Skip to main content

เรื่องของส้ม

ส้มเรียนอยู่ชั้นมัธยม 1 ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงที่มีความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ และเปลี่ยนแปลงในเรื่องอารมณ์ความรู้สึก ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เธอจะเริ่มสนใจในเพศตรงข้าม เธอชอบที่จะมองเด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกันที่หน้าตาหล่อ ๆ และมักจะนำเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กชายที่เธอสนใจมาซุบซิบนินทากับกลุ่มเพื่อนของเธอ 


 


มีเด็กชายหน้าตาน่ารักมากคนหนึ่งที่เธอส่งจดหมายไปหา โดยฝากเพื่อนไปให้ เธอระบุไปในจดหมายด้วยว่าให้ตอบจดหมายของเธอด้วย เธอตั้งหน้าตั้งรอจดหมายตอบจากเด็กชายคนนั้น


 


ส่วนเพื่อน ๆ ของเธอก็จะนำเรื่องราวของเด็กชายคนอื่น ๆ มาเล่าสู่กันฟัง และเล่าถึงประสบการณ์ต่าง ๆ ในการเข้าไปจีบผู้ชาย เป็นเรื่องธรรมดาเสียเหลือเกินสำหรับพวกเด็กหญิงเหล่านี้ที่จะคิดว่าการจีบผู้ชายก่อนเป็นเรื่องที่ถูกต้องในสังคมปัจจุบัน


 


บางทีส้มก็สนใจพวกรุ่นพี่ที่มีอายุมากขึ้นมาหน่อย  ตอนที่เพื่อน ๆ ของพี่ชายมาที่บ้าน เพื่อมาชวนพี่ชายไปเตะฟุตบอลนั้น ส้มก็ตื่นเต้นเป็นการใหญ่ เดินไป เดินมาตลอดเวลา หาเรื่องมาคุยกับพี่ชาย เพื่อที่จะได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเพื่อน ๆ พี่ชายได้ถนัด


 


พี่ชายของส้มซึ่งเรียนอยู่ชั้นมัธยม 5 ก็ไม่แตกต่างจากส้มนัก เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละคืนเพื่อคุยกับสาว ๆ ที่โทรศัพท์มาหาหรือบางครั้งที่เขาเป็นฝ่ายโทรศัพท์ไปหาเอง เขามีโทรศัพท์พีซีทีอยู่เครื่องหนึ่งที่แม่ซื้อให้ และโทรศัพท์เครื่องนี้ก็เหมือนสรณะแห่งชีวิตสำหรับเขา


 


เขาจะนั่งอยู่หน้าบ้านหรือบางทีก็ข้างบ้านหรือบางทีก็ซอกมุมหนึ่งมุมใดของบ้าน ยิ้มหัวไปกับโทรศัพท์ เขาช่างคุยไม่ใช่เล่น สรรหาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคุยได้ไม่รู้จักหยุด  ไม่น่าเชื่อว่าบุคลิกขรึม ๆ ซึม ๆ แบบเขาจะช่างคุยเก่งถึงเพียงนี้


                                                                    


.........


 


แม่ของเด็กทั้ง 2 เข้าใจในเรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะเรื่องที่ลูกทั้ง 2 จะสนใจในเพศตรงข้าม แต่ก็ยังมองมันด้วยความกังวล เพราะลูกสาวยังเด็กมาก แต่ก็แสดงอาการออกมาอย่างน่าเป็นห่วง บางทีชอบเดินไปไหนมาไหนคนเดียวโดยไม่บอกให้ใครรู้  


 


อย่างไรก็ตามกับผู้เป็นแม่ต้องทำมาหากินเพียงลำพังเพื่อเลี้ยงลูก 2 คน ดังนั้นจึงไม่มีเวลาไปใส่ใจเรื่องราวของลูกมากนัก เธอเลิกกับสามีของเธอเพราะรู้ว่าสามีของเธอมีผู้หญิงใหม่ สามีของเธอไม่ต้องการเลิกแต่ต้องการให้เธอทนรับสภาพนั้นให้ได้ เธอทนไม่ได้จึงหอบหิ้วลูกทั้ง 2 จากมา โดยไม่มีสมบัติอะไรติดตัวมาสักชิ้นเดียว ดังนั้นเธอจึงต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์


 


เธอจบเพียงชั้นประถม 4 ชีวิตของเธอคล้ายกับชีวิตของเด็กบ้านนอกหลาย ๆ คนที่เข้ามาในเมืองกรุงเพื่อแสวงโชค ตอนแรกเธอคิดว่าเธอโชคดีที่ได้สามีเป็นคนจีนที่ค่อนข้างมีฐานะ เขามาพักในโรงแรมที่เธอทำงานอยู่ จีบกันไป จีบกันมา เธอชอบเขา และเขาก็ชอบเธอ แต่แล้วในที่สุด เธอก็ได้รู้ว่าโชคดีไม่ได้ยืนอยู่ข้างเธออย่างที่คิดในตอนแรก โชคร้ายต่างหากที่ตามติดตัวเธอโดยไม่ยอมจากไปไหน


 


หลังจากเธอแยกทางกับสามีคนแรกแล้ว เธอก็มาเช่าห้องพักราคาถูกอยู่กับลูก ๆ ที่ยังเล็ก ชีวิตตอนนี้มีแต่ความข่มขืนเจ็บปวดที่เธอไม่มีวันลืมเลย บางวันเธอไม่มีเงินจะซื้อนมให้ลูกสาวซึ่งยังเล็กมาก บางวันเธอก็ไม่มีเงินให้ลูกชายไปโรงเรียน เมื่อเผชิญกับสิ่งเหล่านี้  เธอแอบร้องไห้ให้กับชีวิต แต่จะทำอย่างไรได้ นอกจากกัดฟันและลุกขึ้นมาสู้เท่านั้น


