เมื่อ "จิตร ภูมิศักดิ์" เขียนถึง "แมกซิม กอร์กี้"
คอลัมน์/ชุมชน
ฉันถูกกำหนดไว้ในความแน่นอน
กำหนดแน่นอนในการแปรงฟัน ล้างหน้าและดับไฟ
กำหนดแน่นอนให้แช่งด่ายามหาที่จอดรถไม่ได้
กำหนดแน่นอนให้เป็นหวัด และไอ
หวาดกลัวความตายและเริ่มอดบุหรี่
กำหนดแน่นอนให้บริจาคเงินเพื่อการกุศล
ขณะเดียวกันก็ไม่รักษากฎจราจร
กำหนดแน่นอนให้ผิดหวังต่อความรัก และสิ้นหวังต่อการเลือกตั้ง
กำหนดแน่นอนไว้ในที่ที่แน่นอน
ยอมรับการถูกจัดวางในตำแหน่งที่แน่นอน
แน่นอนว่าในเวลาที่แน่นอน เกิดความสงสัยในชีวิต
บทกวีจีน "เชวียน ท่าว"
เรืองรอง รุ่งรัศมี แปล
ผมกลับไปเยือนบ้านเกิดเป็นครั้งที่สอง ในรอบเดือนเมษายนที่ผ่านมา...
เป็นการกลับบ้านด้วยเหตุผลในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งโดยเต็มใจและไม่เต็มใจ
ทั้งเรื่องของการเมือง ชีวิตและสุขภาพ แต่ก็นั่นแหละ, ชีวิตบางครั้งก็เหมือนมีบางสิ่งให้เดินไป
มีบางอย่างให้จำยอมค้อมจำนนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในห้วงยามสงัด, ผมจ่อมจมอยู่ในห้องหับที่ถูกปล่อยให้รกเรื้อด้วยหยากไย่แมงมุม และห้องส่วนตัวได้กลายเป็นที่ซ่องสุมอาศัยของหนูและแมลงสาบมาหลายปี หลังจากที่พาตัวเองระหกระเหินไปอยู่ในเมืองนานหลายนาน
การกลับบ้านหนนี้ จึงรู้สึกถวิลหาเรื่องราวความเก่าความหลัง
เหมือนว่าชีวิตกำลังรื้อค้นหาอดีตที่พลัดหายและเลือนรางให้หวนคืนแจ่มชัดอีกครั้ง
ผมพลิกดูหนังสือเก่า ๆ ที่กองซ้อนระเกะระกะในห้องออกมาอ่านทบทวนในรอยจำ พบจดหมายที่ผมเคยเขียนถึง "สิงห์สนามหลวง" ในช่วงปี 2547 ที่ผ่านมา ทำให้นึกถึงบุคคล
ที่เขียนถึง, ก่อนครุ่นคิด...
"จิตร ภูมิศักดิ์" ได้เขียนถึง "แมกซิม กอร์กี้" เอาไว้...
กอร์กี้ บอกว่า ไม่มีหรอก พระเจ้า สวรรค์ หรือนรก
พระเจ้ากำเนิดมาจากความหวาดหวั่นกลัวตายของมนุษย์เท่านั้นเอง
โลกหน้านั้นหรือ? แท้จริงมันก็นอนอยู่ในส่วนที่มืดทึบของอารมณ์รู้สึก
พระเจ้าของข้าฯ คือ พี่น้องประชาชน!!
ข้าฯ เชื่อมั่นในมนุษย์ และเฉพาะมนุษย์บนโลกปัจจุบันนี้เท่านั้น
ภารกิจอันเผชิญอยู่ตรงหน้ามนุษยชาติในขณะนี้ ก็คือ การสร้างระบบชีวิตที่งดงามขึ้นมา
บนโลกที่รองรับสองตีนของเราอยู่ สร้างมันขึ้นมา ในปัจจุบันนี้ เดี๋ยวนี้ ที่บนโลกนี้
มิใช่การพะวงอยู่กับเรื่องของอนาคตหลังจากการตาย
โดยการภาวนาไขว่คว้าหาสวรรค์วิมานอันงมงายของโลกหน้า
ไยจะต้องย้ำอีกว่า สวรรค์ก็คือนิยายโกหก
ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องยอมรับว่าพลังทางปัญญาที่มีอยู่จริงในโลกนี้ก็คือ จิตใจของมนุษย์นั่นเอง
Man is a proud ring
คน คำนี้มีกังวานน่าทระนงเสียนี่กระไร...
