Skip to main content

ในหัวใจ...มองผ่านม่านฝุ่นแล้วจึงเห็น (1)

คอลัมน์/ชุมชน



"ถึงไหนแล้ว..."


เสียงถามมาตามสาย ทันทีที่กดรับ


 "กำลังจะออกจากบ้าน" ฉันตอบ "ไม้ซางรอหน่อยนะ เดี๋ยวจะรีบไป"


 


เช้าที่ 19 เมษายน 2549 ฉันตื่นแต่เช้า ตระเตรียมข้าวของที่จะนำไป "ดำหัว" พ่อ ตามการนัดแนะจากพี่ๆ โดยเฉพาะ ‘ไม้ซาง’ พี่ชายที่ไม่ได้เจอกันหลายปี อันที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้เจอทุกๆ คนนั่นแหละ ตามประสาคนขี้เกียจ ไม่ถือสาประเพณีนิยม แถมยังมีโลกส่วนตัวพิลึกๆ อีกด้วย


 


ฉันคิดเสมอว่า อยู่ไกลก็เหมือนใกล้ ถ้าหัวใจเราถึงกัน ฟังดูโรแมนซ์! แต่ข้อเท็จจริงคือว่า ฉันหวาดกลัวมาก- ว่า ‘ความใกล้’ จะทำให้เราอิสระน้อยลง


 


คงเป็นความกลัวเดียว ที่ติดตัวฉันมาแต่เล็กๆ ด้วยยังฝังใจกับหลายๆ อย่างที่เคยผ่านมา ยิ่งกับคำสั่งสอนจากพี่สาว พี่ชาย สมัยเราเคยใช้ชีวิตร่วมกันสั้นๆ ระยะหนึ่ง ที่เคยสอนว่า


 "แต่งหน้าทาปากบ้างสิ ผู้ชายจะได้มองมั่ง, ทำไมไม่ใส่ทอง, นุ่งซิ่นอะไรแบบนั้น, ไปแต่งตัวอีกหน่อยดีกว่ามั้ง จะไปเที่ยวทั้งที ฯลฯ"


 


จนกระทั่งบางครั้ง หลับฝันว่าได้พบหน้าพี่ๆ ถึงกับตื่นมาใจเต้นรัว รู้สึกกลัวจับใจ กลัวการกลับไปเป็น "น้อง" หรือ "คนในครอบครัว" ของพวกเขา


 


+ + + + + + + +


           


แต่สำหรับเช้าวันนี้ ฉันคิดว่า แม้ยังอดวิตกไม่ได้อยู่บ้าง ว่าเราจะเป็นอย่างไรเมื่อได้พบกัน พี่ๆ กับฉัน (น้องไม่ได้ไปด้วย ในท้ายสุดเธอก็ติดงาน!) แต่ฉันก็ปลอบใจตัวเองว่า น่า...ไปแป้บเดียว คุยกับพ่อแล้วเดี๋ยวก็จะรีบกลับ ด้วยความรอบคอบ จึงนัดหมายงานไว้ล่วงหน้าอีกจ็อบหนึ่ง!


 


และแล้ว เวลานั้นก็มาถึง ทันทีที่รถจอดลงหน้าบ้าน อันโย้เย้และผุพังไปตามกาลเวลา ลานดินด้านหน้าคลุ้งไปด้วยฝุ่น มองทางไหนเห็นแต่ความเก่าแก่ทรุดโทรม


 


นั่นอดีตยุ้งข้าว โน่นอดีตเล้าไก่ นู่นเพิงเก็บฟืน นู้นตะกร้าใส่ผัก ฯลฯ ฉันซึ่งสวมแว่นตาดำกันแดด ปิดบังความประหม่า รีบหอบหิ้วข้าวของเข้าไปด้วยความหวังว่า อีกไม่กี่ชั่วโมง ดำหัวแล้ว เลือก สว. เสร็จแล้ว จะได้กลับแล้วแหละ!


