Skip to main content

พลิกดินสู่ดาว

คอลัมน์/ชุมชน

กว่า 3-4 มาแล้ว กระแสเรียลิตี้ในวงการบันเทิงบ้านเราก็ไม่มีทีท่าว่าจะซาความนิยมลงแต่อย่างใด    ตรงกันข้าม กลายเป็นเรื่องราวร้อนแรงที่แพร่หลายไปทั่วบ้านทั่วเมือง  ทั้งคลิปวิดีโอเด็กนักเรียนตบกัน  หรือก่อนหน้านั้น  เรียลิตี้ที่อาจสามารถ ก็ทำเอากระแสการเมืองร้อนแรงอยู่พักใหญ่ 



เมื่อข่าวคราว โครงการนักล่าฝันปีที่ 3 กำลังจะเกิดขึ้นลูกหม้อวิกหมอชิต อย่าง  ดาราวิดีโอ จึงส่ง "พลิกดินสู่ดาว" ละครใหม่แกะกล่องลงเรียกเรตติ้งให้ช่องในเวลาหลังข่าวทุกวันศุกร์เสาร์และอาทิตย์ทันควัน


 


เรื่องราวก็ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน โครงการ "พลิกดินสู่ดาว" รับสมัครเหล่านักล่าฝันทั่วฟ้าเมืองไทย เพื่อคัดเอาไว้เพียง 10 คน ให้มาใช้ชีวิต ปฏิบัติภารกิจนานาแล้วแต่คณะกรรมการจะบัญชา   ร่วมกัน ใน "บ้านดาว"


 


ละครเรื่องนี้ใจถึงดีทีเดียว ที่นำเบื้องหลังเรียลิตี้มาตีแผ่ให้คนดูได้รู้เห็น  แม้จะไม่ลงลึกถึงขนาดขุดคุ้ย แต่ก็ทำให้รู้ว่าเบื้องหลังเรียลิติ้ ที่ว่าของแท้ ของจริงนั้น มันมีอะไรมืดดำอำพรางอยู่ทุกรายการนั่นแล    ฉันถึงบางอ้อว่า เหตุใดนักล่าฝันหลาย ๆ คนที่เห็นว่าไม่ควรได้ "ไปต่อ" นั้นเกิดอาการน้ำหู น้ำตารินไหลด้วยความปลาบปลื้มจนเกินงาม  เมื่อเหล่าคณะกรรมการท่านเลือกไว้  กลับกัน บางคนที่ไม่สมควร "กลับบ้าน" ก็ต้องน้ำไหลด้วยความเสียใจ และเสียดายอย่าสุดแสน เพราะกรรมการ และทีมงาน แพ็คกระเป๋ามาแขวนรอที่หน้าเวทีแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลมันมีที่มาจาก "เรตติ้ง"  อันหมายถึงจำนวนคนดูที่มากมายมหาศาล และนำมาซึ่งเม็ดเงินค่าโฆษณาจำนวนมหาศาลเช่นกัน


 


เตวิชญ์ รฎา นับดาว ธันวา พัตเตอร์ ส่าหรี จีจี้ ลายไทย ประกายมุก ร้อยตะวัน   10 นักล่าฝัน ของบ้านดาว ต่างก็เบียดชิงพื้นที่ชองตนในทุกวิถีทางที่จะสามารถทำได้เพื่อเสียงโหวตจากคนดู อันหมายถึงการได้อยู่ต่อไปเพื่อเข้าใกล้ความฝันของตนไปอีกก้าว แม้เป้าหมายในการเข้ามาบ้านดาวในครั้งนี้ หรือการอยู่ต่อไปในบ้านหลังนี้ของทุกคน รายละเอียดปลีกย่อยจะต่างกันบ้าง  เพื่อเงินรางวัลที่จะนำไปรักษาน้องสาวที่ตาบอด  หรือเพื่อพิสูจน์ว่าตนก็มีความสามารถมากไปกว่าการเป็นไฮโซ ที่ใช้นามสกุลของบรรพบุรุษกรุยทาง หรืออะไรก็แล้วแต่  แต่พวกเขาก็เรียกความต้องการเหล่านั้นว่า "ความฝัน " เหมือนกัน


 


นักล่าฝันทั้ง 10 สะท้อนภาพของหนุ่มสาวส่วนมากของบ้านเราในยุคนี้ สมัยนี้ได้ดีทีเดียว  ยุคสมัยที่ทุกคนมีความฝันอย่างแรงกล้าที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงการมายา รวมไปถึงพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายก็ใช่ย่อย  ใส่ความคิดนี้เข้าไปตั้งแต่ลูก ๆ เริ่มรู้ความกระมัง  เมื่อไปถามเด็ก ๆ ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร  คำตอบที่ได้ ส่วนใหญ่คืออยากเข้าวงการบันเทิง


 


เดี๋ยวนี้ความฝันมันเป็นคำบ้านๆ พื้น ๆ ต่ำเตี้ยเรี่ยดินลงไปทุกวัน เด็กๆ ไม่ฝันอยากเป็นหมอ ตำรวจ ทหาร ไม่อยากเป็นนักบินอวกาศ ไม่อยากออกไปสำรวจอีกฟากฝั่งของจักรวาลว่าดาวพุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ เขามีหรือไม่มีสิ่งใดอยู่บนนั้นจริง ๆ หรือเปล่า    แต่เด็กๆ ฝันอยากเป็นนักร้อง ดารา ได้เซ็นสัญญา  5 ปี ได้ออกทีวีทุกวัน หรือฝันได้เป็นนักเต้น  เฮ้อ !!!!  อนาคตของชาติ


 


พลิกดินสู่ดาว  เปิดโอกาสให้นักแสดงได้โชว์ความสามารถทางด้านการร้องเพลง ซึ่งแต่ละคนก็สามารถมาก สามารถน้อย และไม่สามารถเลยแตกต่างกันไป  แต่เทคโนโลยีเสียอย่าง ภาพลักษณ์ที่ออกมาก็เลยยังดูดีอย่างที่เห็น ๆ กันนั่นอย่างไร    จนถึงวันที่นั่งเขียนต้นฉบับอยู่นี้ มีคนถูกโหวตออกไปบ้างแล้ว ส่วนที่ยังอยู่ก็มีภารกิจที่ต้องทำกันต่อไปเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง  พร้อม ๆ กับที่ บรรยากาศของความรัก มิตรภาพ โกรธ เกลียด ชิงเด่น อิจฉา ก็มีมาให้แก้ไขกันไปทีละเปลาะ  ตามแบบฉบับของละครยอดนิยมนั่นแล


 


จะว่าไป พลิกดินสู่ดาว ก็เป็นละครสะท้อนสังคมที่เบาสมอง  ไม่ถึงกับไร้แก่นสารซะทีเดียว  คือดูไป ด่าไป แต่ยังไงก็อดใจเปิดดูไม่ได้อยู่นั่นเอง


 


 


ภาพประกอบ : http://www.ch7.com