Skip to main content

ในฝัน..ของ.ราชินีแห่งความอาดูร

คอลัมน์/ชุมชน


 



 


 


 


Anna Akhmatova เจ้าของกวีบทนี้ ได้ชื่อว่า ราชินีแห่งความอาดูร ตามคำเรียกของ Alexander Werth  นักหนังสือพิมพ์ชาวอังกฤษที่ไปอยู่รัสเซียช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อาจเป็นเพราะเธอใช้ชีวิตอยู่ในช่วงที่ยูเครน บ้านเกิดเมืองนอนของเธอ ระอุด้วยไอแห่งความขัดแย้ง แต่ถึงอย่างนั้นสภาพแวดล้อมที่ลำบากไม่อาจกลบเสียงบทกวีของเธอที่มักเล่าถึงเรื่องของความรักในภาษาเรียบง่าย หากเปี่ยมจังหวะจะโคน และเมื่อลูกชายของเธอต้องถูกส่งไปเข้าค่ายกักกันถึง 15 ปี  สามีถูกตัดสินประหารชีวิต  บทกวีของเธอถูกสั่งห้ามตีพิมพ์  ความขมขื่นจากประสบการณ์ทำให้เธอกราดเกรี้ยว และต้องหายไปจากวงการนานถึง 17 ปี ก่อนจะกลับมาเขียนอีกครั้งเมื่อเธอได้ทำความรู้จักที่จะประสานโลกภายในจนเกิดความสงบ และประเทศของเธอก็เริ่มจำเธอได้หลังจากที่ขับเธอออกจากวงการไปตั้งแต่ปี 1946  โดยสภาสูงสุดของประเทศเลือกให้เธอเป็นประธานสหภาพนักเขียนอีกครั้ง ปี 1965 สองปีก่อนเธอเสียชีวิต และเธอยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล พูลิตเซอร์ ในสาขาบทกวีถึง 2 ครั้ง


 


ผลงานชิ้นสำคัญที่ทำให้เธอถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้หญิงแถวหน้าของวงการวรรณกรรมรัสเซีย  คือ บทกวีที่ชื่อว่า Requiem และ Poem without a hero  ซึ่งเธอเขียนไว้ตอนที่อยู่ในเลนินกราดเมื่อปี 1940 และนำกลับมาแก้ไขใหม่อีกครั้งใน 20 ปีต่อมา


 


Anna Akhmatova เป็นหนึ่งในกลุ่มเคลื่อนไหวช่วงปี 1910-1917 ซึ่งใช้ชื่อว่า The Acmeist ซึ่งเชื่อมั่นในการใช้ภาษาที่เรียบง่าย สามัญ อันให้ภาพกระจ่างชัดเจนและต่อต้านการใช้ภาษาสัญลักษณ์ที่ทำให้เกิดการตีความคลุมเครือ 


 


กลวิธีการเขียนของ Anna Akhmatova คือ เธอเลือกใช้คำธรรมดาที่ใช้กันในชีวิต ประจำวันมาแสดงถึงประสบการณ์ของเธอต่อโลก  เธอสนใจใคร่รู้และสำรวจลึกลงไปในเรื่องราวของความรัก ความหึงหวง การจากพราก และความตาย   


 


สามีคนแรกของเธอ Niikolai Gumilyov ซึ่งเป็นผู้แนะนำบทกวีของเธอให้โลกรู้จัก พูดถึงงานของเธอว่า "ปัจจัยที่โดดเด่นที่สุดในบทกวีตามแบบของอัคห์มาโตวาก็คือ  เธอแทบไม่ต้องอธิบายอะไร เธอเพียงทำให้ดู"


 


หากอยากรู้จักหน้าตาของเธอ Anna Akhmatova  ลองหาภาพวาดรูปตัวเธอ ซึ่งเป็นฝีมือของ  Nathan Altman ที่วาดไว้ในปี  1914


 


ภาพประกอบบทกวีจาก www.webshots.com


บทกวี  In Dream บทนี้  Anna Akhmatova  เขียนขึ้นในปี 1942  แปลเป็นภาษาอังกฤษโดย D.M. Thomas


แปลเป็นไทยโดย  หิ่งห้อย