Skip to main content

เลขเด็ด

คอลัมน์/ชุมชน

เป็นข่าวคราวเกรียวกราวว่า ยอดการขายล็อตเตอรี่และหวยบนดินของรัฐบาลในงวดกลางเดือนมิถุนายนนั้นพุ่งกระฉูดเรียกได้ว่า หากมีคนถูกตามเลขเด็ดที่ซื้อจริงแล้ว กองสลากอาจถึงขั้นมีเงินไม่พอจ่ายกันเลยทีเดียว และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายล็อตเตอรี่ก็ได้โอกาสขึ้นราคาสลากกันไปหลายเท่าตัว


 


เรื่องการซื้อหวยกับคนไทยนั้นดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้เสียแล้ว และดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่คนต้องการการเสี่ยงโชค แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาและน่าจะคิดต่อก็คือ เรื่องของความงมงายของคนไทยที่จะให้ได้มาซึ่งเลขเด็ด


 


ในกรณีที่ว่า คนแห่กันไปซื้อหวยกันมากในงวดนี้ก็เพราะว่ามีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ประกอบกันที่ทำให้ผู้สันทัดกรณีทาง "หวย" อดรนทนไม่ไหวต้องซื้อหาเลขนั้น อันดับแรกคือ "เลขมงคล" ซึ่งผู้คนต่างหวังลุ้นในเลขเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ของการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือเลขพระชนมายุของพระเจ้าอยู่หัว หรือแม้กระทั่งหมายเลขของราชพาหนะ หรืออะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


 


นอกจากนี้ เดือนนี้ก็ยังมีตัวเลขที่นิยมกันในหมู่คอเพลงลูกทุ่งที่เรียกกันว่า "เลขพุ่มพวง" โดยเลือกเอาตัวเลขครบรอบวันจากไปของราชินีลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์ หรือตัวเลขอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับพุ่มพวง ดวงจันทร์ เพียงสองเหตุการณ์ที่ประจวบเหมาะก็ทำให้ยอดการซื้อหวยพุ่งทะยานได้มากพอแล้ว แต่ยังมี "เลขพระให้" อีก กล่าวคือ มีพระรูปหนึ่งอ้างว่าให้เลขแม่นเหมือนตาเห็น แถมยังท้าให้บรรดาผู้คนที่ไปขอเลขว่า เตรียมซื้อรถใหม่หรือสร้างบ้านใหม่ได้เลย เพราะเลขที่จะให้นี้ถูกแน่นอน  ผู้คนก็แห่แหนกันไปเฝ้ารอขอเลขเด็ด ในขณะเดียวกันสื่อก็โหมประโคมข่าวกันเติมเข้าไปอีก ในที่สุดคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากการนี้ก็คือ กองสลากและคนขายล็อตเตอรี่นั่นเอง นี่ก็ยังไม่นับเจ้ามือหวยใต้ดิน ที่คนจะรับทรัพย์กันมหาศาลเช่นกัน  


 


ส่วนพระที่ใบ้หวยนั้นเมื่อไม่ออกตามนั้นก็ไม่ได้ละอายแก่ใจแต่กลับกล่าวหาว่า อาจมีการล็อคเลขบ้าง หรือว่าเพราะสื่อบ้างที่ไปนำเสนอมากเกินไปเลยทำให้ "เลขเคลื่อน"


 


ใครจะถูกหวย หรือถูกกินกันบ้างนั้นก็แล้วแต่บุญทำกรรมแต่งกันไป แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ทำให้คิดได้อยู่ 3 ประเด็น ที่ทั้งเชื่อมโยงและไม่เชื่อมโยงกันก็คือ เรื่องของ คนงมงาย พระใบ้หวย และ สื่อ


 


เรื่องของคนนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องหนักข้อขึ้นทุกวันหรือไม่ก็ไม่แน่ใจนักแต่เท่าที่สังเกตเห็นนั้นรู้สึกว่า แม้โลกจะทันสมัยมากขึ้นหรือวิทยาการจะก้าวหน้าแค่ไหนก็ตาม แต่คนไทยกลับงมงายมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าจะเจอเต่า แปดขา หมาสามหู หมูสองหาง หรืออะไรๆ ที่ผิดปกติเมื่อไร ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือต้นไม้ (อาจเป็นแค่ความผิดปกติทางชีวภาพ) เราก็จะยังพบภาพชาวบ้านเข้าไปนั่งกราบไหว้เพื่อขอหวย  ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นใกล้ช่วงหวยออกดูเหมือนจะเป็นสัญญาณบอกถึงตัวเลขทั้งสิ้น แต่หากไม่มีอะไรก็ไปหาเกจิใบ้หวยกัน จะไกลแค่ไหนก็หลั่งไหลกันไป เป็นหนทางให้พวกลวงโลกมีโอกาสทำมาหากินเข้าไปอีก


