Skip to main content

โลกไร้หม้อ

คอลัมน์/ชุมชน

ฉันมีนิสัยอย่างหนึ่งคือ เวลาไปเดินเตร็ดเตร่ตามห้างหรือแถวสยาม จะต้องพยายามกวาดสายตามองหาพวกเดียวกัน ส่งเรย์ดาห์ออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางทีก็พยายามนับว่าวันนี้เจอคู่หญิง-หญิงกี่คู่แล้ว  ยิ่งมากก็ยิ่งดีใจ เพราะรู้สึกเหมือนมีเพื่อนเยอะ ถ้าไปกับเพื่อน บางทีก็ต้องมีเถียงกันบ้าง ฉันว่าคนนั้นใช่ แต่เพื่อนกลับบอกว่าไม่ใช่ชัวร์ แล้วก็ลงเอยที่ว่าไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ ก็ใครจะกล้าเข้าไปถามคนแปลกหน้าว่า เธอ เธอใช่พวกเดียวกับฉันรึเปล่า


 


เพื่อนคนหนึ่งเรียกการละเล่นเช่นนี้ว่า "ผีมองผี" ตอนแรกฉันก็ไม่ค่อยชอบคำว่า "ผี" นี้สักเท่าไร เพราะดูเลวร้าย น่ากลัวชอบกล แต่คิดไปคิดมา คำว่าผีนี้อาจจะแทนความมืดมิด ความที่ต้องอยู่ในที่ที่เปิดเผยตัวไม่ได้เต็มที่ เหมือนผีที่มาหลอกหลอนได้เป็นบางเวลา ตอนกลางวันไม่สามารถโผล่ออกมาได้ ถ้ามียันตร์กันผีแปะอยู่ก็ไม่สามารถก้าวล้ำเข้าไปในที่นั้น แถมซ้ำร้าย บางทียังถูกถ่วงลงหม้อ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ฝรั่งใช้สำนวนเรียกคนที่ไม่เปิดเผยตัวเองว่า "อยู่ในตู้" (closet) ซึ่งทำให้เห็นภาพของที่มืด แคบ ขาดอากาศหายใจ บางทีสำนวนไทย เราอาจใช้คำว่า "อยู่ในหม้อ" (แม่นาค) ซึ่งก็สามารถให้ความรู้สึกอึดอัดได้พอกัน อาจเลวร้ายกว่าตู้ด้วยซ้ำ เพราะต้องถูกถ่วงอยู่ใต้น้ำ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด


 


บางทีก็อยากรู้เหลือเกินว่า ถ้าเราโตขึ้นมาในโลกที่คนยอมรับการรักเพศเดียวกัน พอ กับยอมรับการแปรงฟันในตอนเช้า มันจะเป็นยังไงบ้าง โลกใบนั้นบางทีก็ดูจะไกลเกินเอื้อม ยิ่งเวลาเจอพวกหัวโบราณ ที่เห็นว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงตลอดกาลด้วยแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกท้อแท้ เหมือนกับว่าเราเกิดมาผิดโลกซะอย่างนั้น