Skip to main content

สลิดคามาแซมผักแส้วใส่ขจรแล้วหวานอร่อยมาก

คอลัมน์/ชุมชน


 


ผักแส้วมีรสขม แต่บางคนก็บอกว่าเป็นขมที่ "หวาน" ผู้ใหญ่บางคนที่แมวนับถือท่านบอกว่า เป็นรสอันชื่นใจ แต่เมื่อหนูน้อย ป .4 คนนึงชิมเข้า ร้องทันทีว่า


"อี๊แหวะ! ผักอะไรกันเนี่ย!!"


เดือดร้อนคุณแม่ที่แสนน่ารักต้องรีบบอกลูกว่า


"ลูกจ๋า ไม่ชอบไม่ต้องทานก็ได้นะคะ แต่อย่าทำกริยาอย่างนั้น กับอาหารที่คนอื่นเค้าทานกัน อย่าทำหน้าแบบนั้นด้วย!"


หนูน้อยแอบทำปากเบะนิดๆ แต่ก็ลดความบึ้งตึงลง แหม นี่ล่ะ แมวว่าเป็นการสอนลูกที่เข้าท่าดีทีเดียว


 


เคยมีเพื่อนคนนึงของแมว ไม่ชอบกลิ่นปลาร้า แต่ก็ติดสอยห้อยตามเพื่อนๆ ไปกินส้มตำกับเค้าซำเหมอ ครั้นพอแมวและคนอื่นๆ สั่ง "ตำลาว" เพื่อนผู้นั้นก็จะทำหน้าแบบย่นจมูกทันที และพ่นคำพูดที่ติดปากว่า"อี๊ กินไรกันไม่รู้ เหม็นจะตายไป"


 


เกือบจะแพ่นกบาลกันไปหลายรอบแล้วนะนั่น ถ้าไม่คิดว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร และจงให้อภัยแก่ผู้มืดบอด


ด้วยคนที่มีหูตาและจิตใจสว่างไสว ย่อมตระหนักว่า ความแตกต่างเป็นเรื่องปกติ รสนิยมและวัฒนธรรมหาใช่ของอวดอ้างเกทับตัดสินว่าอะไรดีกว่าอะไร ถ้าเหม็นปลาร้ามาก ก็อย่าตามคนอื่นเค้าไปกินโต๊ะเดียวกันสิ!


 


ว้า ว้า วันนี้แมวเครียดๆ ไงไม่รู้เนอะ ^-^ สงกะสัยเมนส์ใกล้มา เด็ดผักกันเลยดีกว่า


 


เมนูวันนี้ แกงผักแส้วแซมผักสลิดคา!


 



 


เครื่องปรุง


 


พริกแห้ง,หอมแดง, กระเทียม, เกลือ, กะปินิดหน่อย


มะเขือเทศลูกเล็ก, ผักแส้ว, ผักสลิดคา, ดอกขจร


 


เตรียมการ


ก่อนอื่น เด็ดผักค่ะ!


แต่ว่าตะกี้แมวเกริ่นนำถึง ผักแส้ว คิดว่าหลายๆ คนอาจไม่รู้จักว่าคือผักอะไร


 



 


ผักแส้ว เรียกอีกชื่อว่า มะลิเครือ ค่ะ ลักษณะดอกมีกลีบขาว หอมเย็นๆ คล้ายดอกมะลิวัลย์ จนบางคนก็คิดว่าชนิดเดียวกัน แต่เราไม่กินดอกมันดอกนะคะ


 


ในหน้าฝนอย่างนี้ ผักแส้วจะผลิยอดเลื้อยพันไปทั่ว ใช่แล้ว เราก็จะเลือกเด็ดเอาแต่ที่อ่อนๆ หรือถ้าไปซื้อตามตลาด เค้าจะมัดรวมกันเป็นกำๆ ห่อใบตองน่ารักเชียวแหละค่ะ ยอดสดๆ นั้นจะมีรสขมนิดๆ แต่ถ้าแกงแล้ว ความขมจะเพิ่มขึ้นอีกหน่อย


 


แต่นี่เลยค่ะ สูตรใหม่ของแมว เพื่อดับความขมของแส้ว


 



 


"สลิดคา" คือผักอีกชนิดที่ออกดอกพร้อมกันในช่วงฤดูฝน มีคนบอกว่า ดอกสลิด คือ ดอกขจร แต่สลิดคา ดูท่าไม่ใช่สลิดเฉยๆ (งงไหมเนี้ย) เอางี้ดีกว่า ผักทั้งผองพี่น้องกัน ^-^


 


ธรรมชาติของสลิดคามีรสหวาน หวานล้วนๆ เลยค่ะ หวานเย็นชื่นใจ เห็นก้านดูแข็งๆ ยอดอ่อนๆ ม้วนกอดกันอยู่เรื่อยแบบนี้ โอชะซะ!


 


และด้วยวิสัยทัศน์อันยาวไกล แมวจึงแกงผักแส้วที่ขมซนๆ (อิอิ ศัพท์ใหม่ ประมาณว่า เป็นความขมที่ทำให้น้ำลายเต้นอยู่ในกระพุ้งแก้มไงคะ) กับผักสลิดคา ซึ่งหวานกำลังดี  โอ้โห! ออกมากลมกล่อมมั่กๆ


 


แต่ช้าก่อน แมวเจอดอกขจรด้วย!


