Inside Man
คอลัมน์/ชุมชน
น้ำตาฟ้า
ชอบจริง ๆ หนังประเภทโรบินฮู้ด โจรที่ปล้นคนรวยช่วยคนจน เป็นความชอบส่วนตัวที่ไม่ว่าจะมาเป็นโรบินฮู้ดในรูปแบบใด ก็ดูได้ไม่มีเบื่อ
Inside Man ก็เป็นหนังโรบินฮู้ดเหมือนกัน พี่โจร ดัลตั้น รัสเซล กับลูกสมุนอีก 3 คน วางแผนกันอย่าง Perfect สุดๆ เพื่อมาปล้นธนาคารของคนรวยใจร้ายนายหนึ่ง ที่ในสมัยหนึ่ง คนเขาทั้งเกลียด แค้นและต่อต้านนาซีแต่แกยอมขายชาติเป็นทาสนาซีจนได้ดิบได้ดีมีทรัพย์ศฤงคารอุดมสมบูรณ์ เป็นคนมีหน้ามีตาได้ชื่อว่าเป็นคนดีเป็นที่ยอมรับในวงสังคม
When theres blood on streets, buy properties.
เมื่อใดเลือดนองท้องถนน จงซื้อทรัพย์สินมาไว้ในครอบครอง
แกบอกอย่างนั้น แท้ที่จริงฉันว่า แกเองก็รู้แก่ใจว่าหากความลับนั้นถูกเปิดโปง ชื่อเสียงหน้าตาที่เฝ้าสะสมมาชั่วชีวิตก็จะต้องมลายลงไปในพริบตา เขาจะเห็นแก่หน้า ค่าชื่อ จะยึดถือพงศ์พันธุ์นั้นอย่าหมาย แกจึงสร้างธนาคารนี้ไว้เพื่อปกปิดความลับดำมืดในอดีต เพราะเป็นที่ที่ปลอดภัยไร้ซึ่งการสงสัยใดๆ ทั้งปวง ไม่ว่าจากใครหน้าไหนก็ตาม ยกเว้นพี่โจรกลุ่มนี้
พี่โจรเข้ามาในธนาคารอย่างเงียบเชียบ ว่องไว ในคราบไคลของช่างทาสี สั่งการฉับไว ตัดเส้นทางที่จะแจ้งเหตุร้ายต่อคนภายนอกได้ชะงัดดีแท้ ทั้งโทรศัพท์ ทั้งสัญญาณเตือนภัยแถมกล้องวงจรปิดที่จะบันทึกเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐานก็ใช้การไม่ได้อีกต่อไป
ทั้งโจร ทั้งตัวประกัน สวมชุดเหมือนกันหมด เอาล่ะสิทีนี้ ไม่ใครก็ใครต่างงงกันว่า เอ๊ะ เธอที่นั่งข้าง ๆ ฉันเป็นโจรรึเปล่าหนอ เป็นความฉลาดกราดเกรี้ยวซะจนน่าทึ่งว่า อาชญากรเมืองฝาหรั่งเขาช่างสติปัญญาเลิศล้ำเสียนี่กระไร น่าจะไปเอาดีทางอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองกว่าการมาเป็นโจร
พี่โจรแกเล่นสงครามเย็นกับฝ่ายตำรวจไปเรื่อย ส่งตัวประกันออกมาทีละคนให้ฝ่ายตำรวจได้แคลงใจว่า ไอ้ที่ออกมานั่นน่ะ มันเป็นพวกเดียวกับโจรหรือเปล่าหนอ
ฉันสะท้อนใจ ตอนที่ ตัวประกันชายที่มีผ้าโพกหัวถูกส่งออกมา ตำรวจเห็นแก ก็ปักใจว่าแกใช่พวกโจรแน่ ๆ เพราะเข้าใจว่าแกเป็นอาหรับ (พวกเดียวกับ บิน ลาดิน ศัตรูตลอดกาลของอเมริกันชน) มิใยที่แกจะบอกว่าแกเป็นซิกข์ ซึ่งหมายถึงชาวฮินดูที่มีผ้าโพกผมตามธรรมเนียมปฏิบัติทางศาสนาที่ต้องปิดผมไว้ให้มิดชิดจากสายตาผู้อื่น
