Skip to main content

เลี้ยงน้อง

ปิดเทอมหน้าร้อน จุ๋มไม่ต้องไปโรงเรียน  หากแต่จุ๋มต้องไปช่วยพ่อแม่ที่ท้องนา ข้าวกำลังสุก และรอคอยการเก็บเกี่ยวอยู่อย่างกระวนกระวาย เพราะหากเก็บเกี่ยวช้าเกินไป เมล็ดข้าวก็อาจแห้งเหี่ยวหลุดร่วงไปหรือไม่ต้นข้าวก็จะล้มระเนระนาดยากแก่การเก็บเกี่ยว หรือบางทีฝนที่มาก่อนกำหนดก็อาจจะตกลงมา และทำให้ข้าวที่ลงแรงกายแรงใจปลูกมาเสียหายได้


ในตอนนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่ทุ่งนาสีทอง หมู่ต้นข้าวพากันโน้มคอลงมาด้วยน้ำหนักของรวงข้าวที่สุกปลั่งอยู่ในแสงแดด ภายใต้เปลือกข้าวที่มีสีทองอันเต่งตึงนั้นมีเม็ดข้าวสีขาวซ่อนอยู่ และจะส่งกลิ่นหอมและอ่อนนุ่มเมื่อนำไปหุงกิน


ท้องทุ่งเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา บทเพลงแห่งการเก็บเกี่ยวถูกขับร้องออกมาอย่างรื่นรมย์ เกือบทุกคนในหมู่บ้านพากันมาอยู่ในทุ่งนา เด็ก ๆ จะพากันมาเล่นฟุตบอลในยามเย็น ผู้ใหญ่บางคนก็ปีนขึ้นไปถึงยอดตาลโตนดเพื่อเอาน้ำตาลมาหมักทำเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์


บางคนที่ไม่ได้ทำนาเพราะไม่มีที่นาของตนเองก็เช่าที่นาของคนอื่นเขา สาวรุ่นบางคนรับจ้างเก็บเกี่ยวข้าว บ้างก็รับจ้างไถนา ปีนี้ทุ่งนาให้ผลผลิตดีกว่าปีที่ผ่านมาและราคาก็ดีกว่าด้วย มีพ่อค้าเข้ามารับซื้อข้าวเปลือกถึงในหมู่บ้านและก็ให้ราคาดีเสียด้วย


จุ๋มไปท้องไร่กับพ่อแม่ตั้งแต่เช้า และจะอยู่ในท้องนาจนกระทั่งกลับบ้านในตอนเย็น  และเด็กคนอื่น ๆ หลายคนต่างก็พากันมาอยู่ในท้องนาด้วยเหมือนกัน เพื่อนของจุ๋มซึ่งช่วยพ่อแม่เกี่ยวข้าวอยู่ใกล้ ๆ กัน จะเดินมานั่งเล่นกับจุ๋มเป็นระยะเมื่อรู้สึกเหนื่อยหรือเบื่อ


จุ๋มไม่ได้ช่วยพ่อแม่เก็บเกี่ยวข้าวด้วยหรอก เธอเพียงแต่ต้องคอยเลี้ยงน้องที่มีอายุเพียง 4 เดือน คอยไกวเปลเห่กล่อมให้น้องหลับ  และคอยดูแลมดแมงไม่ให้มากัด เพราะในท้องทุ่งนั้นมีมดและแมลงต่าง ๆ ที่บินอยู่ไปมามากมายเหลือเกิน


ครั้งหนึ่งในขณะที่เธอเผลอไป มดแดงซึ่งหล่นลงมาจากต้นไม้ใหญ่ที่เปลของน้องผูกอยู่วิ่งไต่ไปตามเนื้อตัวอันบอบบางของน้อง มันไต่เข้าไปหลบอย่างเงียบเชียบอยู่ใต้ผ้าอ้อม โชคดีที่มันไม่ได้กัด ไม่อย่างนั้นแล้วน้องเธอจะต้องร้องไห้จ้า


บางครั้งน้องเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา  น้องอาจจะฝันร้ายหรืออะไรบางอย่างคงจะไปรบกวนการหลับของน้อง
เมื่อเป็นดังนั้นเธอก็จะร้องเพลงให้น้องฟังเพื่อขับไล่ฝันร้ายและสิ่งที่คอยรบกวนน้องออกไป  ในขณะที่มือของเธอก็ไกวเปลไป เธอร้องเพลงที่ครูที่โรงเรียนเคยสอน ร้องอย่างเบา ๆ และเธอคิดว่าเธอร้องได้ไพเราะมากเพราะมันทำให้น้องของเธอหลับลงอีกครั้ง


เปลถูกผูกไว้ใต้ต้นหว้าใหญ่  ซึ่งบัดนี้ลูกสีดำได้ถูกมือซุกซนของเด็ก ๆ เก็บไปหมดแล้ว เด็กบางคนเอามีดขึ้นไปรานกิ่งของมันลงมาซึ่งก็ใช้เรี่ยวแรงเวลานานไม่น้อยในการตัดกิ่งหว้าให้หักโค่น  เด็กคนอื่นที่อยู่ข้างล่างก็จะฉวยโอกาสนี้วิ่งเข้าไปเก็บลูกหว้าที่ร่วงลงมา และกินเสียจนลิ้นและริมฝีปากมีสีดำ  เด็กจะแลบลิ้นให้กันและกันเพื่ออวดว่าลิ้น และฟันของใครมีสีดำมากกว่ากันซึ่งถ้าของใครมีสีดำกว่าก็หมายความว่าเด็กคนนั้นได้กินลูกหว้ามากกว่าคนอื่น ๆ


