Skip to main content

ฉบับที่ 4 : ตอบแบบกลัวๆ

คอลัมน์/ชุมชน

"ความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้น เอาชนะความกลัวด้วยความไม่กลัว"


 


ถึง ชนกเนตร


 


จากเรื่องราวของคุณ ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมความกลัวนั้น ถือได้ว่าสะท้อนภาพของสังคมไทยในปัจจุบันได้อย่างยิ่ง ในหลายบริบทที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกันออกไป


 


แต่มันก็คิดมากทีเดียวว่า ทำไมเมื่อเกิดเหตุการณ์หนึ่ง และคนจึงรู้สึกกลัว


 


การที่คุณและอาจารย์ท่านนั้น ได้สนทนากันและพบว่า สุดท้ายแล้ว ในที่สุดก็ไม่มีใครสักคนที่สามารถช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุได้เลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นกรณีของคุณหรือของอาจารย์


 


ในเหตุการณ์ที่คุณทั้งสองได้พบนั้น หากมองให้ลึกลงไปอาจจะบอกได้ว่า คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นอาจจะคิดเหมือนกับคุณก็ได้ เช่น "เดี๋ยวคงจะมีคนช่วย"  "ฉันอยากช่วยนะ แต่ต้องรีบไปส่งลูก"  "ทำไมคันหน้าไม่ลงไปช่วยหว่า"  "โถ น่าสงสารเสียจริง"


 


คำถามหรือความคิดของผู้คนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นๆ ก็อาจจะคิดไม่ต่างจากคุณ, ดังนั้น หากคุณจะมองว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ทำอะไร หรือไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก็ดูเหมือนจะเป็นการมองที่ไม่ได้คิดว่าคนอื่นๆ มีข้อจำกัดอย่างไร


 


แต่สิ่งที่สนใจไปกว่านั้นคือ อะไรทำให้คุณ "คิดได้" หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น?


 


การที่คุณได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆ นั้น หากเวลาต่อมาคุณไม่ได้คุยกับอาจารย์ คุณจะสามารถแลกเปลี่ยนหรือเรียนรู้จากประสบการณ์นั้นได้มากน้อยเพียงใด และแน่นอนว่าการที่คุณเองสามารถที่จะมองเห็นถึง "วัฒนธรรมความกลัว" ก็เป็นสิ่งที่ได้จากการถก การพูดจา แลกเปลี่ยน ซึ่งกระบวนการเรียนรู้ ตอบโต้เช่นนี้ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป


 


การพบปะ พูดคุยแลกเปลี่ยน จึงเป็นตัวช่วยให้เกิดบทเรียนหรือขยายประเด็นจากสิ่งที่พบเห็นไปสู่วัฒนธรรมใหญ่ของสังคม -สังคมที่เต็มไปด้วยความกลัว


 


กล่าวสำหรับความกลัวก็มีหลายประเภท มนุษย์มีความกลัวเป็นต้นทุนเดิม ในการปกป้องตัวเองให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคมที่มีปัญหาวุ่นวายสลับซับซ้อน ความกลัวคือปราการสำคัญในการคุ้มครองตัวเองของแต่ละคน และความกลัวก็ช่วยทำให้รอดพ้นจากอันตรายหรือสิ่งเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตของคนๆ นั้น


 


น่าคิดว่า อะไรทำให้มนุษย์ต้องกลัวและหวาดระแวง?


 


หากสมศักดิ์ เป็นแฟนกับ สมหมาย ซึ่งทั้งสองนั้นรักกันมาก อยู่ด้วยกันมาตลอดระยะเวลา 3 ปี แต่แล้ววันหนึ่งทั้งสองต้องอยู่คนละที่ สมศักดิ์ต้องไปเรียนหนังสือต่อ ส่วนสมหมายก็ต้องไปทำงานที่อื่น ในช่วงระยะเวลาที่อยู่ห่างกัน สมศักดิ์กลัวว่าสมหมายจะมีแฟนใหม่ จะต้องพบรักใหม่ และอาจจะต้องเลิกกับตน ขณะที่สมหมายก็กลัวว่าความห่างไกลกันนี้จะทำให้สมศักดิ์มีรักใหม่ด้วยเช่นกัน…อะไรทำให้สมศักดิ์และสมหมายกลัว?


