Skip to main content

กาดเมืองพร้าว

คอลัมน์/ชุมชน

ต้นเมษายน ฉันขับรถพาเพื่อนกลับบ้านไปเลือกตั้ง เมืองพร้าว หรือเวียงพร้าว  เธอเล่าว่าเมืองที่กษัตริย์สร้างนั้นชาวเหนือจะเรียกว่าเวียง  เช่น เวียงฝาง เวียงพร้าว นั้น พญามังรายเป็นผู้สร้างเมืองขึ้นก่อนที่จะสร้างเมืองเชียงใหม่เสียอีก


 


ฉันชอบเมืองพร้าว เพราะสงบ เล็ก น่ารัก เหมือนบ้านนอกที่ฉันเคยอยู่ตอนเด็กๆ บ้านเพื่อนต้องออกจากตัวเวียงพร้าวออกไปอีกนิดหน่อย  หากนิดหน่อยระหว่างทางนั้น เป็นทางเล็ก ๆ ตัดผ่านทุ่งนา 360 องศา ที่ล้อมรอบด้วยภูเขา


 


ข้าวนาปลังเดือนเมษายน กับฝนฤดูร้อนนั้น ทำให้โลกวันนั้นเหลืองทอง และชะล้างฝุ่นไอจากเมืองใหญ่ได้ดีนัก 


 


"สีเหมือนผมเจ้าชายน้อยเลย"  ฉันเปรยขึ้นมา หากหัวใจกระหวัดนึกไปถึงอีกวันหนึ่ง วันที่ทุ่งข้าวมีสีเดียวกันนี้  หากความรู้สึกแตกต่างกันยิ่งนัก 


 


.......


 


เรานั่งรถมาเงียบ ๆ เขาผู้กำลังขับรถเป็นชายผู้มาก่อนฉันหนึ่งคน  บนเส้นทางกลับบ้าน ตะวันกำลังลับฟ้า ทุ่งข้าวงามแต่ไม่อาจชำระล้างความเศร้าโศกในหัวใจของเราได้  เพราะเราสองคนต้องกลับมาเตรียมบ้านซึ่งทิ้งร้างไปนาน เนื่องจากการป่วยไข้ของพ่อ 


 


ภาพสายระโยงระยางในห้องไอซียูที่สถาบันมะเร็ง  ซึ่งเต็มไปด้วยผู้ป่วยระยะสุดท้าย  เตียงข้าง ๆ เพิ่งจากไป เสียงญาติพี่น้องร้องไห้ ทุกเตียงมีทิชชูไว้ปลายเท้าผู้ป่วย  เท้าของพ่อเริ่มเขียวไปถึงหัวเข่า  มือเริ่มเขียวคืบไปด้านบน  ฉันกระซิบข้างหูที่ไม่อาจได้ยินเสียงใคร นอกจากเสียงของแม่  ว่าฉันมาแล้ว


 


แม่บอกให้เรากับบ้านเพื่อนตระเตรียมสถานที่ คาดว่าพรุ่งนี้พ่อน่าจะกลับบ้านได้แล้ว


 


คืนนั้น เราสองคนยืนอยู่หน้าบ้านที่มืด และเงียบ  เห็นเงาต้นมะพร้าวหน้าบ้าน และทันใด ดาวดวงหนึ่งสว่างวาบพุ่งเป็นสายลงตรงหน้าเรา  พี่หันมามองหน้าฉัน บอกว่า สงสัยพ่อกลับมาบ้านเราแล้ว


 


.......


 


นับจากวันนั้นทุ่งข้าวที่สีเหมือนผมของเจ้าชายน้อยซึ่งควรงามกระจ่างใจ กลับมีความเศร้าลึก ๆ เจืออยู่เสมอในหัวใจ


 


ออกจากบ้านเพื่อน ฉันวนรถเข้าไปดูกาดน้อย ๆ ในหมู่บ้านท่ามะเกี๋ยง ซึ่งมีโต๊ะขายของเพียงสองสามโต๊ะ  คราวที่แล้วฉันเห็นชาวบ้านนำตัวแลนมาขาย และของป่าชนิดหายาก  แต่เวลาไม่อำนวย เราจึงแวะที่กาดเวียงพร้าว  ซึ่งก็มีพืชผักตามฤดูกาลมาขายเช่นกัน 


 


ฉันได้รังผึ้งมานึ่งกิน  มีน้ำผึ้งป่าขายด้วย  ผักกูด  เตา (อีสานเรียก "เทา" ) เป็นสาหร่ายน้ำจืด เก็บจากกลางนา ชาวเหนือและชาวอีสานชอบกิน  แต่ปัจจุบันมีการใช้ยาฆ่าแมลงกันเยอะ  บางคนถึงกับอาหารเป็นพิษเลยก็มี


 


........


 


เขาว่าชีวิตคือการเดินทาง  และเขาอีกคนก็ว่า การเดินทางคือสายตาของนักเขียน  ในการเดินทางแต่ละครั้ง ฉันมักหาเวลาไปตลาด ไปดูวิถีชีวิต อาหาร และวัฒนธรรมของผู้คน 


 


วันนี้เวียงพร้าวมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น  หน้ากาดมีร้านขายของเปิด 24 ชั่วโมงเปิดใหม่ เด็ก ๆ วิ่งเข้าวิ่งออก ซึ่งน้ำหวาน น้ำอัดลม  แม้แต่ฉันและเพื่อนก็แวะไปหาซื้ออะมิโนโอเค กับขนมปัง  ขณะออกมานั้น ป้าร้านขายของชำเก่าแก่ที่อยู่ติดกัน นั่งหน้าหมอง ใช้พัดโบกไล่ความร้อนรอบกาย


 


คนจนคงจะหมดไป อย่างที่ ฯพณฯ ว่าจริง ๆ ละมัง


 

































the road home ของเพื่อน



บ้านเพื่อน



พ่อเพื่อนเขียนไว้



หน้ากาด



หน้ากาดเวียงพร้าว



ทางเข้ากาด



เตา เอาไปยำ



เตา ห่อด้วยใบบัวระวงศ์ 



ผักกูดผัดน้ำมันก็อร่อย



ผักแส้ว



ทางกลับ