ในนามแห่งความปรารถนา
คอลัมน์/ชุมชน
ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในชีวิต ตั้งแต่เด็กเล็ก แรกเริ่มมองเห็นโลก เริ่มมีจินตนาการมีความฝัน มีความหวัง อยากเป็นนั่นอยากเป็นนี่ อยากเป็นเมฆ อยากเป็นลมเป็นฝน อยากเป็นต้นไม้ อยากเป็นดอกไม้ เป็นอะไรๆ ก็ว่าไปตามแต่ว่าจะเห็นภาพอะไรโดดเด่นระหว่างนั้น
ในชั้นต่อมา ความปรารถนาก็อาจแปรเปลี่ยน เมื่อวัยเริ่มเข้าสู่อีกช่วงเวลา ระหว่างนี้ เห็นใครเป็นแบบย่าง พบเห็นความประทับใจต่อภาพลักษณ์ใด หรือกระทั่งบุคคลที่ใกล้ชิดก็มีส่วนต่อความฝันต่อความหวังระหว่างนี้ หรือแม้กระทั่งการให้ค่า หรือค่านิยมของสังคมในสมัยนั้นๆ ว่าก็คือ อยากเป็นหมอ อยากเป็นทหาร อยากเป็นตำรวจ อยากเป็นวิศวกร อยากเป็นสถาปนิก อยากเป็นนักข่าว เป็นดารา เป็นนักร้อง นั่นก็ว่ากันไปสุดแท้แต่ว่าใครอยู่ในสภาวะขณะแบบไหนของสังคม หรือค่านิยมของครอบครัว
ความฝันเหล่านี้ล้วนเป็นภาพชัดเจนบรรเจิดเฉิดฉายและงดงามยิ่ง แล้วความฝันทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็เคลื่อนที่แปรเปลี่ยนเวียนหมุนกันไปตลอดเวลา แล้วความหวังความฝันเหล่านี้ก็เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตในระหว่างการเจริญเติบโต ทั้งทางร่างกาย และความคิด จวบจนล่วงเลยเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ก็จะเริ่มดูเหมือนว่า ความฝันมากมายในวัยเยาว์จะค่อยๆ ลดน้อยถอยลงไปบ้าง นั่นจริงแท้แค่ไหน? หรือว่าแท้จริงแล้ว การถูกตีตราว่าเป็นผู้ใหญ่ ทำให้เราต้องเก็บความฝันทั้งหลายนั้นไว้ให้มิดชิดในจิตใต้สำนึก ด้วยเกรงว่ามันจะเป็นภาพที่ไม่ดีนักหากจะนำเสนอความฝันของตนต่อผู้คน วาระนั้น ความฝันคงเป็นสิ่งที่หยิบฉวยออกมาได้ยากเย็นยิ่ง
ว่ากันอีกนัยหนึ่ง ความฝันของผู้ใหญ่ก็ต่างออกไปจากความฝันของเด็ก หากความฝันของเด็กผุดพรายขึ้นจากแบบอย่างรอบตัว หรือจากภาพที่เห็น ภาพแห่งความประทับใจแล้ว ความฝันของผู้ใหญ่ก็อาจผุดโผล่ขึ้นจากกรอบของสังคม ไล่มาตั้งแต่การศึกษา ค่านิยมทางสังคม โทรทัศน์ หรือแม้กระทั้งความฝันที่ยังคงมาแต่วัยเยาว์บ้าง ถ้าจะไล่เรียงมา ก็เริ่มมาด้วยว่า อยากเรียนอะไร ที่ไหน อยากประกอบอาชีพอะไร ช่วงระหว่างนี้เป็นช่วงที่ปัจจัยภายนอกมีผลมากที่สุด และแน่นอนทีเดียวว่า ภาวะฝันเหล่านี้มีคนจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่สามารถเป็นได้ดังหวัง ส่วนคนอีกส่วนหนึ่งก็ผิดหวังกันไป นั่นก็ได้แต่ต้องเริ่มก่อร่างสร้างฝันใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อหล่อเลี้ยงปลอบโยนตนในเวลาอันผิดหวัง เจ็บปวดเปลี่ยวเหงา และนั่นก็ต่อมาด้วยความฝันของการครอบครอง บ้านหลังโตๆ รถยนต์คันหรูๆ ทรัพย์สินราคาแพง รสนิยมอันเลิศหรู มีกิจกรรมชั้นสูง ชื่อเสียง ยิ่งสะสมได้มากก็ยิ่งถือว่าประสบผลสำเร็จมาก หากมีน้อยก็ค่อยๆ ฝันต่อไป
