Skip to main content

ขอความรักบ้างได้ไหม

คอลัมน์/ชุมชน


 


ฉันรักเธอไม่เคยต้องการสิ่งใด


ฉันรู้ได้ยามเขาหยุดปรารถนา


ไม่เคยสูญเสียเดือนฉายความหมายศรัทธา


แสงเดือนรู้ว่าฉันรักเธออย่างไร


 


ฉันรักเธอไม่เคยรักใครเทียบเธอ


ถึงแม้จะเก้อ มีเธอเป็นความฝันใฝ่


ไม่เคยเรียกร้องขอเป็นเจ้าของหัวใจ


ฉันรู้ได้ยามเธอมีคนอื่นปอง


 


เดือนรู้ดี ฉันให้สิ่งใดเธอบ้าง


ทุกสิ่งทุกอย่างยามเธอได้เป็นเจ้าของ


รู้ตัวดีชีวีฉันเปื้อนละออง


หนึ่งคำขอร้อง ไม่เคยขอรักตอบมา


 


แสงเดือนเอย แสงเดือนนี้แจ้งประจักษ์


รักบริสุทธิ์ ถึงแม้หยุดปรารถนา


ไม่เคยสูญเสีย เดือนฉายความหมายศรัทธา


แสงเดือนรู้ว่า ฉันรักเธออย่างไร


 


"พิบูลศักดิ์ ละครพล"


บทเพลงจากนวนิยายเรื่อง "ขอความรักบ้างได้ไหม"


 


ผมเปิดเพลง ขอความรักบ้างได้ไหม (แสงเดือนรู้ว่าฉันรักเธออย่างไร) ของเขาฟังอีกครั้ง


หลังจากที่เขาขับรถยนต์คันสีแดงเลือดนกเคลื่อนออกไปช้า ๆ


 


จริงสิ, เมื่อเอ่ยถึงเขา - -พิบูลศักดิ์ ละครพล คือนักเขียนในดวงใจของผมอีกคนหนึ่ง


และถือว่างานเขียนของเขานั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตวิถีผมเป็นอย่างมากในเวลาต่อมา

ไม่ว่าการฉากการใช้ชีวิตบนดอยสูง
ไม่ว่ามุมมอง ความรู้สึกที่ได้สัมผัส กระทบ
ภาษาที่ง่ายงาม เนียนนุ่ม และเศร้า
ในศรัทธา ในความหวัง
ในความสุข ในความทุกข์
ทั้งในการต่อสู้ของคนผู้ด้อย
ทั้งการต่อสู้กับจิตใจตัวเองภายใน
ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และประสบด้วยตนเองทั้งสิ้น


 


ล่าสุด วันเสาร์ที่ผ่านมา,พี่ชายคนนี้ได้แวะเวียนมาหาผมอีกครั้ง
ณ บ้านเช่าใกล้เชิงดอยสุเทพ เชียงใหม่
เราสนทนากันอย่างออกรส ทั้งหวานขมอมเศร้า
จากเช้าสาย คล้อยบ่ายย้ายย่ำเย็น...
ทั้งกาแฟ เบียร์ และห้วงคำนึงถึงความหลัง  
อดีตวัยฝันวันเยาว์ผุดพรายออกมาในความทรงจำ
ผมมองเห็นความฝันของคนหนุ่มโลดเต้นในดวงตาเขา...

"บางที ชีวิตเมื่อเราเดินถอยห่างออกมา เรามักมองเห็นอะไรชัดเจนยิ่งขึ้น..."


เขายังคงย้ำๆ คำนี้อยู่เสมอ


 



 


 


ผมนิ่งฟังเขา ทุกถ้อยคำนั้นเหมือนภาพผ่านเข้ามาเหมือนสายน้ำที่ไหลริน


จากโตรกผาลงสู่ห้วงหุบห้วยข้างล่าง...รี่ไหลเย็นระรื่น


มองเห็นฉากของหุบเขาแสงตะวัน เมื่อครั้งที่เขาเคยใช้ชีวิตเป็นครูในแถบแม่ฮ่องสอน
ครูหนุ่มกับมอเตอร์ไซค์คันเก่า ผู้แบกเป้ความฝันไว้เต็มเปี่ยม


ภาพห้องสมุดที่โดดเด่นซุกซ่อนอยู่กลางป่าเขา



รวมถึงภาพบ้านเช่าซอมซ่อกลางเมืองเชียงใหม่
ในห้วงคนหนุ่มกับชีวิตระหกระเหิน
ก่อนมีหญิงสาวที่พลัดหลงเข้ามาขออาศัยอยู่ในห้วงทุกข์ยากและไร้หวัง
ใช่, เธอคือนางฟ้าที่พลัดหลงเข้ามาในยามความฝันกำลังผุกร่อน


เธอเป็นดั่งแสงเดือน ศรัทธาและความหวัง


เป็นทั้งความรัก สุข เศร้า


และการจากพราก


 


แหละนั่นคือที่มาของตัวละครในนวนิยายเรื่อง "ขอความรักบ้างได้ไหม"
นวนิยายของหนุ่มสาวในยุคแสวงหาที่ตรึงใจใครหลายคน


"...แสงแดดสาดส่อง แตะต้องช่วงไหล่


เธอหอบดอกไม้ ยิ้มฉายบนหน้า


ฉันมองร่างเธอผ่านม่านน้ำตา


ภาพเธอพรายพร่า


เธอกลับมาจริงหรือไร


 


นานเหลือเกินที่เราจากกัน


หยุดอยู่ตรงนั้น ฉันขอร้องไห้


ขอร้องให้สากับความอาลัย


ช่างนานเหลือใจ ช่างนานเหลือเกิน..."


 


กระนั้น เรายังคงถกเถียงถึงวันนี้และวันพรุ่ง
พูดถึงโลกและโลภ
ความเร็วของทุน
ความล้มเหลวของระบบการศึกษา
ความแปลกแยกแปลกเปลี่ยนของคน
รวมไปถึงความจริงและลวง


 


...แสงเดือนเอย แสงเดือนนี้แจ้งประจักษ์


รักบริสุทธิ์ ถึงแม้หยุดปรารถนา


ไม่เคยสูญเสีย เดือนฉายความหมายศรัทธา


แสงเดือนรู้ว่า ฉันรักเธออย่างไร


 


 



 


ผมเปิดเพลง ขอความรักบ้างได้ไหม ของเขาฟังอีกครั้ง


หลังจากเขาขับรถยนต์คันสีแดงเลือดนกค่อยๆ เคลื่อนออกไปช้า ๆ


 


จริงสิ, ชีวิตแม้มันจะเก่าและเลือนราง


ทว่ามันยังคงเหลือความงามงดให้จดจำมิใช่หรือ!?