 


หากวัยรุ่นต้องการรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัย เพื่อให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและรับผิดชอบซึ่งเป็นการกำหนดวิถีชีวิตทางเพศของตัวเองที่ไม่อยากจะมีเชื้อเอดส์ในร่างกาย ไม่อยากท้อง ไม่อยากแท้ง หรือแม้แต่การตั้งครรภ์ก่อนวันอันพึงปรารถนา ในขณะที่ผู้ใหญ่ก็มองเป็นการยุยงส่งเสริมให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันสมควร มองว่าเป็นการชี้โพรงให้กระรอก … อะไรที่ทำให้ผู้ใหญ่กลัว กับการที่เด็กต้องการกำหนดวิถีชีวิตทางเพศของตัวเอง?


 


หากมหาวิทยาลัยบางแห่ง ซึ่งพึงเปิดการเรียนการสอนของเด็กปี 1 ใหม่ โดยจะมีการจัดกิจกรรมรับน้อง ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมประเพณี เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของแต่ละปี แต่ทว่าเมื่อเริ่มจะมีการรับน้องทีไร  สังคมก็มองว่าการรับน้องเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยสร้างสรรค์ เป็นการผลิตซ้ำระบบ "โซตัส" ซึ่งจะนำไปสู่ความรุนแรงของสังคมในอนาคต ….แล้วอะไรที่ทำให้สังคม ตื่นตัวกลัวเรื่องนี้อย่างมาก?


 


หากการที่น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายไปเร็วกว่ากำหนดที่นักวิทยาศาสตร์คำนวนไว้ ซ้ำยังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ดำถล่มไปทั่วโลก เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์ เกิดแผ่นดินไหว อาการมีความแปรปรวนและเปลี่ยนแปลงแบบที่มนุษย์เองไม่ทันได้ตั้งตัวมาก่อน …อะไรที่ทำให้พวกเราไม่ค่อยตื่นตัวกลัวกันเลย?


 


หากการที่รัฐบาลพยามเดินหน้าเจรจาจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี ซึ่งปัจจุบันมีการทำสัญญาไปแล้วกับบางประเทศเช่น จีน ออสเตรเลีย ซึ่งมีผลให้ไทยนำเข้าสินค้าจากสองประเทศเช่น กระเทียม น้ำโค มิหนำซ้ำยังจะเอาการไฟฟ้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น ผ่านนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งประชาชนก็ต่างได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลอย่างถ้วนหน้า  …แต่ทำไมประชาชนยังกลัวที่จะตั้งคำถามกับสิ่งที่รัฐบาลทำ?


 


มีหลายเรื่องราวทีเกี่ยวข้องกับความกลัว แต่ความกลัวแต่ละอย่าง แต่ละแบบ ก็เกิดจาก สภาพแวดล้อม หรือ "ฐานคิด" ที่ต่างกัน อย่างไรเสียก็อย่าลืมว่าความกลัวก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างเกราะป้องกันตัวเองของมนุษย์


 


ไม่ผิดหรอกครับ ที่คุณจะมองว่าความกลัวนั้น สามารถครอบงำจิตใจได้โดยง่าย ผู้คนหลงลืมพื้นฐานแห่งความเป็นมนุษย์ด้วยกัน ปล่อยให้เพื่อนมนุษย์ที่ถูกกระทำเบื้องหน้ามีสถานะไม่ต่างอะไรกับสิ่งไม่มีชีวิต แล้วเหตุการณ์เหล่านี้คงจะไม่หมดไปจากสังคมไทยและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของคนในสังคมยังมีผู้ต้องการอยู่เสมอ


 


"เมื่อหันมามองมนุษย์อย่างเป็นมนุษย์ เลือดที่กลบปากสีแดงฉานของใครคนหนึ่งน่าจะทำให้เราสะเทือนใจด้วยความสงสาร และผลักดันให้เกิดความกล้า และไม่รีรอที่จะให้ความช่วยเหลือกับความทารุณที่เกิดขึ้นในเบื้องหน้า"


 


ผมเองก็เป็นสัตว์สังคมตัวหนึ่งที่มีความกลัวอยู่ในตัว
และก็กลัวว่าคุณจะอ่าน ฉบับที่ 4 ของผมไม่รู้เรื่องด้วยเช่นกัน!


 


ใต้ต้นลำพู, สวนป่าพฤกษศาสตร์


 


อุ่นใจ บัว