Skip to main content

ของนอกบ้าน

คอลัมน์/ชุมชน

หลังจากอาทิตย์ที่แล้ว ทดลองถ่ายภาพของในบ้าน แต่ไม่สำเร็จ เจ๊ – เพื่อนผู้เป็นความหวังเล็กๆ น้อยๆ ของฉันบอกว่า


 


"จะเอาวิว"


 


จึงต้องคอนกล้องออกไปนอกสถานที่บ้าง แต่ก่อนจะไปไกล ลอง "วิว" ในบ้านดูทีซิ


 



 


โต๊ะเล็กข้างหน้าต่างห้องทำงาน จริงๆ แล้วเป็นกล่องเก็บเอกสาร ใช้ผ้าจากนราธิวาสคลุมทับ (มีคนส่งมาให้ เป็นของขวัญบ้านใหม่) แก้วใบเดิมกับดอกกระเจียวป่า (เลียนแบบน้องแมวฯ)


 



 


ส่วนหนึ่งของใบเตยที่นำมาปักแจกัน ซื้อจากตลาดกำละ 5 บาทเท่านั้น ให้ความรู้สึกดีมากๆ หอมชื่นใจ และยังเด็ดใส่หม้อข้าวได้อีกด้วย


 



 


น้อง "ติ๊ก" ที่น่ารัก เอาต้นไม้มาฝาก เธอเป็นช่างปั้นหม้อและตุ๊กตาดินเผาจิ๋วๆ ที่มีเอกลักษณ์ เลี้ยงต้นไม้ก็เก่ง มีร้านเล็กๆ อยู่ที่ถนนคนเดินเชียงใหม่ทุกวันอาทิตย์ (แอบโคดสะนา) ข้อเสียของเธอคือว่า มักจะรีบลดราคาของให้โดยไม่ทันต่อรอง และยัดเยียดของแถมจนไม่อยากเจอหน้าแล้ว เมื่อเอาโปสการ์ดทำมือไปฝากขาย ก็จะชิงเลือกซื้อเก็บไว้เอง เป็นที่เหนื่อยใจมาก


 



 


เริ่มออกนอกบ้านแล้วนะ แต่ไปสะดุดเข้ากับมด! ที่เสาโรงรถ จำได้ว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน มีข่าวชายคนหนึ่งถูกมดตะนอยต่อยที่นิ้ว 1 ตัวเท่านั้น แต่เขาถึงกับเสียชีวิต เพราะเป็นสิ่งที่แพ้อย่างรุนแรง นึกถึงตอนเคยไปเทสต์ภูมิแพ้เหมือนกัน ไม่น่าเชื่อว่า อันดับ 1 ที่ฉันแพ้คือ "แมลงวัน"!


 



 


เด็กหญิงข้าวตังหูแหว่ง แมวประจำครัวเรือนที่ดื้อและซนไม่มีลิมิต แต่ก็เป็นเด็กที่น่าสงสารมาก พ่อเสียชีวิตด้วยไตวาย ส่วนแม่ออกจากบ้านเป็นแมวเร่ร่อน เจอลูกก็เหมือนจำไม่ได้ ตบเอาๆ ส่วนพี่ๆ ก็ทยอยล้มหายตายจาก ยังดีที่มีคุณป้า (อำมหิต) เป็นที่พึ่งพิงทางใจ (บ้าง)


 



 


ใบตีนเป็ดแห้ง เรียกอีกอย่างว่า ใบพญาสัตบรรณร่วงโรย คริ มองผ่านวิวไฟน์เดอร์ เห็นแมวเป็นฉากหลัง ชอบภาพนี้นะ


 



 


แมวไปแล้ว ใบไม้ยังอยู่ นึกถึงบทกวีของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ที่บอกว่า "ใบไม้ร่วงหนึ่งใบในราวป่า ยังดีกว่าใบไม้เหลืองในเมืองหลวง"  เป็นบทกวีที่เขียนถึงจิตร ภูมิศักดิ์ เคยท่องได้ยาวกว่านี้สมัยเด็กๆ มีอีกท่อนที่ชอบมาก


 


"ใบไม้ร่วงหนึ่งใบในราวป่า เพื่อแตกมาเป็นใบใหม่ในทุกที่ จิตรหนึ่งดวงดับไปในวันนี้ เพื่อจะมีจิตรใหม่มากมายดวง


 


แต่อ่านใหม่ในวันนี้ ก็ชักสงสัยว่า ยังจะมี "จิตรใหม่" อีกบ้างไหม?