 


จากนั้นไม่นานนักเธอก็มีผู้ชายคนใหม่ เป็นไปได้ว่าความจำเป็นทางเศรษฐกิจผลักให้เธอต้องทำอย่างนี้ เธอต้องหาใครสักคนมาช่วยพยุงเธอ และลูก ๆ ไว้ แต่ผู้ชายคนใหม่ก็ไม่ได้ดีกว่าผู้ชายคนแรกสักเท่าไหร่ ซ้ำยังเหนียวเงินเป็นอย่างมาก เธอจึงเลิกไป


 


ผู้ชายคนต่อมาของเธอไม่เหนียวเงิน ให้เงินเธอใช้ไม่ขาดมือ แต่เป็นคนโมโหร้ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนดื่มเหล้าเมา ผู้ชายคนนี้ทำร้ายลูกชายของเธอที่ยังเล็ก และเธอก็ทนไม่ได้ ดังนั้น ทั้งที่พยายามอย่างที่สุดแล้ว  เธอก็จำต้องเลิกราไปอีกคน


 


ผู้ชายคนต่อมาทำงานธนาคาร เขาใจดีกับเธอมากรวมทั้งใจดีกับลูก ๆ ของเธอด้วย ซื้อขนมให้ลูก ๆ และแสดงออกให้เห็นว่ารักเธอจริงซึ่งก็หมายความว่าพร้อมที่จะรับลูกของเธอด้วย อย่างไรก็ตาม เธอเป็นคนไม่มีโชคเพราะผู้ชายพ่อหม้ายคนนี้ประสบอุบัติเหตุตายไปเสียก่อน


 


ชีวิตของเธอพบกับความโดดเดี่ยวอ้างว้าง เธออยู่กับความปรารถนาซึ่งนับวันจะแห้งเหือดหายไปจากชีวิตอาจมีความสุขเข้ามาแซมปนบ้างแต่มันก็สั้นเสียเหลือเกิน เธอได้รับความทุกข์ระทมมามากพอแล้วและก็ไม่อยากให้ลูก ๆ ของเธอต้องเป็นอย่างเธออีก


 


.......


 


ในกลุ่มเพื่อน ๆ ของส้มหลายคนมีโทรศัพท์ใช้ บางคนก็ใช้พีซีที  แต่ส้มไม่มีใช้ และเธอก็อยากจะได้มันมาใช้เหมือนคนอื่น ๆ บ้าง เธอจึงรบเร้าเรื่องนี้กับแม่ของเธอ   


 


แม่ของเธอตอบว่า "ลูกเรียนอยู่ชั้นม.1 เอง จะเอาไปทำอะไร"


"ก็ทีพี่ชายแม่ยังซื้อให้ได้เลย ไม่เห็นแม่พูดเลยว่าเลยว่าพี่ชายยังเด็ก" ส้มแย้ง


"แม่ซื้อให้บอยตอนอยู่ ม.4 ไม่ใช่ ม.1 ถ้าส้มขึ้นม.4 แม่ก็จะซื้อให้เหมือนกัน" เธอบอก รู้สึกเหนื่อยใจกับท่าทีของลูก


 


"เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนเขาก็มีกันทุกคน" ส้มบอก


"เราไปตามเพื่อนเขาไม่ได้หรอก เราไม่ได้รวยเหมือนคนอื่นเขานี่" ผู้เป็นแม่พยายามชี้แจง "ส้มก็รู้ว่าทุกวันนี้แม่เป็นหนี้เขาจนจะตายอยู่แล้ว"


 


ส้มอยากได้โทรศัพท์มาก เพราะจะได้ใช้มันสำหรับโทรหาเด็กชายคนที่เธอใฝ่ฝันถึง เธอจินตนาการไปต่าง ๆ นานา จินตนาการไปว่าอยู่กัน 2 ต่อ 2 กับเด็กชายหน้าตาสวยงามคนนั้น และเกี่ยวก้อยกันไปดูหนัง ไปร้องเพลงในตู้คาราโอเกะ เขาร้องเพลงให้เธอและเธอก็ร้องเพลงให้เขา  เพลงที่เธอร้องสำหรับเขานั้น เป็นเพลงที่บอกถึงความรักอันเต็มเปี่ยมหัวใจ ฯลฯ


 


วันหนึ่งขณะส้มเดินอยู่เพียงลำพังในตลาดนัดซึ่งจะมีทุกวันพุธในบริเวณลานวัด มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหา และถามเธอว่าอยากซื้อขนมอะไร เขาจะซื้อให้


 


ส้มไม่ตอบว่ากระไร เธอเพียงแต่สายหน้า เธอไม่ชอบชายแปลกหน้าคนนี้ แต่แล้วชายแปลกหน้าก็ถามส้มว่า อยากได้อะไรมั้ย อยากได้โทรศัพท์มือถือมั้ย เขาจะซื้อให้


 


แน่นอนเธออยากได้ ส้มคิดไปว่าถ้าได้โทรศัพท์ เธอจะโทรไปหาเด็กชายคนนั้นทันทีเป็นคนแรก เธอมีเบอร์โทรศัพท์ของเขาอยู่แล้ว


"ถ้าน้าให้โทรศัพท์เธอ เธอจะให้อะไรน้าตอบแทน" ชายแปลกหน้าถามอย่างเลศนัย


ส้มตอบไปว่า "แล้วน้าอยากได้อะไรล่ะ?"