Skip to main content

ดีใจ๋ยิ่งแล้ว แขกแก้วมาเยือน : กาดต้นพะยอม ภาคโหดหินทมิฬชาติ

คอลัมน์/ชุมชน

กาดต้นพะยอม ในความทรงจำของฉัน เป็นตลาดเล็ก ๆ ที่ชาวบ้านนำเห็ด หน่อไม้ และพืชผักตามฤดูกาลมาขาย หน้ากาดมีต้นพะยอมสูงใหญ่เรียงแถวทอดยาวไปตลอดถนนสุเทพ ถนนยามนั้นมีเพียงสองเลนส์  ต้นพะยอมหายไปเมื่อรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา ขยายถนนเป็นหกเลนส์ เต็มยาวเหยียดไปจรดตึกแถวหน้าตลาด และตีเส้นขาวแดงที่ฟุตบาท พร้อมกับการขยายคอสะพานให้เท่ากับความกว้างของถนน  กลายเป็นสี่แยกไฟแดงอันยิ่งใหญ่  ที่มาพร้อมกับการจากไปของเหล่าพวงพะยอมยามยาก และความหายนะของร้านแต้มทอง ร้านอาหารสุขภาพสุดโปรดของฉัน ที่เจอขาวแดงหน้าร้าน ทำให้จอดรถยาก ลูกค้าประจำก็ลดไป จากคูหาสองห้อง ก็เหลือเพียงห้องเดียว



 


กาดต้นพะยอมในวันนี้ป้าแม่บ้านของฉันเปรยว่า เป็นกาดคนรวย ไม่มีเงินร้อยอย่าได้สะเออะเข้าไป 


 


..........


 


คืนหนึ่งฉันออกจากบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อไปทำงานตามปกติ วันนั้นมีการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ที่หอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งด้านหนึ่งอยู่ตรงข้ามตลาดต้นพะยอม  ตอนถอยรถออกจากบ้านยังเปรยกับเพื่อนว่า เสียงน่ากลัวจัง เพื่อนบอกว่าธรรมดา ไฮปาร์ค


 


แต่มันไม่ธรรมดา เพราะเส้นทางปกติฉันต้องเลี้ยวเข้าถนนนิมมานเหมินท์เพื่อตัดออกถนนซูเปอร์ไฮเวย์ มีอันต้องปิดไป  ผู้คนมากมายเดินกันขวักไขว่ เสียงจากเครื่องขยายฟังไม่ได้ศัพท์  มีตำรวจนำเครื่องกั้นมาปิดถนน และเต็มไปด้วยรถสี่ล้อแดง (ความอัปลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่)  ฉันต้องอ้อมไปทางหน้ากาดต้นพะยอม หันไปมองฝั่งหอศิลป์ เห็นกล้องทีวีเดินสัมภาษณ์คนที่ผ่านไปมา  เมื่อสอบถามไปยังกลุ่มพันธมิตรที่ชุมนุมอยู่ในม.ช. ก็ได้ความว่า กลุ่มผู้สนับสนุนทักษิณยึดเวทีประชาธิปัตย์  พวกเรากำลังคุมเชิงอยู่ในมอ และให้ฉันไปที่เฮือนสุนทรี เพราะเกรงว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะบ้าคลั่งไปตามสถานที่ของผู้อยู่ตรงข้ามนายกของพวกเขา


 


..........................


 


30 มีนาคม 2549  ต้องจดจารไว้ถึงความอัปยศ อดสู กับสิ่งที่เกิดขึ้นที่หอศิลปะวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กับการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์  นำโดยคุณชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค และคุณอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และความรุนแรงที่คนเชียงใหม่ หรือในนามคนเชียงใหม่ มอบให้กับพวกเขา


 


ภาพเหตุการณ์ที่คุณชวน  หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ ถูกไล่ตีทำร้าย นำไข่เน่ามาปา ยกเก้าอี้ไล่ตี โดยฝูงชนที่ดูราวเหล่าปีศาจร้ายลุกขึ้นมาจากหลุม  คนเหนือที่น่ารัก อ่อนโยน และใจดี หายไปไหนหมด ทำไมคืนนั้นจึงเต็มไปด้วยคนเถื่อนถ่อยอนารยะ  


 


ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ คนระดับผู้นำเมือง เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด และคนอื่น ๆ ควรทำมากกว่าดูแลเรื่องขี้ ๆ อย่างการเฝ้ารถสุขาในเหตุการณ์ที่สร้างความอัปยศอดสูแก่เมือง และคนเชียงใหม่ทั้งหมด มีเพียงอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เท่านั้น ที่ออกแถลงการณ์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น


 


.............