 


 "นั่นไง...มาแล้ว!" เสียงดีใจจากใครสักคน


 "มาๆ รออยู่!" มีมือยื่นมาจับหัว "แน่ะ ผมหงอกเหมือนกันวุ้ย ตั้งหลายเส้น" แล้วก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก


 


นั่นคือ พี่โอ๊ะ – พี่ชายคนโต แก้มแดงเพราะไอแดด หัวหงอกไปแล้วครึ่งหนึ่ง ศรีวรรณ พี่สะใภ้ยืนมองยิ้มๆ ฉันยิ้มกว้างให้เธออย่างดีใจจริงๆ ที่ได้พบกัน


 


นานมาแล้ว เราเคยเป็นเพื่อนสนิทกัน ซ้อนท้ายจักรยานไปทำงานแปลงเพาะกล้ายาสูบ แล้วก็ทำงานอีกหลายอย่าง ผ่านวันชื่นคืนสุข รับค่าแรงวันละ 15 -16 บาทมาด้วยกัน


 


วันนี้ เธอกลายมาเป็นเมียของพี่โอ๊ะ มีลูกสาว 1 คน


 "นัทๆ มาสวัสดีน้าเร้ว...จำได้ไหม นี่ไงน้ากาเกด"


ฉันเกือบตาค้าง เด็กสาวอายุ 16 ปี ที่ยืนอยู่ตรงหน้า มีส่วนผสมของพ่อกับแม่ และกำลังสวยสดใสตามวัย คือเด็กคนเดียวกับที่เคยอ้าแขนให้อุ้ม สมัยเธออายุ 3 ขวบ!


 


 "สวัสดีจ้ะ" แหม นี่ฉันแก่ไปแล้วจริงๆ


 "หวัดดี กาเกด" ไม้ซาง ยิ้มบางๆ มาจากแคร่ไม้ไผ่ใต้ถุนบ้าน สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีน มีผ้าขาวม้าพันเอว


 


 "ไม้ซาง!" ฉันดีใจมากๆ ที่ได้เห็นเขา ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด ฉันสนิทกับพี่ชายคนนี้มากที่สุด เราพบกันหลังสุดที่กรุงเทพฯ กี่ปีมาแล้วฉันจำไม่ได้


 "ไม้ซางดูตัวโตขึ้นนะ" ฉันทัก


 "เหรอ..." เขายิ้มเขินๆ ไม้ซางเป็นคนขี้อายมาตั้งแต่เด็ก เขาสูงไม่มากนัก ตัวบางๆ ปากเคยแดงระเรื่อ ฉันว่าเขาหล่อเชียวแหละในสายตา


 "อ้วนไง" พี่โอ๊ะว่า


 "ไม่ใช่ๆ" ฉันรีบเถียง "ดูล่ำๆ ขึ้นน่ะ ดูแข็งแรง"


 "อืม แข็งแรง" ไม้ซางยิ้มเขินๆ แล้วเลิกเสื้อดูกล้ามตัวเอง ฉันเกือบขำกลิ้ง น่าเอ็นดูยังไงก็น่าเอ็นดูอย่างนั้นพี่ชายคนนี้


 


+ + + + + + + +


 


 "ไง....กาเกด!"


มาแล้ว พี่แอ๋ม พี่สาวคนกลาง เธอใส่เสื้อสีแดง มีลวดลายบาดตา ยิ้มร่าลงมาจากครัว


 "หยุ่นมาหรือเปล่า"


 "เปล่า" ฉันตอบ "มันงานยุ่ง"


 "ว้า เสียดาย" พี่แอ๋มมีสีหน้าดังนั้นจริงๆ "ไม่ได้เจอตั้งนาน อยากเห็นจัง โตมาเหมือนพี่หรือเปล่า"


ฉันขำ มองหน้าพี่สาวพักนึงแล้วพยักหน้า


 "ก็เหมือนนะ มันอวบๆ"


ทุกคนหัวเราะเกรียว ก็จริงนะ น้องเหมือนพี่แอ๋มมากกว่าใคร ทั้งรูปทรงและผิวพรรณ คือเป็นคนผิวขาว ทั้งบ้านมีฉันคนเดียวนี่แหละที่ตัวต่ำและดำกว่าใคร


