Skip to main content

วิถีแห่งรัก

-1-


 


ตั้มไม่มีเพื่อนเล่นเลย อาจจะเป็นเพราะอพาร์ตเมนท์ที่เขาพักอยู่ไม่ค่อยมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน แล้วเขาก็ไม่ค่อยได้ออกไปเล่นที่ไหนไกล ดังนั้นเขาจึงเล่นอยู่คนเดียว เขามีฟุตบอลพลาสติกขนาดเล็กที่มีคนให้มา เขาเตะไปเตะมาอยู่ในห้องคนเดียว


 


แม่ของตั้มเป็นช่างเสริมสวยและต้องออกไปทำงานข้างนอก  บางทีก็กลับมาในตอนที่เขาหลับไปแล้ว ตอนที่หลับไปนั้นเงินที่แม่ให้เขาไว้เพื่อซื้อข้าวยังอยู่ในมือ เขาตั้งใจจะซื้อข้าวตอนแม่กลับมา แต่แม่ก็กลับมาดึกเหลือเกิน เขารอจนกระทั่งหลับไป


 


เขาบอกแม่ว่าไม่อยากอยู่คนเดียว เขากลัวและมันก็ทำให้เขาฝันร้าย พอตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าแม่ยังไม่กลับเขาก็ยิ่งกลัวหนักเข้าไปอีก แม่ก็ตอบเขาว่าอีกไม่ช้าไม่นานหรอกที่แม่จะเช่าบ้านเพื่อเปิดร้านเสริมสวย จะได้ไม่ต้องออกไปทำงานข้างนอกแล้วทิ้งเขาไว้คนเดียว


 


มีอยู่ช่วงหนึ่งที่แม่ส่งตั้มไปอยู่กับยายที่ต่างจังหวัด แม่ไม่อาจจะเลี้ยงเขาได้เพราะต้องทำงานและเขาก็เด็กเกินไปที่จะปล่อยให้อยู่คนเดียว


 


ตั้มจำได้ดีว่า วันที่แม่ทิ้งเขาไว้กับยายซึ่งไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนนั้นเจ็บปวดทรมานมากเพียงใด ตอนนั้นเขาร้องไห้ฟูมฟายและกอดแม่ไว้แน่นเพื่อไม่ให้แม่จากไป เขากลัวที่จะอยู่โดยไม่มีแม่คอยดูแล แม่แกะมือเขาออกอย่างลำบาก  น้ำตาแม่ไหลนองเต็มหน้าแต่ก็ไม่มีเสียงสะอื้นเลยแม้แต่น้อย มันเป็นการประสบการณ์ที่โหดร้ายทารุณที่สุดในชีวิตของทั้งสองคน


 


-2-


 


แม่เลิกกับพ่อตั้งแต่ตั้มยังแบเบาะเพราะจับได้ว่าพ่อมีผู้หญิงอื่น แม่ทนพฤติกรรมเจ้าชู้ของพ่ออยู่นานหลายปีเพราะเชื่อว่าด้วยความรักของแม่ จะทำให้พ่อเปลี่ยนพฤติกรรมได้ แต่แม่คิดผิด ยิ่งแม่สงบปาก สงบคำพ่อก็ยิ่งได้ใจและหนักข้อขึ้น สุดท้ายเมื่อทนไม่ไหวแม่จึงต้องตัดใจแยกทาง


 


แม่หอบตั้มหนีมาเช่าอพาร์ตเมนท์ราคาถูก ๆ  และเปลี่ยนที่อยู่ใหม่หลายครั้งเพื่อไม่ให้พ่อเขาตามเจอ   พ่อออกตามหาอยู่นานเพื่อให้แม่กลับไปทนทุกข์แบบเดิมอีก แต่แม่ใจแข็งในเรื่องนี้ และเลือกที่จะมองไปข้างหน้าซึ่งก็คือลูกมากกว่าจะมองไปในอดีตซึ่งก็คือสามี พ่อจึงล้มเลิกความพยายามไปในที่สุดหลังจากการอ้อนวอนและสำนึกผิดแบบหลอก  ๆ ใช้ไม่ได้ผล