 


 



 


มาแล้ว คุณป้ามหาภัยของหนูข้าวตัง เธอชื่อ "จับอิดนึ้ง" ยอดขุนโจรในนวนิยายของโกวเล้ง แต่นิสัยต่างกันราวฟ้ากับดิน จับอิดนึ้งเป็นแมวตัวแรกที่ฉันได้รู้จักในเชียงใหม่ เป็นแมวเร่ร่อนที่ทำให้คนซึ่งเร่ร่อนกว่าชักสนใจเช่าบ้านนานขึ้น กล่าวกันตามจริงแล้ว ฉันไม่คิดว่าจะกลับมาอยู่เชียงใหม่อีก นี่เอง ที่เขาบอกว่า ชีวิตคาดเดาไม่ได้


 



 


ชอบร่องรอยบนใบไม้แห้ง (แต่เจ๊จะชอบไหมนะ)


 



 


ออกไปพ้นบ้านเสียที ข้างนอกมีที่ดินแปลงหนึ่งปักป้ายรอขาย ระหว่างที่ยังไม่มีคนมาซื้อ เจ้าของล้อมรั้วด้วยลวดหนาม แต่ดูเอาเถิด ต้นไม้มากมายก็พากันเติบโต ตำลึงกลุ่มหนึ่งผลิดอกออกผลกันสนุกสนาน เป็นที่สำราญแก่นกหนูแมลง ผลตำลึงสุกสีสวยชะมัด


 



 


ปรับหน้ากล้องอีกที เก็บสีจากธรรมชาติไว้ดูเล่น ตอนเด็กๆ ริมรั้วบ้านเราก็มีลูกไม้แบบนี้ แม่จะคอยชี้ให้แอบดูเวลามีนกมาจิกกิน


 



 


ฉันชอบภาพนี้มาก แค่รั้วลวดหนามกับผลตำลึงห่ามๆ ที่อยู่ด้านหลัง จงใจวางองค์ประกอบให้เหมือนเป็นดวงตะวัน สีส้มกลางเขียวกับสนิมแข็งกร้าว อันตรายและความเปราะบาง ธรรมชาติกับสิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือของมนุษย์กับสิ่งที่ธรรมชาติเสกสรร


 



 


คือสีจากตำลึงลูกนี้


 



 


ริมรั้วยังมีดอกหญ้าอีกด้วย แฉกสีน้ำตาลเหมือนดาว (โรแมนติกพอหรือยัง)


 



 


ฉันชอบอารมณ์ของรั้วลวดหนามแฮะ มันคิดอะไรได้หลายอย่าง สมัยที่เคยทำงานในโรงงานที่หนึ่ง ด้านหลังติดกับทุ่งกว้าง เจ้าของโรงงานล้อมรั้วลวดหนามถี่ยิบ จำได้ว่าเพื่อนๆ ก็อุตส่าห์หาวิธีปีนออกไปเพื่อจะเก็บผลไม้นอกรั้ว ซึ่งได้แก่พุทราป่า (รสชาติแย่มาก) เวลาออกดอกก็เหม็นสุดจะทน แต่ก็เป็นของว่างเล็กๆ น้อยๆ ในเวลานั้น แต่ถึงวันนี้ กลับมีบ่อยครั้งที่ฉันคิดถึงเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ เวลาใครสักคนทำหน้าเหยเกตอนลิ้มรสพุทราสุดฝาด สุดเปรี้ยว คิดถึงจริงๆ


 



 


จบแล้ว ออกนอกบ้านไปสองสามก้าว ก็พลันฟ้าครึ้มหม่นมา ฝนจะตก รีบกลับมาปิดหน้าต่างก่อนหายนะจะเยือน หลังคามีรอยน้ำซึมหลายจุด แถมแมวยังขยันทำลายประตูหน้าต่าง ผ่านพุ่มดอกพุดสามสี มีกลีบสีม่วงทิ้งตัวเหมือนหมดอาลัยตายอยาก กดชัตเตอร์เก็บ ว่าจะลองหัดชอบสีม่วงดูบ้าง จะได้เป็นคนโรแมนติกกว่านี้!


 


...................


 


ภาพทั้งหมดนี้ ถ่ายในเวลาไล่เลี่ยกัน ประมาณชั่วโมงกว่าๆ แต่ก็อย่างเคย ส่งให้เจ๊ดูอีกครั้ง และเธอก็บอกว่า


 


"อยากได้คนกางร่มสวยๆ กับเก้าอี้ไม้ในสวน ภาพฝันๆ เฟ้ย ไม่ใช่รั้วลวดหนามกับลูกตำลึง อารมณ์แบบเพลงของบอย โกสิยพงษ์ น่ะ ไม่ใช่คาราวาน ฉันล่ะกลุ้มใจกับเธอจริงๆ!"


 


!??!


ฉันก็กลุ้มใจ เอ่อ...งั้นเอาใหม่อาทิตย์หน้านะ (ใครก็ได้ช่วยฉันที!).