ถ้อยคำอันศักดิ์สิทธิ์
คอลัมน์/ชุมชน
ดูเหมือนผู้คนต่างก็มีโลกของตัวเองต่างกันออกไป...นั่นก็ว่ากันมามากแล้ว มันจึงเป็นถ้อยคำอันแสนธรรมดา ความรู้สึกอันคุ้นชินกับทั้งสภาวการณ์และถ้อยคำ
ว่ากันต่ออีกหน่อยว่า...บางคนมีโลกยามเช้า คอยรับแสงแรกแห่งรุ่งอรุณ เราพบผู้คนเหล่านี้ตามตลาดสด และสถานีขนส่งทั่วไป หรืออื่นๆ บางคนมีโลกกลางวัน นี่มากที่สุดก็อาจจะเป็นได้ คนเหล่านี้อยู่ทั่วผืนแผ่นดิน ว่าต่ออีกนิด คนอีกพวกที่มีโลกกลางคืน และเราก็พบพวกเขาตามร้านอาหาร ร้านเหล้าทั่วไป ว่ากันต่อไปอีก ในอีกมิติ โลกของวิถีชีวิตก็เป็นความต่างออกไป แต่เราคงว่าเฉพาะโลก...ในความหมายที่เราพูดถึงนี้ ในความหมายนั้น คืออะไร.....
มีคำพูดหนึ่งสถิตอยู่ในทรงจำผมมาเนิ่นนาน "นกกระจอกไม่รู้หรอกว่า ทำไมอินทรีย์ถึงบินสูง ขณะที่อาหารอยู่ที่พื้นดิน" ในความหมายนี้นกอินทรีย์ดีกว่านกกระจอกกระนั้นหรือ??? ย่อมไม่ใช่ วิถีและวิธีการดำรงอยู่ของชีวิต สายตา และวิธีการมองโลกนั่นต่างหากที่เป็นความแตกต่าง ว่าแบบกำปั้นทุบดิน นั่นเป็นธรรมชาติ ถ้าว่ากันในแง่นี้ อินทรีย์กับนกกระจอกก็ไม่ได้ต่างกัน แต่สิ่งที่ทำให้อินทรีย์กับนกกระจอกต่างกันก็คือ โอกาสในการเข้าถึงความลุ่มลึกแห่งชีวิต ดั่งที่นกนางนวล โจนาธาน ลิฟวิงสตัน เคยแหกกรอบเดิมๆ แห่งนางนวลออกไป เพื่อแสวงหาวิถีการบินที่จะนำพาตัวเองไปสู่อีกภาวะหนึ่ง ว่าต่ออีกหน่อยเถอะว่า ในแง่นี้ หรือนกกระจอกไม่อาจแหกคอกออกนอกกรอบของนกกระจอก.....
ตลอดเวลาของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีผู้คนมากมายเท่าไหร่ที่เคยกล่าว แสวงหา เรียนรู้ คำว่า เสรีภาพ มีใครบ้างที่พบมัน และดำรงอยู่ในนั้น มากมายทั้งหลายทั้งปวงแห่งชีวิตมนุษย์ อาจจะไม่ได้สำเร็จประโยชน์ใดใดได้ด้วยเพียงแต่ถ้อยคำ หากแต่การนำพาทั้งหมดของชีวิต ทั้งกาย ใจ สมอง ไปสู่ขอบเขตอันหมิ่นเหม่ ดังสุดยอดนิยายกำลังภายในยุคใหม่ โดยผู้ประพันธ์ หวงอี้ นั่นก็คือ "มังกรคู่สู้สิบทิศ" โคว่จง กับฉีจื่อ หลิง เพื่อต้องการสำเร็จวิชาตัวเบาที่ได้ร่ำเรียนมาแล้วทางทฤษฎี ได้นำพาทั้งหมดของชีวิตบวกกับศรัทธา กระโดดลงจากหน้าผาสูง......
กระนั้น....ถ้อยคำไม่อาจเกิดขึ้นอย่างไร้ความหมาย บางครั้งมนุษย์อาจให้คุณค่าต่อถ้อยคำเพียงแค่การสื่อสาร หรือแม้กระทั่งสื่อไร้สาร (สาร=สาระ) เท่านั้น และมันแสนเรียบง่าย ธรรมดาแต่บางครั้ง บางสถานการณ์ ถ้อยคำก็กลายเป็นเครื่องมือ หรืออาวุธที่จะใช้สร้าง หรือทำลายโลก หรือแม้กระทั่งเข่นฆ่าผู้คน ถ้อยคำเมื่อกล่าวออกไปแล้ว มันจะดำรงอยู่เป็นนิรันดร์ และแน่นอนว่ามันเปลี่ยนแปลงได้ ยืดหยุ่น เคลื่อนไหวเช่นเดียวกับชีวิต แต่มันดำรงอยู่เป็นนิรันดร์
โบราณกาลนานมา....บรรพชนแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ ได้ให้คุณค่าต่อถ้อยคำมาก เมื่อกล่าวสิ่งใดออกไปแล้ว ต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา นั่นมันเป็นดั่งเดียวกับชีวิต เป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลยหรือมองข้าม เช่นนั้นแล้ว ถ้อยคำจึงศักดิ์สิทธิ์ มีค่า และทรงพลัง...
แล้วถ้อยคำของเธอจะเป็นอย่างไร