 


ตอนนั้นแม่กำลังอุ้มท้องน้องของเขาอยู่และแท้งลูกในเวลาต่อมา ช่วงเวลาต่อจากนี้ มีแต่ความขมขื่นและทิ้งบาดแผลในจิตใจไว้ให้เขาไม่น้อย ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องยากลำบากทั้งสำหรับแม่และสำหรับลูก มันเป็นสถานการณ์ใหม่ที่แม่เขาต้องรับมืออย่างโดดเดี่ยว มีเพียงความรักลูกเท่านั้นที่ช่วยให้ผ่านสถานการณ์และความกดดันต่างๆ มาได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเศรษฐกิจ        


 


แม่จากพ่อมาโดยไม่เอาสมบัติอะไรติดตัวมาเลย และพ่อของตั้มก็ใจดำมากต่ออนาคตของลูกตัวเองโดยไม่พูดเรื่องเงินทองแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น พ่อยังใช้เรื่องเงินเป็นสิ่งต่อรองโดยบอกว่าหากแม่กลับไปอยู่ก็จะซื้อนั่นซื้อนี่ จะโอนบ้านให้เป็นกรรมสิทธิ์ของแม่ แต่ถ้าหากแม่ไม่กลับไปอยู่กันอย่างเดิมอีกพ่อก็จะไม่ให้เงินติดตัวไปแม้แต่บาทเดียว และพ่อของตั้มก็ทำตามสิ่งที่พูดอย่างไม่บิดพลิ้วเป็นอื่น


 


แม่ของตั้มจึงเริ่มต้นจากศูนย์ใหม่  ภาระทุกอย่างตกลงที่บ่าของแม่ แต่แม่ไม่เคยแสดงความย่อท้อให้ตั้มเห็นเลย แม่เพียงแต่เหนื่อยจากการงานเสริมสวยและจะยิ่งเหนื่อยมากถ้าเขาไม่เชื่อฟัง ตั้มเข้าใจสิ่งเหล่านี้ไปตามประสาของเด็กและพยายามวางตัวอย่างดีที่สุดเพื่อไม่ให้แม่ต้องเหนื่อยกับเขา


 


-3-


 


กล่าวได้ว่าชีวิตวัยเด็กของตั้มมีแต่แม่คนเดียวโดยแท้จริง เขาจึงติดแม่และรักแม่มากเพราะโลกของเขานั้นห้อมล้อมอยู่ด้วยความรักของแม่เพียงคนเดียว วัน ๆ หนึ่งเขาไม่ได้คุยกับใครเลยแม้แต่เวลาที่ไปโรงเรียน เขานั่งอยู่ริมหน้าต่างและเฝ้าแต่เหม่อมองออกไปข้างนอก เขาเห็นนกตัวสีเขียวเกาะอยู่ที่กิ่งไม้ พอเลยกิ่งไม้ออกไปก็เป็นท้องฟ้ากว้าง เขามองก้อนเมฆที่ลอยกันไปช้า ๆ เป็นกลุ่มอย่างไร้จุดหมาย เขาสงสัยอยู่เสมอว่าก้อนเมฆมันจะลอยไปถึงไหนอย่างไรก็ตาม เขาไม่ชอบก้อนเมฆสีขาวที่ลอยเลื่อนไปบนท้องฟ้าเพราะมันทำให้เขารู้สึกเศร้า  เขาชอบมองท้องฟ้าสีฟ้าที่ไร้ขอบเขตมากกว่า


 


ตั้มจำพ่อได้เลือนราง บางทีตั้มก็นึกถึงพ่อในแง่ดี ตั้มคิดว่าถ้าพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันเขาก็คงไม่ลำบากอย่างนี้ เขาจะมีขนมกินเท่าที่เขาอยากกิน เขาจะมีลูกฟุตบอลราคาแพงเหมือนที่เห็นในโทรทัศน์ เขาจะได้เล่นเกมเท่าที่เขาอยากเล่นเพราะพ่อของเขาฐานะดี