 


กรณีดังกล่าวนี้น่าสนใจว่าเป็นเพราะคนหมดที่พึ่งกันมากขึ้น คนขาดความรู้ หรือเพราะรัฐบาลสนับสนุนให้หวยเป็นเรื่องถูกต้องชอบธรรม คนจึงยิ่งเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องธรรมดาไป หรือเพราะสื่อทำข่าวเรื่องเหล่านี้มากขึ้นกันแน่


 


อีกประเด็นที่อยากตั้งข้อสังเกตคือ ในขณะที่คนไทยชอบอ้างตนว่าเป็นชาวพุทธ แต่สิ่งที่กระทำนั้นกลับไม่ได้เป็นพุทธเลยแม้แต่น้อย แค่เรื่องความเชื่อก็ผิดหลักคำสอนพระพุทธองค์ที่ว่าด้วยกาลามสูตรเสียแล้ว  ในส่วนของประชาชนธรรมดานั้นอาจจะพออภัยได้มากกว่า แต่เรื่องพระที่ใบ้หวยนั้น ยังสมควรที่จะเป็นพระหรือไม่  เพราะนอกจากจะไม่ได้อบรมสั่งสอนธรรมมะให้กับประชาชนตามกิจของสงฆ์แล้ว ยังใช้ "เดรัจฉานวิชา" ที่ขัดต่อหลักศาสนาอีกต่างหาก ดังนั้น หากตั้งใจที่จะจรรโลงพุทธศาสนาจริงๆ แล้ว ชาวพุทธสมควรที่จะส่งเสริมพระที่ประกอบกิจกรรมเยี่ยงนี้หรือไม่ และควรจะจัดการกับผู้โกนหัวห่มเหลืองแต่กระทำการที่ขัดต่อหลักศาสนาอย่างไรดี


 


ประเด็นสุดท้าย ในกรณีของสื่อ แน่นอนว่า มีสื่ออยู่หลายประเภท และอาจจะมีสื่อที่เน้นเรื่องราวที่เป็นข่าวชาวบ้านเป็นพิเศษนั้นก็มี แต่ไม่น่าเชื่อว่า ถึงตอนนี้กลับไม่มีการแยกแยะ ทั้งสื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์กลับให้ความสำคัญกับเรื่องนี้กันมากๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นความพยายามที่จะนำเสนอให้เห็นในฐานะปรากฏการณ์อย่างหนึ่ง หรือต้องการจะนำเสนอเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความงมงายของประชาชน แต่เท่าที่ดูนั้นเหมือนว่า เป็นการเสนออย่างเมามัน เพราะหนังสือพิมพ์บางฉบับ และโทรทัศน์บางช่อง ถึงขั้นนำเสนอตัวเลขด้วย เท่ากับว่าไม่ได้พิจารณาว่า เป็นข่าวที่มีคุณค่าควรแก่การให้ความสำคัญที่จะเป็นข่าวใหญ่หรือไม่ รายการคุยข่าวบางรายการก็คุยซ้ำแล้วซ้ำอีก  ซึ่งเท่ากับว่ายิ่งเป็นการไปกระตุ้นให้คนยิ่งสนใจไปหาเกจิมากขึ้น หรืออย่างน้อยหลายคนก็อาจอยากลองเสี่ยงกับตัวเลขที่ถูกนำมาเสนอด้วยเช่นกัน


 


และแล้วไม่ว่าจะด้วยสาเหตุว่า คนไทยงมงายมากขึ้น คนขาดที่พึ่ง หรือเป็นเพราะพระที่แทนที่จะสั่งสอนธรรมะแต่กลับมาอวดอ้างให้คนหลงเชื่อ หรือเป็นเพราะสื่อที่มากระตุ้นให้คนอยากได้ตัวเลขเด็ดๆ ที่ร่ำลือกัน จนทำให้เกิดวิกฤตการณ์แย่งชิงล็อตเตอรี แต่สุดท้ายแล้วเข้าใจว่า ส่วนใหญ่ต่างโดนเลขเด็ดเด็ดทรัพย์ไปเสียมากกว่า