 


ฝนฤดูแล้งโปรยปรายลงมา ลมฝนพัดราวคุ้มคลั่ง  หรือนี่เป็นน้ำตาจากฟ้าที่หยาดลงมาล้างความมืดบอดในหัวใจของคนที่เรียกร้องหาประชาธิปไตย  แต่สองมือของเขาเต็มไปด้วยอาวุธที่ใช้เข่นฆ่า ทำร้ายผู้คนที่ไม่เห็นด้วยกับเขา 


 


.........


 


หลังฝนตกท้องฟ้าย่อมแจ่มใส เมืองเชียงใหม่ ณ วันนี้เล่า


เสียงกร่นด่าชาวเชียงใหม่อย่างอาฆาตแค้นดังระงมไปทั่ว


เสียงเรียกร้องให้งดเที่ยวเชียงใหม่เริ่มมีให้ได้ยิน


 


วูบหนึ่งรู้สึกดีใจที่คนจะมาเชียงใหม่น้อยลงบ้าง  ฉันจะได้สัมผัสเมืองเชียงใหม่อย่างที่เคยเป็น เชียงใหม่ที่ไม่พลุกพล่าน สงบ งาม ผู้คนไม่มากมายเช่นทุกวันนี้  และรู้สึกสะใจที่หากนักท่องเที่ยวลดลงแล้ว คนกลุ่มแรกที่จะเดือดร้อนคือเหล่าสมุนปีศาจสี่ล้อแดงผู้รวมตัวกันก่อเหตุในคืนนั้น น้ำมันก็แพง จะขับรถร่อนหาผู้โดยสารก็ทำได้ยาก ถ้าไม่มีคนใช้บริการ พวกเขาก็จะต้องเดือดร้อน คราวนี้แหละ ใครอ่อนแอก็ต้องออกไป ใครเข้มแข็งทนได้ก็ทนไป นี่ไงทุนนิยม


 


เชียงใหม่จะกลายเป็นสวรรค์ในทันใด ถ้าไม่มีสี่ล้อมารยาททรามที่คอยโก่งราคาผู้โดยสาร เอารัดเอาเปรียบสารพัด  คนขับรถบนถนนจะเบิกบานยามดอกไม้แรกแย้ม เพราะถ้าปริมาณสี่ล้อลดลง ก็หมายความว่าผู้คนที่ขับรถแบบจอดกลางสี่แยกรับผู้โดยสารก็จะมีน้อยลง 


 


............


 


หมายเหตุ


 


สโลแกนปีใหม่เมืองปีนี้ นำเสนอโดยเทศบาลนครเชียงใหม่ผู้น่านับถือ  "710 ปี เสรีเจียงใหม่  ดีใจ๋ยิ่งแล้ว แขกแก้วมาเยือน" 


เพื่อให้ได้รสชาติของกาดต้นพะยอมภาคพะยอมทมิฬหน้าหอศิลป์ ม.ช. ขอแนะนำ น้ำพริกน้ำปู๋ ร้านอัมพร ฝั่งขวามือของกาดต้นพะยอมด้านในอาคาร กินกับหน่อไม้ต้มอร่อยลืมทมิฬทีเดียว


ภาพโดย  อัจฉราวดี  บัวคลี่ บ.ก.นิตยสารพลเมืองเหนือ


คำบรรยายใต้ภาพ จาก บทสัมภาษณ์ในนิตยสารพลเมืองเหนือ ประจำวันที่ 10-23 เมษายน 2549


 






..............................................................................................................................


 


  


 


 



 


 


 


 


 


 


 


 


  


 


 


 


 


 


 


 



 


 



 


0 0 0