อย่างไรก็ตาม....ไม่ว่าสำเร็จหรือล้มเหลว ตามรูปแบบของสังคมนั้นแล้วตลอดเวลามนุษย์ก็ย่อมยังมีความฝันอีกมากมาย ฝันดีฝันร้ายว่ากันไปสุดแท้แต่ว่าใครอยู่ในสภาพสังคมอย่างไร
เมื่อว่ากันอย่างนั้น ความสำเร็จที่ได้จึงอาจยังไม่ใช่ความสำเร็จอันจริงแท้ เพราะยิ่งสะสม ยิ่งแสวงหา ยิ่งได้มาก็ยิ่งดูเหมือนว่ามันยังมีสิ่งต่างๆ อีกมากมายที่ยังไม่ได้ ยังมีความฝันอีกตั้งมากมายยังไม่ได้เป็นจริง ว่าไปแล้วมันก็ยากนักที่มนุษย์ผู้หนึ่งจะได้ทุกสิ่งที่ฝัน ทุกสิ่งจริงๆ โดยไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง
เช่นนั้นแล้ว มนุษย์จึงยังเป็นผู้ขาดแคลนอยู่เสมอ ยิ่งสะสมทรัพย์สมบัติมากมายเพียงใดก็ยิ่งยังรู้สึกยังไม่ได้ตามที่ฝัน เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ยิ่งพยายามที่จะไขว่คว้ามาให้ได้เพื่อมาเติมชีวิตให้เต็ม เมื่อเติมเท่าไหร่ยังไม่เต็ม ชีวิตก็กลายเป็นความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า เบื่อหน่าย ไร้พลัง สิ้นแรงใจ บางคนก็แพ้พ่าย บางคนก็สู้ต่อไป เหน็ดเหนื่อยต่อไป บางครั้งก็ท้อแท้ ตัดพ้อต่อว่าตัวเองว่าทำไมเราใช้ไม่ได้ถึงเพียงนี้ ทำไมเราโชคร้ายอย่างนี้ ทำไมเราไม่เหมือนคนอื่น เราทำไมต้องด้อยกว่าผู้อื่น บางทีก็ลืมไปว่า แท้จริงแล้วคนอื่นๆ ทั้งหลายนั้นก็อยู่ในสภาวะที่ไม่ต่างออกไปเท่าไหร่นัก
ต้นไม้ใบหญ้าหลังม่านฝนโอนเอนตามแรงของสายฝน โอนอ่อนไปตามจังหวะการสาดซัด กระหน่ำของฝนและลม ต่ำลงไปผืนดินต้องฝนเปื่อยยุ่ยกระจายตัวออกคลุกเคล้าเป็นโคนแฉะชื้น บางที่ดินต่ำน้ำก็ขังเป็นแอ่งเจิ่งนอง ค่อยๆ หล่อเลี้ยงซึมซับลงไปใต้ผืนดินเก็บตัวป็นพลังความชื้น เพื่อส่งต่อไปสู่ความอุดมสมบูรณ์ กลิ่นฝน กลิ่นเมฆ กลิ่นดิน รวมทั้งกลิ่นของต้นไม้ใบหญ้า คละเคล้าคลุกเป็นกลิ่นหอมประเภทหนึ่ง ฟังว่ากลิ่นหอมประเภทนี้ยังมีน้อยคนที่ได้สูดสัมผัส คนผู้มิได้มีความสำเร็จตามรูปแบบของสังคม คนผู้เก็บรักษาวัยเยาว์ของตนเอาไว้อย่างมั่นคง คนผู้ยังมีความฝันอันงดงามและบรรเจิด
อวลกลิ่นนี้จะกระจายไปไกลเท่าไหร่ คนส่วนหนึ่งก็ยังไม่ได้สัมผัสอยู่นั่นเอง กลิ่นนี้จะครอบคลุมไปทั่วอาณาบริเวณที่มีลมฝน แต่คนผู้ผ่านทางมาด้วยรถยนต์ หรือคนผู้หลบฝนอยู่ใต้ชายคาหอห้องอบอุ่น ก็ย่อมไม่ได้สัมผัสมันแน่นอน หรือหากว่าครั้งใดที่เขาอยู่ในที่โล่ง ก็อาจจะกำลังสาละวนอยู่กับการหาที่หลบ คนผู้ได้สูดสัมผัสกลิ่นไอนี้อย่างเฉื่อยช้า เนิ่นนาน ผ่อนคลาย เบิกบาน ดำรงตนในแสงสว่างอันเจิดจ้าแห่งความฝัน ฝันที่แตกต่างไปจากฝันของสังคม ยังฝันถึงเมฆบนฟ้า แม่น้ำเอื่อยไหล ขุนเขายิ่งใหญ่เสียดยอดสุดสูง
ชีวิตจึงล้วนเป็นเวลาอันงดงามน่ายินดี แล้วมันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนา.....