Skip to main content

The Review: หนุมานชาญสมร..ร..ร

คอลัมน์/ชุมชน

แม้ว่าจริงๆ แล้วเราจะไม่ได้ฟังเพลงโดยอาศัยการดูปกอัลบั้มเป็นหลัก แต่ปกอัลบั้มดีๆ แปลกๆ ก็สามารถเรียกความสนใจจากคนที่ผ่านตา จนทำให้บางครั้งเราก็ตัดสินใจซื้อซีดีโดยไม่ได้ฟัง...แค่มองว่าปกสวยก็ใช้ได้แล้ว


 


เหมือนกับอัลบั้มชุดแรกของวงดนตรี "หนุมาน" ที่ผมจะหยิบมาเล่าให้คุณๆ ฟังนั่นแหละครับ ที่ปกอัลบั้มของมันเตะตาผมจนผมต้องหยิบมันขึ้นมาดูให้ชัดๆ


 



มันอาจจะไม่นับว่าเป็นปกอัลบั้มที่สวยสุดยอด แต่ไอ้รูปตัวโขนหนุมานผูกเนคไท สะพายกีตาร์ไฟฟ้านั้นก็ชักชวนให้ผมหยิบอัลบั้มนั้นมาฟังเล่นที่บ้านในทันที พร้อมกับคาดหวังว่าน่าจะได้ฟังอัลบั้มเพลงไทยร่วมสมัยเจ๋งๆ (ไอ้ปกแบบนี้ จะให้เดาว่าเป็นอัลบั้มเพลงแนวเมทัล-ฮาร์ดคอร์ก็ดูจะพิลึกไปเสียหน่อย)


 


และหลังจากที่ผมได้ฟังอัลบั้มนี้แบบเต็มๆ ผมว่าผมได้มากกว่านั้นนะ...


 


สิ่งที่ผมว่า "ได้มากกว่านั้น" คือกลิ่นดนตรีที่แปลกกว่า และความง่ายต่อการเข้าถึงในวงกว้างมากกว่าวงดนตรีไทยร่วมสมัยวงอื่นๆ


 


ไอ้กลิ่นดนตรีแปลกๆ ที่ผมว่าเนี่ย ก็คือการที่หนุมานพาดนตรีไทยร่วมสมัยเดินต่อมาจากสิ่งที่วงรุ่นพี่อย่างกังสดาล, บอยไทย หรือบางกอกไซโลโฟนได้สร้างเอาไว้แล้ว และกำลังคลำทางไปสู่การผสมดนตรีไทยเข้ากับดนตรีและการเรียบเรียงที่แปลกออกไป ไม่ว่าจะเป็นการนำเสียงกีตาร์แตกๆ แบบร็อกมาใช้ใน "หนุมาน", การเรียบเรียงให้เพลง "ลาวดวงเดือน" ให้มีจังหวะชวนโยกนิดๆ ชิลด์หน่อยๆ หรือการใส่เสื้อผ้าแบบดิสโก้ให้เพลง "ต้นวรเชษฐ์" ในขณะเดียวกับที่เรายังสามารถหากลิ่นแบบบอยไทยได้ในเพลงอย่าง "Poo Funk"


 


หนุมาน


 



ลาวดวงเดือน


นี่เป็นเรื่องดีที่แสดงว่าแนวรบทางดนตรีไทยร่วมสมัยได้นักรบหน้าใหม่มาร่วมสมรภูมิแล้ว


 


ส่วนที่ผมพูดว่าวงนี้น่าจะสามารถเข้าถึงผู้ฟังวงกว้างได้ดี (ถ้ามีการโปรโมตดีๆ หรือมีดีเจช่วยเปิดเพลงของพวกเขานะครับ) ก็เพราะว่าในอัลบั้มนี้ พวกเขาอุตส่าห์ใส่เพลงช้าๆ ง่ายๆ แบบที่คุณสามารถเอาไปเปิดตามสถานีวิทยุสำหรับพนักงานออฟฟิศ (เช่นพวกคลื่น "เขียวๆ", "กล้วยๆ" หรือ "นิ่มๆ" เป็นต้น) ได้สบายๆ อย่าง "คนที่เธอรัก คนที่รักเธอ", "ต่อไปเถอะ", หรือ "คืนเหงา" ซึ่งฟังปุ๊บ ก็รู้ชัดในบัดดลว่าเพลงที่กล่าวมานั้นกะเอาไว้ "ขาย" แน่ๆ  แต่เป็นเพลงขายที่แอบหยอดสีสันของเครื่องดนตรีไทยเอาไว้พองาม) ซึ่งในสายตาของผม กลับรู้สึกว่าไอ้บรรดาเพลง "ขาย" เหล่านี้มันน่าสนใจน้อยกว่าเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มนะ (คือ...เพลงแบบนี้มันได้ฟังมาเยอะแล้วอ่ะ)


