รักเอย : เมื่อพวกเขาโยนบาปให้อานุภาพแห่งรัก

ก้อย และ ขวัญ ผู้หญิงสองคนที่มีชะตากรรมคล้ายคลึงกัน คือ ตกเป็นเหยื่อโหดของพิษรักระหว่างหญิงชาย  เธอพกพาหัวใจที่หาญกล้ามาเผยเรื่องจริงในรายการรักเอย เมื่อคืนวันพุธ สัปดาห์ที่แล้ว (21 มิ.ย.49)  

ก้อยอายุ 28 ปี  หน้าตาดี   มีสามีที่ทำร้ายร่างกายเธอจนทนอยู่ด้วยไม่ได้อีกต่อไป จึงขอแยกทางออกมาทำงานหาเลี้ยงลูกตามลำพังโดยที่สามีก็ยังตามงอนง้อขอคืนดีกับเธออยู่เสมอ  เมื่อพยายามทุกหนทางก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจก้อยได้  สามีใจโฉดก็สาดน้ำกรดใส่หน้าอดีตภรรยาเสียเลย  

ส่วนขวัญอายุยังน้อยนิดนัก หน้าตาก็จัดว่าสะสวย เธอมีสามีแล้ว มีพยานรักเป็นลูกสาวด้วย 1 คน  สามีของเธอปันใจไปให้หญิงอื่น  และเพื่อนของผู้หญิงคนนั้นก็พกพาความโกรธแค้นมาจากสาเหตุอันใดก็ไม่ทราบได้  หิ้วน้ำกรดมาสาดหน้าเธอถึงที่ทำงานและก็หนีไปหน้าตาเฉย  อนิจจา !!!! ลูกผู้หญิงด้วยกันแท้ ๆ 

ทั้งสองกรณีนี้เกิดเพราะอานุภาพแห่งรัก ก้อยและขวัญเองก็สนับสนุนคำพูดนั้นว่าทั้งหมดทั้งมวลของชะตากรรมอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอทั้งคู่นั้นมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากรักของผู้ชายที่เธอปลงใจฝากชีวิตไว้กับเขา และเขานั้นก็เป็นผู้ทำลายชีวิตของพวกเธอเสียเอง ถึงวันนี้พวกเธอทั้งคู่ทำใจยอมรับชะตากรรมได้แล้ว และพร้อมจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างกล้าหาญเพื่อลูก เพื่อญาติมิตร และคนที่รักพวกเธอที่คอยอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้เสมอมา    

เป็นเช่นนี้เองหนอ  รักเกินรักมักทำลายทุกสิ่งได้จริง ๆ เสียด้วย  แต่ฉันก็ไม่เห็นด้วยกับประเด็นที่รายการรักเอยจะโยนบาปให้อานุภาพแห่งรักเอาดื้อๆ เพราะทั้งหมดมันเกิดจากความชั่วช้าในกมลสันดานของปัจเจกบุคคลต่างหากเล่า  คนใจบาปหยาบช้าที่ลงมือทำร้ายผู้อื่นได้อย่างไม่สำนึกถึงความผิดบาป   โดยเฉพาะในกรณีของขวัญ คนที่ลงมือทำร้ายเธอนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ ในรักสามเส้าของเธอกับสามีและหญิงอื่นแม้แต่น้อย  

ทุกครั้งที่เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้น เราก็ได้เห็นแต่เหยื่อ เห็นแต่ผู้ถูกกระทำออกมาทำใจ ปลงตก  อโหสิให้   โทษเรื่องเวรกรรมไปโน่น     แต่เราไม่เคยได้รับรู้เลยว่าคนใจโฉดที่ลงมือกระทำเรื่องนี้นั้นพวกเขาได้รับโทษทัณฑ์ของการกระทำที่ผิดบาปของพวกเขาหรือไม่   ถ้าได้รับมันสาสมกับสิ่งที่พวกเขาทำลงไปหรือเปล่า 

ถูกแล้วที่ความยุติธรรมคือการเยียวยา หาใช่การแก้แค้นไม่  ถูกแล้วที่สัตว์โลกย่อมมีกรรมเป็นของตน หากไม่มีเงื่อนกรรมผูกเวรต่อกันแล้วไซร้ย่อมมิอาจทำลายกันได้    แต่ชีวิตดี ๆ ของผู้หญิงดี ๆ ที่ต้องสังเวยให้กับความรักที่บริสุทธิ์ของเธอด้วยการทนอยู่กับบาดแผลทางใจไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังมีอยู่  โดยที่คนบาปที่แท้จริงก็ยังลอยหน้าเสวยสุขอยู่ได้ในสังคม   มันก็ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยที่จะให้ความรักต้องมาเป็นแพะรับบาปเยี่ยงนี้  

ภาพประกอบจาก http://www.thaitv3.com/variety/rakeay.html