Skip to main content

ดินแดนแห่งความรัก

คอลัมน์/ชุมชน




คงเป็นจริงเช่นนั้น, ดินแดนใดมีความรักและความเข้าใจ ดินแดนแห่งนั้นย่อมไม่มีสงคราม
แต่ก็อีกนั่นแหละ, เหตุใดหนอทั่วทุกผืนแผ่นดิน ผืนโลกใบนี้ จึงมีแต่สงครามความขัดแย้งกันอยู่มิรู้สิ้น
"ดินแดนแห่งความรัก" บทกวีของ "ชลกานต์" จึงเสมือนการตั้งคำถาม โดยไม่หวังคำตอบ 
หากเพียงเพียรเฝ้าสะกิดเตือนให้หัวใจผู้คนได้ฉุกคิดกันบ้าง...ว่าแท้จริงชีวิตคนเรานั้นไม่ต้องการอะไรมากเลย







มาเถอะนะ...จะยิ้มพร้อมทายทัก             
มาตระหนักความดีงามยามเหน็บหนาว
ทุกรอยก้าวเราย่ำมีเรื่องราว  
มาเถิดก้าวข้ามมาอย่าหวาดเกรง


นั่นสงครามผู้ใด...ไหนเหตุผล                           
การเข่นฆ่า..ใคร?ทนให้ข่มเหง
หวานดนตรีกวีมีบรรเลง                                   
ไยเร้าเร่งประหัตประหารกัน


แม้นว่าเราจะอยู่อย่างทนทุกข์                         
ก็พอลุกด้วยแรงความใฝ่ฝัน
ยังได้เห็นหยาดน้ำฝนหล่นลาวัณย์                 
มิใช่หวั่นใบหน้าของศัตรู


นั่นสงครามของคนไร้ความรัก                         
จึงย่ำหักดวงใจใครทุกผู้
ดอกไม้ขาวพราวช่อล้อฝนพรู                          
เขาคงไม่เหลียวดูแม้นสักครั้ง


มาเถิดมา ข้ามมายังแดนเรา                         
สงครามแห่งคนเขลาปล่อยเขาคลั่ง
ทิ้งอาวุธในมือของความเกลียดชัง                
แล้วดอกรักจะสะพรั่งทั้งแผ่นดิน


เชื่อฉันเชื่อ ข้างในเธอมีรัก                               
แก่นแท้ใจย่อมจักใช่ผาหิน
เสียงปืนปัง!!..ใครบ้างอยากได้ยิน                
ไม่มีใครชอบกลิ่นเลือดคลุ้งคาว


ทุกขณะเรายังมีที่ว่าง                                   
เพียงเธอเลือกระหว่างดำกับขาว
แม้นฝั่งนี้มิใช่ฝั่งแห่งแสงดาว                        
แต่ใช่ฝั่งความรวดร้าวและรุนแรง


เดินมาหาอ้อมกอดอันอบอุ่น                         
ปีนออกจากความทารุณอันกำแหง
ฉัน-เธอ-เขา..ใจใครเล่าถูกทิ่มแทง               
พังกำแพงสงครามข้ามเข้ามา


                                                                            
                                  ชลกานต์..