จิตร ภูมิศักดิ์ ยังได้พูดถึง แมกซิม กอร์กี้ เอาไว้อีกว่า...กอร์กี้หวงแหนและพยายามรณรงค์เพื่อให้ประชาชานร่วมโลกของเขา หวงแหนในศักดิ์ศรีและเกียรติภูมของ "คน" เขาเกลียดชังมนุษย์ผู้กระหายอำนาจ เห็นคนเป็นเครื่องเล่น ใช้อำนาจของตน "บังคับซื้อ" วิญญาณของคน บังคับซื้อทุกสิ่งทุกอย่างโดยมิได้คำนึงถึงความพินาศฉิบหายใด ๆ
กอร์กี้วิงวอนพระผู้เป็นเจ้าของเขา,นั่นคือ ประชาชนผู้ทำงาน...
"เราต้องเลิกเห็นแก่ตัว หัดคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างในแง่การมีสัมพันธ์ร่วมกันทางสังคม
ผลประโยชน์ส่วนตัวอันหยุมหยิมน้อยนิด จักต้องจำนนต่อปัญหาอันใหญ่หลวง
นั่นคือ, มติที่เรียกร้องให้เราทำงานเพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่
สังคมที่ไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ ไม่มีความรวยความจน ไม่มีนายและบ่าว
สังคมที่ทุกคนจะทำงานตามความสามารถของตน และได้ผลตอบแทนเท่าที่ต้องการ
สังคมที่ทุกคนจะรู้สึกว่า ตนเป็นเจ้าของสินทรัพย์ทั้งปวงในรัฐ
สังคมที่มหาทวารแห่งการศึกษาวิทยาการจะเปิดออกว้างอย่างไพศาล
เพื่อทุกๆ คน ที่เขาปรารถนาจะสร้างสรรค์สังคมใหม่...
ข้าฯ รู้ดีว่า...สักวันหนึ่งยุคนั้นจะมาถึง..."
ผมเพียงพลัดหลงไปในดินแดนของความหม่นเศร้าและคลุมเครือ
ท่ามกลางบรรยากาศการเข่นฆ่า ระหว่างคนกับธรรมชาติ ระหว่างคนกับคน
ใช่, มนุษย์เรายังมีพลังความคิดและจิตวิญญาณ...ชีวิตยังมีหวัง
ผมตั้งคำถามทิ้งท้ายกับ "สิงห์สนามหลวง" เอาไว้ว่า...สิงห์ฯ เชื่อมั้ยว่า สักวันหนึ่งยุคนั้นจะมาถึง!?
"แต่ก่อนเชื่อ ปัจจุบันนี้มีแต่สงสัยมากขึ้น กระนั้นก็เชื่อว่า "มนุษย์" ยังคงยิ่งใหญ่ได้เหมือนอย่างที่ จิตร ภูมิศักดิ์ เคยบอกไว้ คือ คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย แม้ว่าคำว่า "คน" ในปัจจุบันจะคลุมเครือและซับซ้อนมากขึ้นเพียงใด แต่คนเราก็ต้องมี "ความหวัง" และพร้อมที่จะรู้เท่าทัน" นั่นคือคำตอบจากสิงห์สนามหลวง
ผมรู้สึกชื่นชมชีวิตและผลงานของสองท่านนี้ ทั้ง "แมกซิม กอร์กี้" นักเขียนรัสเซียผู้ถ่ายทอดความทุกข์ยาก ความเศร้าสลดของชีวิตของผู้คนชนชั้นแรงงานได้จริงและแจ่มชัด
ทั้ง "จิตร ภูมิศักดิ์" นักคิดนักเขียน นักปฏิวัติ ในยุคหนึ่งของประวัติศาสตร์สังคมไทย ผู้ที่ยึดมั่นในความเป็น "คน" และเรียกร้องถึง "สังคมที่ดีงาม"
กระทั่งเขาถูกอำนาจอธรรมเข้าล้อมกระหน่ำยิงบริเวณชายป่าบ้านหนองกุง อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร
ร่างเขาล้มลงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2509
วันเวลาผันผ่านนานเนิ่น, แม้ห้วงเวลานี้ เดือนนี้ ปีนี้ (ปี 2549) สี่สิบปีแห่งการจากไปของเขา- -
"จิตร ภูมิศักดิ์"
กระนั้น,เชื่อว่าหลายคนยังคงเรียนรู้และจดจำ
ถึงวิถี,ชีวิตและความมุ่งมั่นต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมในสังคม
ด้วยความคารวะชื่นชมและศรัทธาในชีวิตและจิตวิญญาณ, จิตร ภูมิศักดิ์.