 


แต่เมื่อแม่บอกว่าพ่อของเขามีเมียคนใหม่และมีลูกหลายคนกับเมียคนนั้น ตั้มก็ค่อย ๆ ตัดใจในเรื่องพ่อและยอมรับสภาพอย่างที่เป็นอยู่ แต่เขาก็คิดฝันถึงพ่ออยู่บ่อย ๆ ความทรงจำที่เขามีต่อพ่อนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ดีเพราะพ่อรักเขา


 


ตอนที่แม่ตั้งท้องน้องนั้นเขาก็คิดไปว่าต่อไปเขาจะมีน้องเป็นเพื่อนเล่น เขาจะไม่เหงาเวลาที่แม่ออกไป เขาอยากได้น้องผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเพราะเขาจะได้เล่นฟุตบอลกับน้อง แต่แล้วแม่เขาก็แท้งเสียก่อน เขาจึงไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าน้อง ที่แม่แท้งลูกเป็นเพราะว่าแม่ต้องยืนทำงานนานหลายชั่วโมงในแต่ละวัน แม่เสียใจมากที่แท้งลูก เขาเองก็เสียใจเหมือนกัน


 


-4-


 


แม่ของเขากู้เงินธนาคารเพื่อซื้อเครื่องไม้เครื่องมือเปิดร้านเสริมสวยของตนเอง เขาเห็นแม่ต้องยืนเป็นชั่วโมง ๆ กว่าจะได้เงินจากลูกค้าและถ้าตอนที่มีลูกค้าติดต่อกันแม่ก็ต้องยืนทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง แต่แม่ก็ไม่เคยปริปากบ่นให้เขาได้ยินสักคำ


 


ตั้มเลิกเล่นเกมได้อย่างง่ายดายกว่าที่คิด แค่เขาไม่เดินเข้าไปเฉียดร้านเกม หรือเอาเวลาไปทำอย่างอื่นเพื่อจะได้ไม่ต้องคิดถึงการเล่นเกม อย่างเล่นฟุตบอล หรือช่วยแม่ทำงานบ้าน ตั้มก็สามารถตัดขาดมันได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเขาเสียดายเงิน เงินที่แม่หามาอย่างยากลำบาก


 


ตั้มคิดไปไกลว่าเมื่อเขาโตพอจะหาเงินได้เองแล้ว เขาก็จะพาแม่ไปเที่ยว เพราะแม่ขลุกอยู่กับงานทั้งวัน วันแล้ววันเล่า ไม่มีโอกาสได้ออกไปไหนเลย เขาเคยได้ยินแม่พูดเรื่องนี้กับเพื่อนของแม่ เพื่อนของแม่ไปเที่ยวต่างประเทศหลายประเทศและมักจะมาเล่าให้แม่ฟังอย่างออกรสชาติขณะที่แม่กำลังสระผมหรือแต่งเล็บให้ แม่ได้แต่เออออไปตามเรื่องตามราว ปล่อยให้เพื่อนเล่าไปอย่างพออกพอใจ


 


"แม่ควรจะหาโอกาสไปเที่ยวบ้าง" เขาบอกกับแม่เมื่อมีโอกาส เขาหัวเราะก่อนที่จะพูดต่อไปว่า "ผมเองก็อยากไปเที่ยวเหมือนกัน"


"ก็ดีเหมือนกัน" แม่ของเขาตอบ "ลูกอยากไปเที่ยวที่ไหนล่ะ"


"แม่อยากไปที่ไหน ผมก็อยากไปที่นั่นแหละครับ" ตั้มตอบอย่างชาญฉลาด แม่มองเขาอย่างรักใคร่ พลางคิดไปว่าความรักที่มีต่อลูกคือแรงดลใจสำหรับการมีชีวิตอยู่ซึ่งจะช่วยให้เอาชนะอุปสรรคทุกอย่างได้.