ตำรวจก็ไม่ฟังความ จับกดพื้นถอดผ้าโพกหัวออก ซักไซ้หาข้อมูล มิใยที่แกจะบอกว่าถ้าแกไม่ได้ผ้าโพกหัวคืนแกจะไม่บอกเล่าอะไรทั้งสิ้น
เห็นชัด ๆ ว่าอเมริกาชอบทำแบบนี้ ทำตัวเป็นตำรวจโลกตัดสินคนไปทั่ว ความเชื่อ หรืออารยะประเพณีของใครอื่นที่สวนทางกับตนก็มองเป็นเรื่องไร้สาระไปเสียหมด ไม่น่าแปลกใจที่สถิติคนตายในประเทศอื่น ๆ ด้วยน้ำมือของนายบุชถึงได้สูงขึ้นทุกวัน เห็นแล้วก็ให้สงสัยว่าประชากรชนชาติอื่นที่หน้าตาออกไปทางอินเดีย อาหรับที่อาศัยอยู่ในอเมริกา มิถูกมองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายไปซะหมดหรืออย่างไรกัน
ดูเหมือนกลุ่มพี่โจรแกจะไม่ได้สนใจทรัพย์สินเงินทองที่กองเป็นภูเขาเลากาอยู่ในธนาคารแห่งนั้นแม้แต่น้อยเป้าหมายอย่างเดียวของพี่แกคือ ของในกล่องนิรภัยที่คนรวยใจร้ายใช้ฝังอดีตของตนไว้ และดูเหมือนคนรวยคนนั้นก็จะรู้เป้าประสงค์ของพี่โจรเป็นอย่างดี น้องนักลอบบี้ อย่าง แมเดอลีน ไวท์ จึงได้ก้าวเข้ามาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย เธอเจ๋งขนาดเดินเข้าไปหานายกเทศมนตรีโดยไม่ต้องนัดล่วงหน้าเพื่อให้เขาบัญชาให้เธอได้เข้าไปเจรจากับพี่โจรในธนาคารได้อย่างสะดวกโยธิน
พี่โจรแม้จะรู้ทัน แต่ก็ถือว่างานของเธอสำเร็จเสร็จสิ้น ก็หน้าที่ของเธอแค่มาเจรจา ไม่ได้มาหาคนถูกคนผิดไม่จำเป็นต้องสนว่าใครจะปล้นคนชั่ว รึฆ่าคนดี หรืออื่นใด แค่งานเสร็จก็ไปรับเงินค่าจ้างเท่านั้น ส่วนคนอื่นที่มีเอี่ยวอำนวยความสะดวกให้ก็ได้รับผลตอบแทนแสนคุ้ม ผลประโยชน์ต่างตอบแทน วินวินด้วยกันทุกฝ่ายแบบนี้ไม่ต่างไปจากบ้านเราเมืองเราเลยสักนิด ผลประโยชน์ปิดปากคนได้สนิทเสมอ
แต่ความลับไม่มีในโลก ก็ยังเป็นสัจธรรม คนเราทำชั่วอะไรไว้มันต้องแดงขึ้นมาสักวันแหละน่า พี่โจรแกทิ้งจิ๊กซอว์ตัวเล็กๆ ไว้ให้ฝ่ายตำรวจได้ไปตามหาจิ๊กซอว์ตัวอื่นๆ มาประกบกัน อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง แต่เมื่อครบถ้วนกระบวนความแล้วล่ะก้อ เมื่อนั้น ภาพความจริงก็จะฉายชัดเต็มใบให้ทุกคนได้เห็น และเมื่อถึงเวลานั้น อำนาจเงินล้นฟ้าของคนรวยใจร้าย อำนาจมืดแสนยิ่งใหญ่ของน้องนักล็อบบี้ หรืออิทธิพลของใครต่อใครก็คงปิดหูปิดตาใครไม่ได้อีกแล้ว
เหมือนพี่โจรเขาบอกไว้
"เรื่องสกปรกเหม็นโฉ่ จะปิดไว้ได้ก็แค่ชั่วครู่ แต่มันจะไม่มีวันหายไป"
จริงที่สุด เธอว่าไหม?????