ร่มเงาของต้นไม้ช่วยให้น้องนอนหลับอย่างสบาย  ลมพัดโชยมาจากทางทิศตะวันตก เสียงวัวร้องมอ ๆ มาจากที่ไกล   ถัดจากท้องนาไปแล้ว ที่เห็นเป็นแนวป่าสีทะมึนทึนอยู่นั้นก็คือลำคลองที่จุ๋มไปเล่นน้ำอยู่เป็นประจำ  น้ำในลำคลองนี้เองที่ชาวนาทดเข้ามาใช้ในการปลูกข้าว และปลูกพืชอื่น ๆ  แต่ตอนนี้น้ำในลำคลองแห้งลงมาก ฝูงปลาและสัตว์น้ำพากันไปซ่อนอยู่ในวังน้ำลึกตรงบริเวณคุ้งที่มีต้นไม้ใหญ่


มือข้างหนึ่งของจุ๋มไกวเปลไปช้า ๆ  ในขณะมืออีกข้างหนึ่งก็คอยตบเบา ๆ   ที่สะโพกของน้อง จุ๋มมองใบหน้าเล็ก ๆ ของน้องซึ่งหลับปุ๋ยอยู่ในเปลผ้าขาวม้า เธอไม่แน่ใจว่าน้องจะมีหน้าตาคล้ายเธอบ้างหรือเปล่าเพราะน้องยังเล็กอยู่มาก ยังดูไม่ออก แต่จุ๋มคิดว่านัยน์ตาอันมีแววฉงนของน้องนั้นคล้ายกับนัยน์ตาของเธอ  และก็คล้ายกับนัยน์ตาของแม่


จุ๋มชอบมองพวงแก้มสีแดงของน้องและชอบริมฝีปากบางสีชมพู ซึ่งไม่ว่าจะส่งอะไรให้น้องก็จะกินเข้าไปทั้งนั้น น้องช่างไร้เดียงสาเหลือเกินที่ไม่รู้ว่าอะไรกินได้ หรืออะไรที่กินไม่ได้ ไม่รู้ว่าผลไม้บางชนิดที่อยู่ในท้องทุ่งมีพิษและมีกลิ่นเหม็น ส่วนบางชนิดนั้นสามารถกินได้ น้องมีความสุขกับการกินและน้องก็เพียงแต่กินมันเข้าไปเท่านั้นเอง


จุ๋มชอบมือเล็ก ๆ นิ่ม ๆ ของน้องที่กำอยู่ตลอดเวลาด้วยเหมือนกัน บางครั้งเธอจะสอดนิ้วเข้าไปในฝ่ามือของน้องและน้องก็จะกำไว้มั่น   ฝ่ามือเล็ก ๆ ของน้องทำงานอย่างอัตโนมัติ น้องของเธอกำลังหลับแต่ก็ดูเหมือนว่าน้องกำลังยิ้มอยู่ด้วยปากบางสีแดงของน้องเผยอยิ้มราวกับว่ากำลังฝันถึงอะไรสักอย่างหนึ่ง และความฝันนั้นก็ทำให้น้องอารมณ์ดี


เสียงปี่ซังข้าวแว่วลอยมากับอากาศร้อนในยามใกล้เที่ยง   เสียงปี่ซังข้าวดังขาด ๆ หาย ๆ มันดังมาจากพุ่มไม้ชายทุ่งที่ซึ่งเด็ก ๆ มักจะไปจับกลุ่มกัน  


น้องลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว  เผยให้เห็นดวงตาสีดำสดใสซึ่งมองเห็นโลกที่สวยงาม ดวงตาของน้องจ้องมองไปยังท้องฟ้าเพื่อทำความเข้าใจกับความกว้างใหญ่อันไร้ขอบเขต มีเมฆสีขาวลอยเลื่อนอย่างช้าเชือนอยู่ข้างบน แล้วน้องก็หันมามองจุ๋ม


น้องนอนหลับไปหลายชั่วโมงแล้ว ตอนนี้น้องคงจะหิว  แต่น้องยังคงนอนยิ้มอยู่ในเปล จุ๋มพูดคุยกับน้องและน้องก็ส่งเสียงเอี๊กอ๊ากตอบกลับมา จุ๋มคิดว่าน้องฟังที่เธอพูดรู้เรื่อง น้องบิดตัว ยกขาทั้งสองและถีบไปมาอยู่ในอากาศ  ชูมือทั้งสองข้างแสดงสัญญาณว่าอยากจะลุกออกมาจากเปลแล้ว


จุ๋มอุ้มน้องออกมาจากเปล  เธอหอมแก้มน้องเสียงดังฟอด น้องของเธอยังคงงัวเงียอยู่ ศีรษะของน้องพาดอยู่บ่าของเธอ ใกล้เที่ยงแล้ว แม่กับพ่อกำลังจะขึ้นจากนาเพื่อมากินข้าวเที่ยงซึ่งเตรียมมาจากบ้าน และน้องก็จะได้กินนมด้วยเหมือนกัน


แม่ตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารกลางวันเอาไปกินกันที่นา จุ๋มก็ต้องลุกขึ้นมาช่วยแม่เหมือนกันแม้ว่าแม่จะไม่เรียกปลุกก็ตาม แต่บางครั้งบางคราวพ่อของจุ๋มก็ต้องเป็นคนเตรียมอาหารเองเพราะแม่ต้องดูแลน้องซึ่งร้องโยเยเมื่อตื่นขึ้นมา