวทำให้หยุดนิ่ง การหยุดนิ่งทำให้มองเห็น ต้นไม้ใบหญ้า เม็ดทราย ฝุ่นดิน สายลม แสงแดด สรรพสิ่งรอบข้างล้วนสวยสดงดงาม ว่าไปแล้ว นี่คือจุดหมายของการเดินทางอันยาวไหลแห่งชีวิต จุดหมายหนึ่ง ในระหว่างทางที่ยังทอดยาวไกลออกไป ..