 



 


แหม เพิ่งว่าผักทั้งผองพี่น้องกัน ได้เลย ลงหม้อแกงทั้ง 3 ผัก


อืม อร่อยจริงๆ


 


อ้าว! ลืมบอกวิธีทำ


 


วิธีทำ


 


ตำน้ำพริกเครื่องแกงค่ะ อย่าลืมแช่พริกแห้งในน้ำสักแป้บนะคะ จะได้นิ่ม ตำง่ายไม่เมื่อยเร็ว หยอดกะปิสักนิด น้ำแกงจะได้นัวเน้อ


 



 


จากนั้นก็รินน้ำใส่หม้อตั้งเตา ถ้ามีปลาแห้ง ฉีกๆ ลงต้มด้วยค่ะ จะได้เพิ่มความหอมหวานแก่น้ำแกงมากขึ้น จนกระทั่งน้ำแกงเดือดปุดๆ ดีแล้ว ก็ใส่มะเขือเทศลงไป ถ้ารักความงาม ประณีต ก็ผ่าครึ่งให้เข้าที แต่ถ้าหยาบกระด้าง อุ้ย! ไม่ใช่ค่ะ ถ้าเป็นคนรักอิสระ จงโยนมันลงไปเลย ปล่อยให้ความร้อนดูแลเอาเอง อิอิ


 



 

 


คราวนี้จงสังเกตว่า เมื่อมะเขือเทศเริ่มนิ่ม น้ำแกงส่งกลิ่นหอม ตักขึ้นชิมสักนิด ถ้าอ่อนเค็มจะเหยาะน้ำปลาก็ได้ (หรือปลาร้าถ้าโปรด)


 


ได้ที่ดีแล้ว เชิญท่านลงเลยค่ะ 3 ผักที่เราเด็ดไว้ ผักสลิดคาก่อน เพราะก้านแข็งกว่า ตามด้วยผักแส้ว และดอกขจรตามลำดับ น้ำเดือดขึ้นอีกครั้ง ยกลงเลยค่ะ ทานตอนร้อนๆ ผักยังมีสีเขียวๆ จะอร่อยชื่นใจเป็นที่สุด


 


แต่เอ่อ...แกงของแมวผิดพลาดค่ะ มัวแต่เม้าท์กับคุณๆ นี่ไง อายจัง ผักเป็นสีเหลืองไปแล้น :-P


 



 


 


กลเม็ดเคล็ดไม่ลับ


 


1.             ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ของผักแส้ว ระบุว่า ผักแส้วเป็นไม้เลื้อย พบในป่าดงดิบและป่าเบญจพรรณในภาคเหนือ ลำต้นเป็นเถากลมขนาดเล็ก สีเขียว บาง ช่วงเลื้อยงอไปงอมา เถามีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.01-0.15 ซม. (ลองวัดดูสิคะ ^-^)


2.             ใบกว้าง 2.3-4.5 ซม. ใบยาว 4-12 ซม. ก้านใบสั้น 0.05-2 ซม. หน้าใบสีเขียวเข้มกว่า หลังใบริมใบเรียบ ปลายใบแหลม ฐานใบสอบแหลม ดอกมีรูปร่างแบบกระดิ่ง กลีบดอกสีขาวยาว 3-5 มม. (แหม เค้าวัดกันละเอียดดีเนอะ)


3.             สรรพคุณช่วยให้เจริญอาหาร โดยเฉพาะคนป่วยเพิ่งหายฟื้นไข้ ถ้าได้ชิมแกงผักแส้วนำร่อง จะทำให้อยากรับประทานอาหารมากขึ้น


4.             บางคนก็นำไปลวกจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ ค่ะ


 



 


 


 


5.             ดอกขจร ลักษณะทางพฤษศาสตร์ดังนี้ เป็นเถาไม้เลื้อยขนาดเล็ก มีใบลักษณะเป็นรูปหัวใจปลายแหลม ยาว 6 -11 เซนติเมตร (ใหญ่กว่าผักแส้วเนอะ) ใบสีเขียวอมแดงเล็กน้อย ออกดอกเป็นช่อคล้ายพวงอุบะ ช่อดอกจะออกบริเวณซอกกิ่งเป็นพวง มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย


6.             (ต่อ) กลีบดอกสีเหลืองอ่อน หรือ เขียวอมเหลืองมีผลลักษณะเป็นฝักคล้าย ฝักนุ่นแต่มีขนาดเล็กกว่าฝักนุ่น โดยมีความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-1 1/2 นิ้ว เมื่อผลแก่ ฝักจะแตก เมล็ดจะมีขนลอยตามกระแสลมไปได้


7.             ดอกขจรนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่างค่ะ แกงจืดใส่หมู, ลวกจิ้มน้ำพริก, ผัดไฟแดง, ทอดใส่ไข่เจียว หรือแกงส้ม เป็นต้น


 



 


8.             ส่วนผักสลิดคา ไม่ค่อยมีข้อมูลปรากฏอย่างเป็นทางการค่ะ แถมตอนแมวไปซื้อนะคะ ก็มีคนมาเมียงมองอย่างสนใจหลายราย เพราะเป็นผักที่ไม่ค่อยเห็น


9.             แถมแม่ค้ายังบอกว่า "คงจะอร่อยค่ะ เอามาขายก็ขายดี คนชอบ" (แล้วแม่ค้าเคยทานไหมคะ) "อืม ยังเลยค่ะ มัวแต่เก็บมาขาย ไม่ทันได้กินสักที (อ่าว!!)