Skip to main content

กาดในหมอก

คอลัมน์/ชุมชน

เบื่อลำน้ำ เฮาไปแอ่วดอย เบื่อในเวียง เฮาก็ขับรถไปแอ่ว  หนาวที่ผ่านมาฉันไปแม่ฮ่องสอน จุดหมายคือ ดอยแม่อูคอ ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นเดือนที่ดอกบัวตองบานสะพรั่ง แม้ว่าเวลาที่เราเดินทางนั้นจะล่าไปสักนิดสำหรับกลีบดอกไม้ที่กำลังร่วงโรยตามฤดูกาล กระนั้นทุ่งเหลืองทองบนภูเขาสูงก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง


 


ปัญหาของเราคือ อยากอยู่ตามลำพังกับโลกใบนี้ กับดอกไม้ทั้งท้องทุ่ง แต่โลกก็ไม่ใช่ของเราคนเดียว (เหมือนประเทศ)  เราจึงต้องหลบสายตากับให้กับรถยนต์บางคันที่จอดกลางทุ่งดอกไม้เพื่อพักค้างคืนที่นั่น


 


บนดอยมีกาดบนภูเขาอยู่ที่หนึ่ง ก่อนขึ้นดอยแม่อูคอ เป็นกาดสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ มีพืชผักผลไม้ เสื้อผ้าที่ชาวเขาเจ้าของพื้นที่ผลิตขึ้นมาขาย  ฉันคุยกับเด็ก ๆ ที่ที่พัก ซึ่งเป็นโรงเรียน หากแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งมาทำร้านกาแฟ และบ้านทรงสามเหลี่ยมให้นักท่องเที่ยวขาจรผู้โชคดีมองเห็นพวกเขาได้พักพิง  เป็นที่พักที่น่ารัก เพราะมีบ้านเพียงหลังเดียว กับที่นอนสำหรับหกคน  ด้านล่างเป็นร้านอาหาร และร้านกาแฟ มีเด็กนักเรียนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกระเหรี่ยง เป็นพนักงาน ช่วยกันทุกอย่าง ทั้งทำอาหาร ชงกาแฟ ทำความสะอาด ปูที่นอน ฯลฯ และนำเงินมาเป็นค่าอาหารกลางวันของพวกเขา ซึ่งครูใหญ่เล่าว่าได้งบประมาณสนับสนุนมาเพียงน้อยนิด ชนิดค่ากาแฟหนึ่งถ้วย เป็นค่าอาหารเด็กๆ ได้สองวัน


 


เด็ก ๆ หลายคนจึงเริ่มต้นความฝันจากธุรกิจเล็ก ๆ ในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นฝันอยากเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่  เจ้าของร้านอาหาร และอื่น ๆ


 


ฉันประทับใจร้านนวดฝ่าเท้าที่เด็ก ๆ นำเตียงมาตั้งหน้าห้องเรียน  เมื่อนอนลงไปก็เห็นภาพตรงหน้าแบบพานอรามา เป็นเทือกเขาตระหง่านตรงหน้า กับเวิ้งหมู่บ้านที่ไกลลิบ ๆ นั้นคือดอยแม่อูคอ  ฤดูกาลท่องเที่ยวของที่นี่มีเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น  เด็กๆ จึงต้องปรับชั่วโมงเรียนให้กับการเรียนรู้อย่างแท้จริงในเดือนนี้  โดยแบ่งหน้าที่มาช่วยกันในกิจการของพวกเขา


 


ลงจากดอยในเช้าวันรุ่งด้วยความผิดหวัง เพราะเพื่อนบางคนบอกว่า ทุ่งบัวตองกลางสายหมอกนั้นงดงามราวภาพฝัน  แต่วันที่ฉันไปนั้นฟ้าใสชนิดถ่ายรูปออกจาเป็นสีฟ้าจนคนทักว่าใช้ฟิลเตอร์เพิ่มสี  แสงแดดก็เหลือง ดอกไม้ก็เหลือง โลกของฉันกลายเป็นสีเหลืองในวันนั้น


 


แต่ฟ้าก็ไม่ใจร้ายเกินไปนัก เมื่อลงมาถึง อ.ขุนยวม ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำกว่า เรากลับต้องฝ่าเมืองในหมอกหนาอย่างที่อยากพบ  และกาดนัดข้างทางก่อนเข้าขุนยวมนั้น ก็น่ารักจนเราอดไม่ได้ที่จะจอดรถลงไปเดินเล่น  หมอกหนาจนสัมผัสถึงหยดน้ำเล็ก ๆ ที่โปรยปราย   ผักที่นี่งามมาก ๆ  ผักกวางตุ้งหนึ่งอ้อมกอดราคาเพียงห้าบาท  เด็ก ๆ แววตาสดใส  ฉันซื้อเมี่ยงที่ชาวบ้านนำมาขายติดรถ เพื่อกินเวลาง่วง  เพราะเมี่ยงก็คือใบชาชนิดหนึ่ง  มีคาเฟอีนเหมือนกาแฟ  การดื่มกาแฟทำให้ต้องเข้าห้องน้ำ การกินเมี่ยงแก้ง่วงยามขับรถทางไกลนั้นให้ความรู้สึกสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ 


 


กลับมาถึงเชียงใหม่ ทุกคนมีอาการ culture shock กับสภาพบ้านเมืองตรงหน้า กาดต้นพะยอมดูพลุกพล่าน  รถยนต์ขวักไขว่ เสียงคน แสงไฟ ช่างแตกต่างจากความสงบที่เราเพิ่งจากมายิ่งนัก


 



































ท้องฟ้าที่แสนสดใส



แดดก็เหลืองดอกก็เหลือง



นางเอกของงาน





กาดในหมอก















เมี่ยง



นี่คืออาหาร



มองจากร้านกาแฟของเด็ก ๆ



อาหารเช้า มะละกอทอด ของไทใหญ่