Skip to main content

สายน้ำเหนือทุ่งหญ้า

คอลัมน์/ชุมชน


เมื่อสายลมพัดผ่าน…..


ต้นหญ้าทั่วทั้งทุ่งก็โอนเอนอ่อนไหว


เมื่อหยาดฝนพร่างพรมระหว่างรัตติกาล


เช้าอีกวัน….


เมื่อแสงแรกแห่งรุ่งอรุณสาดส่อง


ต้นหญ้าทั่วทั้งทุ่ง….


ย่อมเปล่งแสงระยิบระยับ


งดงาม….งดงาม….


 


ยอดหญ้าที่เอนไหว….  หรือสามารถไม่เอนไหว


เมื่อสายลมผ่านพัด


ละอองฝนแตกตัวเป็นฝอย


ปลิวคว้างกระจายฟองละอองบางเบา


เพียงนั้น….


สัมผัสจึงนุ่มนวลอ่อนโยน


มิได้กระแทกถาโถม  ดั่งสายฝนที่สาดซัด


 


สายน้ำเชี่ยวไหล  หลากหลั่งลงมาจากภูเขา


ในวันน้ำหลาก


ต้นหญ้าทั่วทั้งทุ่งถูกกดทับกระแทก


ที่บอบบางก็แหลกสลาย


ที่ยึดแน่นก็เพียงล้มลง….


หากไม่ถูกถมทับด้วยโคลนดิน


อาจยังพอมีโอกาสได้ฟื้นคืน


หรือว่า…..


ยังมีหญ้าต้นใดยังสามารถยืนหยัด


ในสายน้ำเชี่ยวนั้น


หรือจะมีหญ้าต้นใดมีบุญญาธิการ


เหยียดยอดสง่างามท่ามกลางสายน้ำกระหน่ำซัด


ไม่มี….ไม่มี…..


 


ณ ฤดูกาลหนึ่ง


ต้นหญ้าผลิยอด  จากยอดก็ผลิดอก


คลี่บานรับหยดน้ำค้างและแสงตะวัน


ในวันอันสดใส


ผีเสื้อกับดอกไม้หยอกล้อเล่นกัน…ดื่มกินกันและกัน


ผีเสื้อรักดอกไม้…หรือมีผีเสื้อใดไม่รักดอกไม้


ดอกไม้ก็รักผีเสื้อ….หรือยังมีดอกไม้ใดไม่รักผีเสื้อ


แสงแดดเช้าขับเน้นเกร็ดน้ำค้างให้วาววาม


แสงน้ำค้างก็ขับเน้นปีกผีเสื้อให้สดใส


สายลมที่แผ่วผ่าน….


ทำให้ทุ่งทั้งทุ่งมีชีวิต


 


สายน้ำของน้ำหลากที่ล้นทับท่วมทุ่ง


ฉีกกระชากกลีบดอกไม้


ขับไล่ผีเสื้อปีกสวย


ทับถมแทนที่ด้วยโคลนดินเละเหลว


หรือน้ำหลากโกรธเกรี้ยวสิ่งใดถึงได้ถั่งโถมเช่นนี้


อาจบางที….


อาจบางทีต้นหญ้าบางต้น


ได้ก่อกวนกลั่นแกล้งยุแหย่ก้อนเมฆ


จนทะเลาะกันรุนแรง


จนเมฆไม่อาจอดทนต่อไป


จึงหลั่งน้ำหยาดไหลทะลัก


ภูเขาไม่อยากรับรู้การทะเลาะเบาะแว้งของต้นหญ้าและเมฆ


จึงปล่อยให้น้ำไหลผ่านลงไป


ทับท่วมถมต้นหญ้า


หรือว่า…..


ภูเขาก็ไม่พอใจต้นหญ้าอยู่เช่นกัน


ที่บางครั้งก็ทำตัวก้าวร้าวเกินไป


จึงปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปตามยะถากรรม


เช่นนี้แล้ว…..เมื่อไหร่ผีเสื้อจะกลับมา


เมื่อไหร่ดอกหญ้าจะได้เบ่งบาน