 



คนที่เธอรัก คนที่รักเธอ


แต่ถ้ามีเพลงแบบนี้เอาไว้เรียกนักฟังหน้าใหม่ๆ ให้มาลองฟัง ก็ถือว่าไม่เสียหายอะไร


 


สรุปง่ายๆ สั้นๆ ก็คืออัลบั้มนี้เหมาะสำหรับผู้นิยมเครื่องดนตรีไทยผสมฝรั่งที่ชักอยากหาอะไรที่สนุกกว่างานของวงรุ่นพี่ๆ และผู้ที่อยากเริ่มต้นฟังงานประเภทนี้


 


๗.๕ เต็ม ๑๐ ครับ J


 



ของฝากจากเด็กใหม่ฯ


 


มีเพลงอีกมากมายที่น่าพูดถึง และน่าหยิบมาให้ฟังกัน แต่ด้วยความที่บางครั้ง ผมก็ไม่รู้จะเขียนออกมายังไง หรือถ้าเขียนออกมาได้ ก็สั้นมากเสียจนพาดหัวข่าวใน "ประชาไท" ยังจะยาวกว่าอีก J (จริงๆ การเขียนบทความขนาดเพียงหนึ่งพาดหัวข่าว เพื่อแลกกับค่าเรื่องขนาดเท่ากับบทความขนาดปกติก็นับว่าเป็นเรื่องน่าสนุกอยู่ไม่น้อย แต่... บก. ชูวัสและป้าซัง-ผู้ดูแล section ชุมชนแกคงไม่รู้สึกสนุกด้วยแน่ๆ:-P)


 


ดังนั้น ผมจึงจะนำเอาเพลงเหล่านั้นมาให้เพื่อนๆ ชาวประชาไทนั่งฟังกันเพลินๆ กันทุกครั้งเท่าที่ผมจะนึกออก นอกเหนือจากเพลงที่ถูกแนะนำในบทความ โดยผมจะเลือกเพลงที่ไม่ได้ดังอะไรมากมาย (หรือไม่ก็อาจจะเคยดัง จนในปัจจุบันมันไม่ดังแล้ว) และมีความน่าสนใจอยู่ (อย่างน้อยๆ ก็ฟังเพราะแหละครับ)


 


ของฝากในครั้งแรกนี้ ขอเลือกเพลงที่ชื่อว่า "คืนอันเป็นนิรันดร์" ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครเวทีประจำปีของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ประจำปี ๒๕๔๓ เรื่อง "กาลคืนหนึ่ง" ซึ่งฟังดูเผินๆ อาจเป็นแค่เพลงประกอบละครเวทีนักศึกษาเพราะๆ เพลงหนึ่งเท่านั้น


 


แต่เพลงนี้มีความน่าสนใจตรงที่แต่งเนื้อร้องและทำนองโดยคุณชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล – ผู้กำกับหนังรุ่นใหม่ซึ่งมีผลงานหนังอย่าง "คน-ผี-ปิศาจ" และ ๒ ใน ๓ เสียงที่ร้องเพลงนี้ คือคุณลูกหว้า – พิจิกา จิตตะปุตะ นักร้องนำของวง DooBaDoo และคุณมิ้น – สวรรยา แก้วมีชัย ศิลปินอาร์เอสสายคุณภาพ ที่เพิ่งมีอัลบั้มชุดใหม่ออกมาเมื่อไม่นานมานี้ 

 


ฟังกันได้เลยครับ