 


 "มีรูปติดมามั่งไหมล่ะ อยากเห็นหน้าจริงๆ"


 "อืม..." ฉันหยุดคิด "มีในมือถือ"


ทุกคนกรูเข้ามาพร้อมกัน ฉันกดเมนูเรียกรูปที่เก็บไว้ ทันทีที่เปิดออก น้องยิ้มร่าอยู่ในจอเล็กๆ พี่แอ๋มชะโงกหน้าดูแล้วดูอีก


 


 "แล้วมันเรียนจบหรือยัง"


 "จบแล้ว" ฉันตอบ


"มีแฟนแล้วสิ ผู้ชายหรือผู้หญิง"


ฉันอึ้ง โห พี่สาวฉันถามทันสมัยขนาดนี้เชียว เอ๊ะ หรือเพราะทุกคนพากันคิดว่าน้องจะเลียนแบบฉัน เหอๆ ฉันจึงตอบไปอย่างสำรวม


 "แฟนผู้ชาย"


 "หล่อไหมๆ"


 "ก็หน้าตาดีนะ" ฉันตอบ "คนนั้นแหละ ที่มันคบกันตั้งแต่อยู่ มอ 2"


 "โฮ..." ทุกคนส่งเสียงพร้อมกัน แล้วก็สลายตัวประหนึ่งว่า ไม่มีอะไรน่าสนใจ


 


+ + + + + + + +


 


ฉันรู้สึกประหลาดขึ้นทีละน้อย เป็นเพราะรอยยิ้มของทุกๆ คนหรือเปล่า ที่ทำให้ผ่อนคลายมากขึ้น หรือพ่อที่ลงมาจากบ้านอย่างไม่ตื่นเต้นอะไร แต่แหม แววตาที่มองลูกๆ แต่ละคน โดยเฉพาะไม้ซางนั้น แสนจะรักและปลาบปลื้มใจ ฉันว่าบางทีตาแก่คนนี้คงจะฟอร์มนั่นแหละ ทำเป็นยุ่งมั่ง อะไรมั่ง ไม่แสดงออกอะไร ที่แท้ก็ดีใจที่ลูกๆ พร้อมใจกันมา


 "เดี๋ยวเราดำหัวพ่อกันดีกว่า"


 


ไม้ซางเดินกลับมาใหม่ ฉันกำลังถ่ายรูปหลานสาวอย่างเห่อนิดๆ แหม หน้าตาน่าเอ็นดู เหมือนเราสมัยเด็กๆ ไหมน้า อิอิ


"ดีๆ จะได้กินข้าว" พี่โอ๊ะว่า


และแล้วพิธีกรรมก็เริ่มต้น...


 


(ยังมีต่อ)


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


 



 


 


 



 


 


 



 


 


 



 ทุ่งนาข้างทางก่อนถึงบ้าน รวงข้าวกำลังสุกเหลือง


 


 


 


 


 



หน่อไม้สด ในตะกร้าผักกุ่ม


 


 


 



แมวของพ่อ ชื่อ "ช้าง"


 


 



พี่แอ๋ม


 


 


 



พี่โอ๊ะ นอนหนุนแตงโม


 


 



 มือที่เห็นคือของพี่แอ๋ม เธอนอนลูบผมน้องชายตลอด และพอตื่น พี่โอ๊ะก็ลุกมานั่งนวดขาให้พี่แอ๋ม


 


 



จักรยานเก่าแก่


 


 




กาหลาของฉัน


 

 


 


 



ถุงปุ๋ยเก่า เอาไว้ใส่ของ


 


 


 



ฉันชอบรูปนี้มาก พระซ้อนมอเตอร์ไซค์ จะไปวัดที่เห็นลิบๆ


 


 



ป่าช้าข้างทาง


 

 


 


 



ในกระสอบเป็นอะไรกันนะ?


 


 


0 0 0