เยียวยาโลก ด้วยการเยียวยาตนเอง
คอลัมน์/ชุมชน
ถึงจอห์น ถึงโคลเทรน a love supreme, a love supreme a love supreme, a love supreme นิ้วมือ นิ้วเท้ามนุษย์ กลางตลาด ใกล้กับโบสถ์ของพ่อเจ้า เมืองแฮมเล็ต รัฐแคโลไรนา คือพยานแห่งรัก ในดินรอหว่านไถอันสงบเสงี่ยมผืนนี้ ของเหล่าผู้มีปัญญา ไม่มีสิ่งใดชดเชยความเจ็บปวด เมื่ออวัยวะเพศสูญหรือถูกพบ น้ำกามร้อนฉ่า เจ้ายัดรากเหง้าเข้าในดิน หันหลังกลับ เคลื่อนไป ตามสายน้ำไหลผ่านหนองบึงปลัก ขณะร้องเพลง a love supreme, a love supreme ทั้งหมดนั้นมีความหมายใด เมื่อน้ำกามเหือดหาย การสูญเสียแสนมหาศาล หญิงดำทุกคน หวังถึงความล้มเหลวของเจ้าในการเปลี่ยนแปลงเงียบงัน เจ้าเพียรเข้าสู่เมืองไฟฟ้า ที่เพลงของเจ้าเปล่งปลั่งและสร้อยเศร้าเพลานี้ เจ้าหยิบเขาขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่นและเป่า จนดังเข้าไปในค่ำคืนที่เหน็บหนาว a love supreme, a love supreme อรุณรุ่ง เจ้าปรุงบาปหนา หว่างกลางความไร้สมรรถภาพกับความตาย หล่อเลี้ยงมนุษย์ผู้กิน หัวใจ อวัยวะเพศ และเหงื่อไคล ด้วยเสียงเทอเนอร์ของแซก เพื่อทำให้เจ้าสะอาด a love supreme, a love supreme ทำไมเจ้าดำนัก เพราะข้าเป็นเช่นนั้น ทำไมเจ้ารักตัวกลัวตายนัก เพราะข้า เป็นเช่นนั้น ทำไมเจ้าดำนัก เพราะข้าเป็นเช่นนั้น ทำไมเจ้าหวานล้ำ เพราะข้าเป็นเช่นนั้น ทำไมเจ้าดำนัก เพราะข้าเป็นเช่นนั้น a love supreme, a love supreme ทุกข์หนัก เมื่อเจ้าไม่อาจเล่นเพลง Naima เราเจ็บปวดไร้เรี่ยวแรง ด้วยเพลงที่เจ้าซ่อนไว้ในเลือดของเจ้าเอง ตับร้ายของเจ้าหมดความบริสุทธิ์ หัวใจพองตัว สูบลมออก จูบด้วยเสียงเทอเนอร์ รักด้วยเสียงเทอเนอร์ a love supreme, a love supreme a love supreme, a love supreme |
ไมเคิล เอส ฮาร์เปอร์ เป็นทั้งกวี นักวิชาการ และศาสตราจารย์ด้านวรรณคดีและการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ที่มหาวิทยาลัยบราวน์
จากชีวประวัติของเขาที่เขียนโดย Keith D. Leonard บ่งถึงสาเหตุที่ทำให้เขากลายมาเป็นกวีผิวดำ จำกัดความสนใจและเชี่ยวชาญไว้ในเรื่องวรรณกรรมทั้งที่เกิดในครอบครัวของผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการแพทย์ ว่าเป็นเพราะสีผิวของเขา เริ่มจากในวัยเด็กที่มีเพื่อนบ้านเป็นคนผิวขาวที่ทรงอิทธิพลในแถบบรูคลิน นิวยอร์ก มีโรคประจำตัวคือโรคหอบหืด ทำให้เขาไม่สามารถเข้าร่วมชั้นเรียนยิมนาสติก ส่งผลให้การเรียนตกต่ำ พลาดเกียรตินิยม และถูกตอกย้ำถึงฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงสำหรับคนผิวสีดำที่จะยึดอาชีพแพทย์จากศาสตราจารย์ด้านสัตววิทยา
ความชอกช้ำในจิตใจจากประสบการณ์เหล่านี้เองที่บอกให้เขาระบายออกมาเป็นบทกวี จนกระทั่งเขาตัดสินใจแน่วแน่ที่จะเลือกส่งผ่านประสบการณ์ผ่านถ้อยคำเมื่อเป็นลูกจ้างในไปรษณีย์ มีเพื่อนร่วมงานเป็นคนผิวสีเดียวกัน และได้อ่านงานในรูปจดหมายของ John Keat และ Invisible Man ของ Ralph Ellison ซึ่งเป็นการบ้านสำหรับเขาในการเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการกับกลุ่มนักเขียนของไอโอวา
บทกวีของฮาร์เปอร์เป็นการผสมผสานระหว่างเรื่องราวในประวัติศาสตร์และตำนาน เพราะสำหรับเขาแล้ว ทั้งสองล้วนมีความคล้ายคลึงกันในฐานะที่เป็นศาสตร์ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้จากข้อเขียนหรือการใช้สามัญสำนึกเท่านั้น และนี่เองคือกลวิธีที่เขานำมาใช้เมื่อเริ่มเขียนบทกวีเล่มแรกในชื่อว่า Dear John, Dear Coltrane ในปี 1970 อันที่จริงฮาร์เปอร์สารภาพว่าเขาเขียนบทกวีนี้ไว้ตั้งแต่ปี 1966 แต่เพิ่งมาตีพิมพ์ในปี 1970 ตอนที่เขียน เขาบอกตัวเองว่า "เฮ้ย นี่เอ็งกำลังเขียนใบมรณะบัตรล่วงหน้าให้โคลเทรน รึไง"
บทกวีนี้เริ่มต้นด้วยเสียงร้องของตัวจอห์น โคลเทรนเอง ส่วนสามบรรทัดแรกที่พูดถึงนิ้วมือ นิ้วเท้านั้น เขาหมายถึง Sam Horse ซึ่งเป็นทาสผิวดำที่ถูกฆ่าโดยการหั่นศพ โทษฐานที่ฆ่านายผิวขาวตายโดยใช้ขวานจาม
เขาอธิบายถึงเบื้องหลังของบทกวีบทนี้ว่าใครๆ มักเข้าใจว่าท่วงทำนองเพลงที่เข้มข้น ย้ำไปมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมาจากคนอเมริกันผิวดำเช่นโคลเทรนเป็นต้น คือตัวแทนของความโกรธเกรี้ยว ทั้งที่ในความเป็นจริง นี่คือธรรมเนียมการร้องเพลงเพื่อแสดงความศักดิ์สิทธิ์ในโบสถ์วันอาทิตย์ต่างหากเล่า
ฮาร์เปอร์บอกว่า we must heal ourselves by healing the world
คลิกฟังเพลง A Love Supreme ซึ่งเป็นผลงานอันโด่งดังของ จอห์น โคลเทรน นักดนตรีแซกเทอเนอร์ ผู้ทรงอิทธิพลยิ่งของวงการเพลงแจ๊ซประกอบบทกวี ได้ที่ http://www.johncoltrane.com/automat/swf/main.htm
.......................
เครดิต
ภาพวาดเหมือน จอห์น โคลเทรน เป็นผลงานของศิลปิน Bruni Sablan
บทกวี Dear John, Dear Coltrane โดย Michael S Harper
แปลเป็นไทยโดย หิ่งห้อย